สังคม

จับพนันออนไลน์ พบนายทุนชาวไทย-ชาวจีน อยู่เบื้องหลัง ยึดทรัพย์ได้เกือบ 43 ล้านบาท

โดย kodchaporn_j

28 มิ.ย. 2565

1.6K views

บ่อนที่รัชดา แม้จะมีชื่อคนไทยเป็นเจ้าของ แต่ก็มีข้อมูลระบุว่า มีนายทุนชาวจีนเข้ามาเกี่ยวข้อง คล้ายๆกับรูปแบบของบ่อนออนไลน์ ที่ตำรวจจับได้ในวันนี้ ที่มีนายทุนทั้งชาวไทยและชาวจีน อยู่เบื้องหลังเปิดการพนันออนไลน์



โดยล่าสุดตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ PCT จับกุมกลุ่มคนกดเงินจากบัญชีม้า โดยผู้ต้องหากลุ่มนี้จะตัดตอน แบ่งหน้าที่กันทำงาน และถอนเงินเป็นเงินสด เพื่อนำไปให้กลุ่มนายทุน โดยซุกซ่อนไว้ที่ห้องพักหลายแห่ง ยึดเงินได้เกือบ 43 ล้านบาท 


ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ PCT สะกดรอยตามกลุ่มกดเงินจากบัญชีม้า ที่เปิดไว้เพื่อรับการโอนเงินจากผู้เข้ามาเล่นการพนันออนไลน์ โดยสามารถจับผู้ต้องหา ได้ทั้งหมด 4 คน ซึ่งทำหน้าที่ในการกดเงินจากบัญชีม้า



และเมื่อผู้ต้องหากลุ่มแรก กดเงินเรียบร้อยแล้ว ขณะกำลังจะนำเงินส่งให้กับผู้ต้องหากลุ่มที่ 2 บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านรัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเข้าจับกุมขณะตรวจค้นพบเงินสดติดตัวประมาณ 3 ล้านบาท



หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ พา นางสาวมรกต ไปค้นห้องพักย่านเพชรบุรีตัดใหม่ พบเงินอีก 18 ล้านบาทซุกซ่อนอยู่ ขณะที่ชุดสืบสวนอีกชุดได้ขยายผลไปตามคำให้การของผู้ต้องหาที่จับกุมได้ก่อนหน้า ไปตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ได้ผู้ต้องหาเพิ่ม 1 ราย แต่ผู้ต้องหารายนี้ ซุกซ่อนเงินสดจำนวนมากถึง 21 ล้านบาท



รวมผลการตรวจค้นครั้งนี้ จับกุมผู้ต้องหา 6 ราย เป็นชาย 3 ราย หญิง 3 ราย พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์ 3 คัน เงินสด จำนวน 42 ล้านบาทเศษ บัตรเอทีเอ็ม 70 ใบ โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่องกระเป๋าแบรนด์เนม 5 ใบ เครื่องนับธนบัตร 2 เครื่อง รวม 6 รายการ มูลค่ากว่า 43,000,000 บาท นับเป็นการยึดของกลางได้จำนวนมาก แม้จะมีการตัดตอนแบ่งหน้าที่ไม่ให้เชื่อมโยงถึงกัน โดยการใช้ทั้งบัญชีม้า และกดเงินสด เพื่อไม่ให้มีหลักฐานเส้นทางการเงิน



เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้ต้องหายังคงให้การรับสารภาพว่าเงินทั้งหมดจะถูกส่งมาที่ผู้ต้องหารายสุดท้าย ที่ถือครองเงินจำนวน 21 ล้านบาท แต่ตำรวจเชื่อว่าจะต้องมีผู้ที่อยู่ในลำดับที่สูงกว่า เพราะลักษณะการก่อเหตุที่มีการรวบรวมเงินเป็นเงินสดไว้จำนวนมาก น่าจะมีวิธีการฟอกเงินด้วยวิธีต่างๆรวมถึงการนำเงินสดถือออกนอกประเทศ



ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 6 จะเป็นคนไทย แต่เชื่อว่าเจ้าของที่แท้จริงอาจจะไม่ใช่คนไทย อยู่ระหว่างการขยายผลตรวจสอบในประเด็นดังกล่าว ขณะที่เงินจำนวน 42 ล้านบาทนี้ จากการสืบสวนพบว่าเป็นเงินที่มีการหมุนเวียน หลายเข้าระบบมาในระยะเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น



ส่วนเว็บไซต์ อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีการเปิด - ปิดมาแล้วกี่ครั้ง หรือ มีการเปลี่ยนชื่อ หรือมีการเปลี่ยนเลขไอพีเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบมานานแล้ว

คุณอาจสนใจ

Related News