สังคม

บุกรวบ! โจรกางเกงใน อ้างมีไอดอลเป็น 'โรบินฮู้ด' รับนำมือถือขโมยมาแจกคนจน เหตุมีปมในวัยเด็ก

โดย parichat_p

5 ก.ค. 2565

352 views

หนุ่มเดินสายทั่วประเทศขโมยโทรศัพท์มือถือ เดินทางไปแต่ละภาค ขโมยมือถือไม่ต่ำกว่า 100 เครื่อง โดยมีเอกลักษณ์ขณะก่อเหตุ จะใช้กางเกงชั้นใน สวมอำพรางที่ศีรษะ จนได้ฉายาว่า จอมโจรกางเกงในตัวเดียว


พฤติการณ์คนร้ายที่ปรากฎด้วยการสวมกางเกงในตัวเดียว ทั้ง 9 คดี และบางครั้งนำกางเกงในมาสวมเป็นหมวก ลักทรัพย์เป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ครั้งละกว่า 100 เครื่อง จนได้ฉายาว่าจอมโจรกางเกงใน ทั้งภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออกสวมกางเกงในตัวเดียวมาแล้ว และยังลอยนวลแบบไร้เงามาได้ทุกครั้ง ครั้งล่าสุด เมื่อดึกสงัดตี2 ของวันที่ 3 ที่ผ่านมา


จอมโจรกางเกงในสวมกางเกงในตัวเดียวเข้าไปขโมยโทรศัพท์มือถือ ในร้านจำหน่ายอุปกรณ์ไอที ชื่อดัง สาขานครนายก ได้โทรศัพท์ 89 เครื่องรวมไอแพดและอุปกรณ์รวม128 รายการ มูลค่าเกือบ 2 ล้านบาท ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนภูธรภาค 2 ได้รับแจ้งเหตุจึงระดมทีมสืบสวนร่วมกับตำรวจPCTชุดปฏิบัติการที่5 แกะรอยติดตามจนทราบว่าคนร้ายก่อเห ตุซ้ำซากด้วยชุดกางเกงใน แต่ครั้งนี้เริ่มเห็นเงาของคนร้ายแล้ว


ชุดสืบสวนได้สะกดรอยมาที่ห้องพัก ที่คอนโดหรูเดือนละกว่าหมื่นบาท ย่านลาดพร้าว พบนายฮามะ หรือคาร์มัส อายุ 23ปี เดินเข้าห้องพักซึ่งเปิดไว้โดยไม่ใช้ชื่อตัวเอง แต่เป็นชื่อแฟนหนุ่ม เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเคาะประตูอยู่นานไม่มีใครเปิด


เมื่อเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปในห้องได้ พบโทรศัพท์ของกลางจำนวนมาก พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ได้ซักถามนายคาร์มัส จนยอมรับว่าเป็นบุคคลที่สวมกางเกงในก่อเหตุจริงเคยเป็นเด็กเร่ร่อนไม่มีโทรศัพท์ใช้ จึงฝังใจมาแต่เด็ก บางส่วนนำไปแจกให้คนเร่ร่อนในกรุงเทพฯและบ้านเกิด จังหวัดนราธิวาส ทั้งเงิน และโทรศัพท์



เนื่องจากตนเป็นคนไร้บ้านมาก่อน จึงอยากเป็นเหมือน "จอมโจรโรบินฮูด" แต่สื่อกลับตั้งฉายาว่า "โจรกางเกงในโรคจิต" ตำรวจได้ควบคุมตัวนายคาร์มัสไปค้นสถานที่ซุกซ่อนโทรศัพท์ในจ.นครนายก หลังจากได้ขโมยมาได้ 2คืน การขโมยโทรศัพท์ได้กว่า120 รายการ ทำให้ไม่สามารถแบกถุงผ่านกล้องวงจรปิดได้ ผู้ต้องหารายนี้จึงใช้วิธีหลบกล้องกระโดดข้ามกำแพง นำโทรศัพท์มาซุกซ่อนในบ้านร้าง ที่ชาวบ้านลือกันว่าเป็นบ้านผีสิง


จากของกลางจะเห็นเป็นซองและเงิน รวมทั้งโทรศัพท์จำนวนมาก แต่จากการสืบสวนพบว่าการแจกจ่ายโทรศัพท์เป็นการทำให้ตำรวจไขว้เขว ว่าโทรศัพท์ที่ขโมยมาไปอยู่ในมือของคนเร่ร่อนหลายกลุ่ม แล้วใครเป็นคนร้ายตัวจริง เพราะผู้ต้องหารายนี้ไม่มีที่มา ที่ไป ไม่ใช้โทรศัพท์ ไม่มีรถ ไม่มีบ้าน ย้ายคอนโดมิเนียมอยู่กับเพื่อนชายไปเรื่อยๆ


เมื่อทราบว่าตำรวจจับผู้ต้องหาได้ โดยใช้เวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง เจ้าของร้านขายโทรศัพท์ ซึ่งของหายเกลี้ยงร้านจนเกือบเป็นหนี้ร่วม 2 ล้านบาท นึกไม่ถึงว่าจะได้โทรศัพท์คืน การจากการขโมยโทรศัพท์เป็น 100 เครื่อง ในร้านที่มีสัญญลักษณ์กล้วยหอม ทั่วประเทศ และภาคใต้ จึงน่าเกรงว่าโทรศัพท์เหล่านี้จะถูกใช้ไปในการก่อคดีในหลายรูปแบบ

คุณอาจสนใจ

Related News