มียาพอ! อภ.แจงจัดส่ง 'ฟาวิพิราเวียร์' ต่อเนื่อง 'โมนูลพิราเวียร์' มีสำรอง

จากความกังวลเรื่องการจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ สำหรับใช้รักษาผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีกระแสว่า ขาดแคลนในขณะนี้ ล่าสุดองค์การเภสัชกรรม ยืนยันมียาฟาวิพิราเวียร์เพียงพอ โดยขณะนี้มีสำรองอยู่ในคลังแล้ว 25 ล้านเม็ด ขณะเดียวกันก็เตรียมสำรองยาโมนูลพิราเวียร์ไว้อีก 5 ล้านเม็ด เพื่อใช้ร่วมในการรักษา



ชมรมแพทย์ชนบทได้ตั้งคำถามถึงการทำงานขององค์การเภสัชกรรม ประเด็นการจัดสรรยาฟาวิพิราเวียร์ โดยระบุว่า ขณะนี้หลายโรงพยาบาลเริ่มขาดแคลนยาฟาวิพิราเวียร์ จนต้องใช้ยาโมลนูพิราเวียร์แทน ซึ่งยาตัวนี้ก็เหลือไม่มากเช่นกัน ทำให้ผู้ป่วยกลุ่มไม่รุนแรงและผู้ป่วยอายุน้อยต้องใช้ยาฟ้าทะลายโจรรักษาแทน



โดยทางชมรมได้แนะนำให้ องค์การเภสัชกรรม ควรให้เอกชนช่วยจัดหายา เพื่อให้มียาเพียงพอ และไม่ควรได้สิทธิผูกขาดการผลิตและการนำเข้าตลอดเพียงรายเดียว

​

ขณะเดียวกันก็มีแชทไลน์ที่หลุด จากผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ถึงสาธารณสุขจังหวัด และ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล โดยมีเนื้อหา ระบุถึง สถานการณ์พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก และ การขาดแคลน​ยาฟาวิพิราเวียร์​ ที่เหลือในคลังให้ใช้ได้อีก 7 วัน โดยคาดว่ายาฟาวิพิราเวียร์อีก 2 ล้านเม็ด จะจัดส่งได้ในอีก 5-7วัน



ซึ่งได้มีการย้ำในตอนสุดท้ายว่าให้สำรองยาฟาวิพิราเวียร์ สำหรับเด็กอายุน้อยกว่า 18 ปี ในกรณีที่ยาล็อตใหม่มาไม่ทัน โดยให้ผู้ป่วยที่ อายุมากกว่า 18 ปี ใช้โมลนูพิราเวียร์แทน เพื่อสำรองยาให้เด็กก่อนในช่วงนี้



ล่าสุดเภสัชกรหญิงศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ชี้แจงว่า องค์การเภสัชกรรมได้บริหารจัดการสำรอง "ยาฟาวิพิราเวียร์" รองรับไว้ 25 ล้านเม็ด เตรียมจัดสรรให้กับหน่วยบริการแม่ข่ายตามการจัดสรรของศูนย์ ต่อเนื่องทุกวันไม่เว้นวันหยุด ขณะเดียวกันก็ได้ปรับแผนการสำรอง ทั้งการผลิตเองและจัดหาให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด 19 ในประเทศ



สำหรับการจัดสรรยาของอภ. แบ่งเป็น ยาฟาวิพิราเวียร์ เตรียมไว้ 25 ล้านเม็ด จัดสรรไปแล้ว 3.7 ล้านเม็ด ส่วนที่เหลือ 21.3 ล้านเม็ดส่งมอบในวันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้



ส่วน "ยาโมนูลพิราเวียร์" เตรียมไว้ 5 ล้านแคปซูล ได้ส่งมอบให้ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขแล้ว 2 ล้านแคปซูล เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ส่วนอีก 3 ล้านแคปซูล อยู่ระหว่างการจัดหา คาดว่า สามารถส่งมอบได้ไม่เกินปลายเดือนกรกฎาคม นี้



ส่วนประเด็นการรักษาที่ใช้ในปัจจุบัน นายแพทย์ จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ยืนยันว่าประชาชนยังเข้ารับบริการตามสิทธิเดิมได้ทันที แม้จะมีการปรับหลักเกณฑ์การค่าบริการโควิด-19 โดยยังไม่มีการยกเลิกระบบการรักษาแบบโฮมไอโซเลชั่น เพียงแต่เป็นดุลยพินิจของแพทย์ในการเลือกแนวทางการรักษา หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่สายด่วนสปสช. 1330