ผู้เสียหายคดีหุ้นกู้สตาร์ค จี้ DSI เร่งฟ้องผู้บริหารคนสำคัญ คาใจ ทั้งที่หลักฐานชัด

ผู้เสียหายจากการลงทุนในหุ้นกู้บริษัทสตาร์ค คอร์เปอเรชั่น เรียกร้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินหน้าให้เต็มที่ในการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อให้มากพอที่จะสั่งฟ้องผู้เกี่ยวข้องในการทุจริตบริษัทสตาร์ค หลังจากพบว่ามีผู้ต้องหาคนสำคัญบางคน ยังไม่ถูกสั่งฟ้อง ขณะข่าว 3 มิติ ได้รับรายงานล่าสุดว่า กรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สภาผู้แทนราษฎร เตรียมไปพบนายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ จำเลยในคดีนี้ที่อยู่ในเรือนจำ ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้


นักลงทุนกลุ่มนี้ฉีกสำเนาเอกสารสิทธิ์หุ้นกู้ ที่ตัวเองลงทุนไปในหุ้นกู้บริษัทสตาร์ค คอร์เปอเรชั่น ทิ้ง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าความเสียหายที่เกิดจากการทุจริตในสตาร์ค และความไม่ชัดเจนในการแก้ปัญหาความการทุจริตนั้น ทำให้ความมั่นใจที่จะลงทุนหมดไป

การแสดงสัญลักษณ์ดังกล่าว มีขึ้นระหว่างที่นักลงทุนไปยื่นข้อร้องเรียน ที่ดีเอสไอ เพราะสงสัยว่า เหตุใดนายชินวัตร อัศวโภคี จึงไม่ถูกสั่งฟ้อง ทั้งที่มีหลักฐานหลายอย่างปรากฎชัดเจนว่า มีส่วนชัดเจนในการบริหารบริษัทในช่วงที่เกิดปัญหา


ขณะที่รักษาการอธิบดี ดีเอสไอ รับหนังสือแจ้งข้อห่วงใย และข้อเสนอจากนักลงทุน จากนั้น ใช้เวลาร่วมกันเกือบ 3 ชั่วโมง เพื่อหารือร่วมกัน โดยโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษระบุว่า ข้อมูลที่ได้จะเป็นประโยชน์ในการขยายผลของคดี ส่วนที่อัยการให้สอบสวนเพิ่ม มั่นใจว่จะส่งผลการสอบสวนเพิ่มคืนให้อัยการได้ทันภายใน 7 กุมภาพันธ์นี้


ขณะที่ทนายความของนักลงทุนเปิดเผย หลังการหารือกับดีเอสไอว่า ได้รับทราบทิศทางการขยายผลของดีเอสไอ โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้ถูกสั่งฟ้อง ซึ่งนักลงทุนถือว่ารับฟังได้ แต่ยังต้องติตตามใกล้ชิด โดยเฉพาะการขยายผลกรณีที่นายชินวัตร อดีตผู้บริหารคนสำคัญยังไม่มีชื่อถูกสั่งฟ้อง


ขณะเดียวกัน วันนี้ผู้เสียหายอีกกลุ่มในชื่อ กลุ่มรวมพลังหุ้นกู้สตาร์ค ไปให้ข้อมูลกับกรรมาธิการ ปปง. สภาผู้แทนราษฎร โดยนายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายผู้รับมอบอำนาจจากกลุ่มรวมพลังหุ้นกู้สตาร์ค ระบุว่า กรรมาธิการ ปปง.เตรียมจะไปพบนายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ อดีต CFO ของสตาร์ค และเป็นจำเลยที่ถูกคุมขังในเรือนจำ เพื่อสอบถามในหลายประเด็นเพิ่มเติมในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ โดยเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการขยายผลคดีนี้อีกหลายประเด็น