แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งสอบข้อเท็จจริง ปมครูฝึกลงโทษ นศท. จนไตวายเฉียบพลัน

ความคืบหน้า กรณีนักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 1 เข้ารับการฝึก ที่จังหวัดนราธิวาส แล้วเกิดอาการบาดเจ็บและป่วยฉุกเฉินจากภาวะไตวายเฉียบพลัน จนต้องฟอกไต ซึ่งรองแม่ทัพภาคที่ 4 แถลงล่าสุดว่ากองทัพภาคที่ 4 จะสอบสวนอย่างละเอียด พร้อมทั้งขอโทษครอบครัวนักศึกษา ขณะเดียวกัน ก็มีผู้ปกครองบางคนตั้งข้อสงสัยว่าครูฝึกบางคน ใช้ความสะใจเป็นที่ตั้งหรือไม่


จนถึงขณะนี้ยังมีนักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 1 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อรับการฟอกหรือล้างไต จำนวน 8 คน จากทั้งหมดที่ป่วยฉุกเฉิน 23 คน และทั้ง 8 คน ที่เข้ารับการฟอกไตนั้น อาการปลอดภัยทั้งหมด เช่นเดียวกับผู้ป่วยคนอื่นๆที่ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์และโรงพยาบาลรือเสาะ


ขณะช่วงสายวันนี้พลตรีไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการทหารบก และแม่ทัพภาคที่ 4 ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ พร้อมยืนยันระบุว่าได้ สอบถามผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ฝึกนี้แล้วเบื้องต้นยอมรับว่านักศึกษาที่ป่วย ได้รับการพักในช่วงการฝึกน้อยเกินไปจนอ่อนเพลีย ประกอบกับดื่มน้ำน้อย จนกระทบต่อร่างกาย ซึ่งยืนยันกองทัพจะรับผิดชอบทั้งค่ารักษาและการดูแลบำรุงขวัญผู้ได้รับผลกระทบ ส่วนกรณีครูฝึกนั้นอยู่ระหว่างการตั้งกรรมการสอบสวน


อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองบางคน ยังสงสัยในพฤติกรรมครูฝึก โดยอ้างอิงจากคำบอกเล่าลูกชายว่า ถูกทำโทษทั้งที่ป่วยและนอนพักในเต้นท์ โดยไม่มีใครแจ้งผู้ปกครอง จนนักศึกษาที่ฝึกต้องโทรศัพท์ให้พ่อ เพื่อให้พาไปโรงพยาบาลกระทั่งพบว่าค่าไตผิดปกติอย่างมาก ผู้ปกครองยังตั้งข้อสังเกตุพฤติกรรมการฝึกว่า เป็นการนำอารมณ์ส่วนตัวมาใช้ในการออกคำสั่งจนไม่คำนึงผลกระทบหรือไม่

บ่ายวันนี้พลตรีปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 4 แถลงขอโทษครอบครัวนักศึกษาวิชาทหารที่ได้รับการเจ็บป่วยฉุกเฉินดังกล่าว โดยระบุว่าจะดูแลทุกขั้นตอน และตรวสอบข้อเท็จจริงที่ขึ้นทั้งหมด


พลตรีปราโมทย์ เปิดเผยว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างการฝึกนักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 1 ถึง 3 ภาคปกติ ประจำปีการศึกษา 2565 ที่ศูนย์ฝึกย่อยโรงเรียนนราธิวาส ระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน ถึง 3 ธันวาคม โดยหน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 46


ช่วงหนึ่งที่รองแม่ทัพภาคที่ 4 แถลงระบุว่านักศึกษาเจ็บป่วย จากอาการกล้ามเนื้ออักเสบรุนแรงนั้น วันนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ก็ออกรายงานผลการสอบสวนโรค จากการที่พบกลุ่มก้อนผู้ป่วยที่มีภาวะ กล้ามเนื้อสลาย ของนักศึกษาวิชาทหารดังกล่าว โดยระบุในรายงานว่า เริ่มพบผู้บาดเจ็บกล้ามเนื้อ และปัสสาวะเป็นสีโค้ก ตั้งแต่เย็นวันที่ 26 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันแรกของการฝึก กระทั่งถึงวันที่ 28 ก็พบผู้ป่วยต้องแอดมิด จากภาวะแทรกซ้อน ไตวายเฉียบพลัน ซึ่งครูฝึกให้นักศึกษาส่งรูปปัสสาวะสีโค้กไปให้ดู จึงได้หยุดการฝึกทันที


สำหรับภาวะกล้ามเนื้อสลาย ไม่ใช่กล้ามเนื้ออักเสบ แต่เป็นภาวะที่กล้ามเนื้อลายส่วนที่เสียหาย สลายตัว แล้วปล่อยสารที่ที่อยู่ภายในเซลล์เข้าสู่กระแสเลือดจนอาจทำให้ไตวายได้ ผู้ป่วยที่อาการน้อย พักผ่อนและดื่มน้ำก็หายได้ ในรายที่อาการหนัก ต้องพบแพทย์ และอาจต้องล้างหรือฟอกไต


รายงานผลการสอบสวนโรคดังกล่าว ยังระบุว่ารูปแบบการฝึก และระยะเวลาฝึกหนัก การบริโภคน้ำไม่เพียงพอ สภาพอากาศร้อน และการเข้ารับการรักษาล่าช้าเพราะคิดว่าปัสสาวะสีโค้ก ไม่ใช่สิ่งผิดปกตินั้น เหล่านี้เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้คาดว่าอาจทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อสลาย และมีภาวะไตวายเฉียบพลันได้