จับหนุ่มลอบค้าปืนเถื่อนส่งทั่วประเทศ พบขายแล้ว 500 กระบอก ตร.เร่งแกะรอยตามยึด

ข่าว 3 มิติ ยังคงเกาะปัญหาการซื้อขายและครอบครองปืนเถื่อน ล่าสุดได้ข้อมูลจากตำรวจ ตำรวจสืบสวนสอบสวนนครบาล ระบุว่า ได้แกะรอยตามผู้ต้องหาขายปืนมากว่า 5 เดือน พบผู้ต้องหาขายได้กว่า 500 กระบอก ส่งให้กับผู้ซื้อทางไปรษณีย์มาแล้วทั่วประเทศกว่า 500 กระบอก โดยเหตุสะเทือนขวัญรายวันส่วนใหญ่มาจากการเข้าถึงยาเสพติดและการซื้อหาปืนได้ง่าย การกวาดล้างอาวุธปืน ก็เป็นอีกมาตรการหนึ่งที่ รัฐบาลต้องเร่งปราบปรามควบคู่ไปกับการกวาดล้างยาเสพติด



เหตุสะเทือนขวัญรายวันล่าสุด ผู้ต้องหาวัย 27 ปี นำปืน ไปยิงครอบครัวของภรรยา เสียชีวิต 2 ศพ โดยผู้ต้องหาเสพยา และมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาโดยตลอด ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุ ซื้อมาจาก พ่อค้นปืนออนไลน์เจ้าใหญ่จากภาคเหนือ ซึ่งขายปืนไปทั่วประเทศกว่า 500 กระบอก โดยเปิดยูทูบ



ตำรวจ PCT ชุดที่ 5 ได้กวาดล้างไปเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาได้เปิดทั้งช่องยูทูป และกลุ่มไลน์ในการซื้อขายปืน โดยตำรวจติดตามจับนายวัชพล อายุ 21ปี ได้ที่คอนโด ในตัวเมืองเชียงใหม่ พร้อมของกลางเป็นปืนเถื่อน 21 กระบอก เครื่องกระสุนปืน ลำกล้อง จำนวนมาก ส่วนนายทัศน์พล อายุ 28 ปี จับได้ที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ พร้อมปืนเถื่อน 12 กระบอก



พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนนครบาล ระบุว่าได้แกะรอยตามผู้ต้องหาขายปืนมากว่า 5 เดือน พบผู้ต้องหาขายได้กว่า 500 กระบอก ส่งให้กับผู้ซื้อทางไปรษณีย์มาแล้วทั่วประเทศ



ปืนกว่า 500 กระบอกจึงเสี่ยงไปอยู่ในมือของกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติด ที่อาจคลุ้มคลั่ง ก่อเหตุร้ายได้ ปฏิบัติการเร่งหาปืนเถื่อน โดยตำรวจPCTชุดที่5 ได้เร่งค้นสถานที่ต้องสงสัย 4 จุด เป็นบ้านย่านหนองจอก พบเยาวชนอายุ 17 ปี และบ้านย่านคลองสามวา ของผู้ต้องหาอีกราย พบปืนและระเบิดปิงปอง อยู่ภายในบ้าน และขยายผลไปค้นบ้านที่จ.ระยอง จำนวน 2 หลัง พบปืน และเครื่องกระสุนปืน จำนวนมาก



จากสถิติการก่อคดี และรายงานการครอบครองอาวุธปืนในไทยพบว่า คนไทย 10.3 ล้านคนครอบครองปืน ถือว่ามากที่สุดในประเทศอาเซียน ถูกกฎหมาย 6.2 ล้านคน และผิดกฎหมาย 4.1 ล้านคน และอยู่ในลำดับที่ 13 ของโลก สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้เร่งตรวจสอบการขอใบอนุญาติซื้อปืน หรือใบป.3 พบว่า ที่ผ่านมามีขบวนการจัดหาใบซื้อปืนได้ ตำรวจสอบสวนกลางจึงได้ทลายเครือข่าย เบล 1000 กระบอกพร้อมเครือข่าย ซึ่งประกอบด้วยนายญาณเดช นส.กรณิช หน้าห้องของอดีตนายอำเภอไทรโยค



นายสาวิตร อดีตนายอำเภอไทรโยค นายดงพล นายอำเภอศรีราชา นายสุรเชษฐ์ นายอำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด ที่พบหลักฐานการเซนต์ใบอนุญาตซื้อปืนสวัสดิการ โดยผู้ซื้อเป็นม้าที่ถูกจัดทำเอกสารปลอมขึ้น ทำให้ปืนสวัสดิการ ไปอยูู่ในตลาดมืดำจวนวนมาก ซึ่งขณะนี้ตำรวจสอบสวนกลางอยู่ระหว่างรวบรวมสำนวน พยานหลักฐาน โดยผู้ถูกกล่าวหาได้รับการประกันตัวจากศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางแล้ว