อีสานสัญญาณดี น้ำลดต่อเนื่อง หลายเขื่อนปรับลดการระบายน้ำ เร่งคลี่คลายสู่ภาวะปกติ

สถานการณ์น้ำท่วม ทั้งลุ่มเจ้าพระยา และในภาคอีสาน แม้มีแนวโน้มดีขึ้น หลายพื้นที่มีระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง แต่พื้นที่ลุ่มต่ำ ยังคงต้องอยู่กับสภาพน้ำท่วมอีกนานพอสมควร



สถานการณ์น้ำท่วม ที่อุบลราชธานี ยังคงท่วมสูงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีสัญญาณที่ดี เมื่อระดับน้ำมูลได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยวันละ 3 - 4 เซนติเมตร กระทั้งล่าสุดระดับน้ำมูลวันนี้อยู่ที่ 11.09 เมตร สูงกว่าระดับเตือนภัย อยู่ที่ 4.09 เมตร และคาดว่า มวลน้ำในแม่น้ำมูล จะลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง และจากการตรวจสอบปากแม่น้ำมูลในเขตอำเภอโขงเจียม แม่น้ำมูลไหลระบายออกสู่แม่น้ำโขงได้คล่องตัวมาก โดยแม่น้ำโขงต่ำกว่าแม่น้ำมูล อยู่ที่ 3 เมตร จึงทำให้บริเวณน้ำท่วมในเขตตัวเมืองอุบลราชธานี และ อำเภอวารินชำราบ เริ่มลดลง



ขณะที่ จังหวัดกาฬสินธุ์ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าในการซ่อมแซมพนังกั้นน้ำชีที่ขาด ความยาว 50 เมตร สามารถซ่อมแซมได้ระยะทางประมาณ 30 เมตร



โดยภายในคืนนี้จะเร่งซ่อมแซมให้ได้เพิ่มเป็น 35 เมตร เพื่อให้คงเหลือเป็นระยะทางทั้งสิ้น 15 เมตร ซึ่งคิดเป็นความคืบหน้า 70% โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดำเนินการซ่อมแซมให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด



ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำมีแนวโน้มลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้มวลน้ำมหาศาลจากการที่พนังแม่น้ำชีขาดที่ อ.ฆ้องชัย ได้บ่าไหลไปในพื้นที่ลุ่มเขตใกล้เคียง คือ อำเภอกมลาไสย ทำให้ถนนทางหลวงสายกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด ช่วงบ้านหนองบัว ตำบลเจ้าท่า อำเภอกมลาไสย ท่วมสูงกว่า 70 เซนติเมตร ระยะทาง 2 กิโลเมตร จึงขอให้ผู้ที่สัญจรผ่านในช่วงดังกล่าวให้ใช้ทางเลี่ยงตามที่เจ้าหน้าที่เข้าเวรยามแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง



ส่วนที่จังหวัดขอนแก่น เตรียมเรียกประชุมคณะอนุกรรมการลุ่มน้ำชีขอให้เขื่อนอุบลรัตน์ ลดการระบายเหลือวันละ 35 ล้าน ลบ.ม. เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่ใต้เขื่อน ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมภาพรวมเริ่มคลี่คลาย คาดจะเข้าสู่สภาวะปกติกลางเดือนหน้า



นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดขอนแก่น ว่าหลังจากที่เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ได้ปรับลดการระบายน้ำจากสูงสุดวันละ 54 ล้าน ลบ.ม. จนถึงปัจจุบันอยู่ที่วันละ 43 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลให้ระดับน้ำในลำน้ำพองและแม่น้ำชีที่เอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชนเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง



วันพรุ่งนี้ จะได้เรียกประชุมคณะอนุกรรการลุ่มน้ำชี เพื่อขอมติให้เขื่อนอุบลรัตน์ปรับลดการระบายน้ำเหลือวันละ 35 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเท่ากับความจุลำน้ำพอง และจะทำให้น้ำที่ค้างทุ่งและท่วมบ้านเรือนประชาชนไหลลงสู่ลำน้ำพอง ซึ่งจะทำให้สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลงได้เร็วขึ้นและคาดการณ์ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและกลับเข้าสู่สภาวะปกติในราวๆกลางเดือนพฤศจิกายน 2565



ขณะที่ลุ่มเจ้าพระยา สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ ประชาชน ต้องอยู่กับน้ำมานานกว่า 2 เดือน ทั้งที่ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี



ล่าสุดนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำทางตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาลดลงอยู่ในอัตรา 2,790 ลบ.ม./วินาที คาดว่าจะสามารถทยอยปรับลดการระบายน้ำ ผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้เหลือต่ำกว่า 2,700 ลบ.ม./วินาที ได้ภายใน 2-3 วัน ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำที่ล้นตลิ่งบางส่วนทยอยลดลงกลับเข้าสู่ลำน้ำ

แต่ยังคงมีพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่งที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ กรมชลประทาน ได้วางแผนติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังทั้งสองฝั่ง ของแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ช่วยบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนโดยเร็วที่สุดในระยะต่อไป