เจาะลึก จนท.ดีเอสไอ ถวายฎีกา ร้องปมทำคดีไม่โปร่งใส มีการเมืองแทรกแซง

กรณีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ รวม 4 นาย ลงชื่อในหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายฏีกาขอความเป็นธรรม โดยระบุว่าความไม่โปร่งใสในการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยเฉพาะกรณีการอายัดทรัพย์สินคดียาเสพติด ที่มีฝ่ายการเมืองควบคุม สั่งการ และอีกหลายกรณี รวม 25 เรื่อง ซึ่งดีเอสไอก็ออกเอกสารชี้แจงว่าการทูลเกล้าฯ เป็นสิทธิ์โดยชอบ แต่ดีเอสไอ ก็ยังมีระเบียบให้ตรวจสอบ และให้ความเป็นธรรมตาม ขั้นตอนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ข่าว 3 มิติตรวจสอบพบว่า เรื่องที่ถูกร้องเรียนมีหลายคดีดัง โดยเฉพาะข้อร้องเรียนการถอนอายัดรถหรู ทั้งที่คดียังไม่สิ้นสุด



หนังสือฉบับนี้ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการคนหนึ่ง เขียนส่งถึงอธิบดีดีเอสไอ เมื่อ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อรายงานว่า เขาได้ทำหนังสือทูลเกล้าฯถวายฎีกา 2 ฉบับ เมื่อวันที่ 6 และ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อขอรับพระราชทานความเป็นธรรม ในการทำงาน โดยหนังสือระบุว่ามีทำงานที่ไม่สุจริตในองค์กรดีเอสไอ และระบุว่า มีข้าราชการอีก 3 คนน ที่เดือดร้อนจากการทำงาน จึงร่วมทูลเกล้าด้วย รวมประเด็นในการทำงาน รวม 25 เรื่อง



ข่าว 3 มิติ ตรวจสอบจากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อระบุว่าเรื่องที่ถูกอ้างถึงมีหลายประเด็น เช่นอ้างถึงคดีที่ดีเอสไอเคยจับเครือข่ายยาเสพติดเจ๊ะชะบา เมื่อปี 2563 โดยยึดอายัดทรัพย์ไว้มากกว่า 500 ล้านบาท ต่อมามีบุคคลในฝ่ายการเมืองแทรกแซง กดดันให้ถอนการอายัด ทั้งที่คดีไม่สิ้นสุด // นอกจากนี้ ก็ระบุว่ามีหลายคดีคล้ายกันคือ นำเลขสืบคดี เป็นเครื่องมือในการยึดอายัดทรัพย์ ทั้งที่ดีเอสไอจะยึดทรัพย์ได้ ต้องเป็นคดีพิเศษก่อน



ข้อมูลอีกส่วนหนึ่งยังระบุว่าในบรรดา 25 เรื่องที่รวบรวมร้องเรียนนั้น มีเรื่องลิฟตโดยสารเก่าในตึกดีเอสไอ แต่มีจนท. นำไปขายร้านขายของเก่า ทั้งที่เป็นทรัพย์สินราชการ กรณีนี้นายอัจฉริยะเคยแจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่ 3 นาย รวมถึงอธิบดี ดีเอสไอด้วยเมื่อปี 2563 และขณะนั้นอธิบดีดีเอสไอ ยืนยันว่ามีการตั้งกรรมการสอบแล้ว



นอกจากนี้ ยังมีเรื่องร้องเรียนละเมิดสิทธิส่วนบุคคลในองค์กร/เรื่องการทุจริตสอบข้าราชการซี 8 และแต่งตั้งซี 9 ระดับผู้อำนวยการกอง ที่มีการร้องให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง



การดำเนินคดีเรื่องรถหรู ก็เป็นหนึ่งในประเด็น ที่ถูกร้องอยู่ใน 25 เรื่องนี้ และเคยมีผู้ร้องป.ป.ช.ไปแล้ว 2 กรณี กรณีแรก เป็นการร้องเรียนที่มีการถอนอายัดรถของกลาง 4 คัน ที่พบว่าโขมยมาจากสหราชอาณาจักร และกรณีที่ 2 คือร้องเรียนการถอนอายัดรถหรู 20 คันมูลค่าเสียหายกว่า 496 ล้านบาท และหลังจากถอนอายัดแล้ว รถ 10 คัน 10 คดี ก็ถูกเปลียนชื่อผู้ครอบครองทันที ประเด็นเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของ 25 เรื่องในหนั้งสือดังกล่าว



ขณะที่ดีเอสไอ ชี้แจงเป็นเอกสารเมื่อเช้านี้ ในประเด็นการทำงานถูกฝ่ายการเมืองแทรกแซงคดียาเสพติด โดยระบุว่าการทำงานของดีเอสไอ เป็นไปตามกฎหมาย และรูปแบบคณะทำงาน ไม่ใช่พนักงานสอบสวนคนใดคนหนึ่งที่จะแทรกแซงได้ง่าย ส่วนการทำงานระหว่างฝ่ายบริหารกับเจ้าหน้าที่อาจเกิดปัญหาเรื่องความไม่เข้าใจกันบ้าง แต่แก้ไขได้ และไม่ให้มีปัญหาในภาพรวม



ส่วนการร้องขอความเป็นธรรม ดีเอสไอ ยืนยันว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง และแม้ว่าการทูลเกล้าฯถวายฎีการ้องทุกข์เป็นสิทธิ์ชอบ แต่ดีเอสไอมีระเบียบ ข้าราชการพลเรือน ที่มีขั้นตอนให้ความเป็นธรรมกำหนดไว้แล้ว สามารถใช้สิทธิ์ทางศาลปกครองได้ และดีเอสไอระบุว่าจะชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ร้องด้วย // มนตรี รายงาน



นี่เป็นกรณีที่ต้องจับตานะครับ เพราะส่วนหนึ่งของเรื่องที่ร้องเรียนเป็นคดีใหญ่ที่สังคมจับตา เช่นการดำเนินคดีรถหรูที่ลักลอบนำเข้าโดยเสียภาษีไม่ถูกต้อง ซึ่งมีข้อร้องเรียนว่า รถหรูดังกล่าวถูกถอนอายัดไป ทั้งที่คดียังไม่สิ้นสุด