สธ.เผยผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยฝีดาษลิง รายที่ 3 ของไทย ไม่มีใครติดเชื้อ

ผลตรวจล่าสุดของผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงคนที่ 3 ของประเทศ ที่มีการยืนยันแล้วว่าผลตรวจเป็นลบ และยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มแต่อย่างใด ขณะที่สถานการณ์ของโรคโควิด-19 ที่ผู้ป่วยมีความต้องการยาโมนูลพิราเวียร์มากขึ้น จนทำให้มีการลักลอบซื้อขายผ่านออนไลน์ ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับตำรวจ ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค จับกุมเครือข่ายขายยาลักลอบนำเข้ายารักษาโควิด-19 ซุกนมผงจากประเทศอินเดีย



นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงษ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยความคืบหน้า ผลตรวจตัวอย่างผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยฝีดาษลิง รายที่ 3 ในไทย ซึ่งเป็นชายชาวเยอรมัน อายุ 25 ปี



ล่าสุดได้ทราบผลตรวจ เบื้องต้นของแฟนสาวชาวไทย ของหนุ่มเยอรมันคนนี้แล้ว โดยผลออกมาเป็นลบ ไม่พบเชื้อฝีดาษลิง เช่นเดียวกับผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก 6 คนในครอบครัว ที่ได้ผลเป็นลบทั้งหมด แต่ยังต้องเฝ้าระวังสังเกตอาการ ต่อจนครบ 21 วัน



อธิบดีกรมควบคุมโรค เชื่อว่า การติดเชื้อของผู้ป่วยชายชาวเยอรมันคนนี้ เป็นการติดเชื้อมาจากต่างประเทศ ขณะนี้ทีมสอบสวนโรค อยู่ระหว่างประสานกับทางเยอรมันว่า ติดเชื้อจากที่ใด ส่วนกลุ่มเสี่ยงสูงทั้งจากชายไนจีเรีย 50 คน และชายไทย 17 คน ยังอยู่ระหว่างสังเกตอาการให้ครบ 21 วัน ตามเกณฑ์ ซึ่งกลุ่มเสี่ยงสูงเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าจะแพร่เชื้อได้



ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ของไทยวันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2,166 คน รวมสะสม 4,598,725 คน รักษาตัวอยู่ 21,377 คน อาการหนัก 905 คน ใช้เครื่องช่วยหายใจ 476 คน เสียชีวิตเพิ่ม 29 คน



ข้อมูลที่น่าสนใจคือช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 24 - 30 กรกฎาคม มีผู้ติดเชื้อนอกโรงพยาบาลที่ตรวจยืนยันด้วย ATK มากถึง 201,554 คน หรือ เฉลี่ยวันละกว่า 28,000 คน ที่ไม่ได้ถูกนับในจำนวนผู้ติดเชื้อยืนยันรายวัน



โดยจากปัญหามีผู้ป่วยโควิด-19 จำนวนมากต้องการยารักษาโควิด 19 ทำให้เกิดปัญหาการลักลอบจำหน่ายยาโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมา ซึ่งวันนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือบก.ปคบ. แถลงผลปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายค้ายาโควิด-19 เถื่อน ในข้อหา ร่วมกันนำเข้าและจัดจำหน่ายยารักษาโควิด-19 เถื่อน หลังได้รับแจ้งเบาะแสจาก อย. ถึงการลักลอบขายยาฟาวิพิราเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ และเรมเดซิเวียร์ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยมีต้นทางจากประเทศอินเดีย



พลตำรวจตรีอนันต์ นานาสมบัติ ผู้บังคับการ บก.ปคบ.ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ล่อซื้อ จนพบหลักฐานการนำเข้าที่แน่ชัดจากประเทศอินเดีย จึงได้เข้าตรวจค้นบ้านพัก 2 แห่ง ในย่านลาดพร้าวและตลิ่งชัน ก่อนเข้าจับกุมผู้จำหน่ายที่รับยาต่อ และผู้ขายผ่านเพจ เฟซบุ๊ก รวมผู้ต้องหาเครือข่ายนี้ทั้งหมด 3 คน โดยยึดของกลาง กว่า 2,300 กล่อง / 80,000 เม็ด



ผลสอบสวนยังพบเส้นทางการเงิน ของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จัดขายยาโควิดเถื่อนไปแล้ว 2 เดือน มียอดเงินหนุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท โดยได้จัดซื้อยาจากอินเดีย ในราคากล่องละ 700 บาท และนำมาขายตั้งแต่ 1,500 บาทจนถึงหลัก 10,000 บาทแล้วแต่ชนิดของยา



นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ยาที่ตรวจยึดไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นยาจริงหรือยาปลอม แต่ทั้งหมดถือว่าเป็นยาเถื่อน เพราะไม่ได้รับอนุญาตนำเข้า จึงจะทำลายของกลางทั้งหมด พร้อมแนะนำประชาชนไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง และต้องเลิกคิดซื้อยามาตุนสำรองไว้ที่บ้าน เพราะโรคโควิด 19 ต้องให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยก่อนจ่ายยา