สมาคมวิชาชีพสื่อฯ เร่งหาความจริง "ทิดกาโตะ" แฉนักข่าวรับ 3 แสน แลกปิดข่าวมั่วสีกา

กลายเป็นประเด็นร้อน เมื่ออดีตพระกาโตะ หรือชื่อจริงคือ นายพงศกร จันทร์เเก้ว อดีตพระนักเทศก์ที่เพิ่งลาสิกขา หลังมีคนปล่อยคลิปเสียงโดยกล่าวหาว่า "พระกาโตะ" มีความสัมพันธ์กับสีกาหลายครั้ง ซึ่งเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ร้ายเเรงถึงขั้นอาบัติปาราชิก

วันนี้ (2 พ.ค.) อดีตพระกาโตะ ออกมายอมรับว่าเป็นเรื่องจริง เเละยังพาดพิงไปถึงนักข่าวท้องถิ่นบางราย มีพฤติกรรมรับเงิน 3 เเสนบาทเพื่อปิดข่าว เรื่องนี้ร้อนไปถึง สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช ออกเเถลงการณ์ยืนยันไม่เคยรับเงินจำนวนนี้ 

และเมื่อ 19 นาฬิกาที่ผ่านมา นายยุทธนา แต่งวงศ์ นายกสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช เข้าแจ้งความที่สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ให้ดำเนินคดีกับ นายพงศกร จันทร์เเก้ว หรืออดีตพระกาโตะ ในข้อหาหมิ่นประมาท หลังกล่าวหากลางรายการโหนกระแส ระบุว่ามีนักข่าวท้องถิ่นรับเงิน 3 แสนบาท เพื่อปิดข่าวฉาวกับสีกา โดยยืนยันว่า ทางสมาคมฯไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรับเงิน ตามที่อดีตพระกาโตะอ้าง

จุดเริ่มต้นของประเด็นนี้ เกิดขึ้นในรายการโหนกระเเส เมื่อผู้ร่วมรายการ ตั้งคำถามกับอดีตพระกาโตะ ที่ต่อสายโฟนอินเข้ามาในรายการ ซึ่งอดีตพระรายนี้ ยอมรับว่า คลิปเสียงที่มีการกล่าวหา ว่าตนเองไปมีเพศสัมพันธ์กับสีกาเป็นเรื่องจริง เเละยังพาดพิงไปถึงนักข่าวท้องถิ่นบางราย มีพฤติกรรมรับเงินจำนวน 3 เเสนบาท เพื่อปิดข่าว

เเม้ในรายการ จะไม่ได้บอกชัดเจนว่าให้เงินใครเเละใครเป็นคนรับเงิน เเต่จากข้อกล่าวหานี้ ก็ทำให้เพจเฟซบุ๊ก "สื่อมวลชนนครศรีธรรมราช" ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "พระกาโตะแฉ นักข่าวที่ไม่นำเสนอเรื่องนี้ รับเงิน 3 แสนบาท ควรออกมายอมรับต่อสังคม"

เเละต่อมา นายยุทธนา แต่งวงศ์ ซึ่งเป็นนายกสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช ได้ไลฟ์ในเพจของสมาคมฯ ยืนยันว่า ตนเองได้นำเสนอข่าวเรื่องอดีตพระกาโตะ กับหญิงสาวรายนี้มาตั้งแต่ต้น จนกระทั่งอดีตพระกาโตะลาสิกขาออกมา ขอยืนยันว่า นักข่าวของสมาคมไม่มีใครรับเงินตามที่อดีตพระกาโตะให้สัมภาษณ์ เเละจากนี้จะไปสอบสวนข้อเท็จจริงว่ามีนักข่าวคนใดไปรับเงิน ตามที่่อดีตพระกาโตะกล่าวอ้างหรือไม่

นายยุทธนา ยังยืนยันด้วยว่า แม้ว่าอดีตพระกาโตะจะสึกแล้ว เเต่นักข่าวท้องถิ่นของสมาคมก็จะไม่หยุดทำข่าว และจะตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง เพื่อเปิดโปงขบวนการทำร้ายพระพุทธศาสนา

ทั้งนี้ก่อนหน้า พระครูสิริธรรมาภิรัต เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช เคยออกมาให้ความเห็นเรื่องนี้ แม้อดีตพระกาโตะ จะลาสิกขาไปแล้ว แต่คณะสงฆ์ก็จะทำการสอบสวนตามขั้นตอน เพราะเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อพระพุทธศาสนาอย่างร้ายแรง หากพบว่า อดีตพระกาโตะทำผิดจริง ก็ถือว่าขาดจากความเป็นพระ และไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ได้

ความคืบหน้าล่าสุด มีรายงานจากนักข่าวในพื้นที่ คุณนุชจรี เเรกรุ่น ระบุว่า เงินจำนวน 3 เเสนบาท จากอดีตพระกาโตะ ได้เอาไปให้พระผู้ใหญ่รูปหนึ่ง เเละพระรูปนี้ ได้คุยกับนักข่าวคนหนึ่งจริง เเต่สุดท้ายเงินจำนวนนี้ก็ยังไปไม่ถึงนักข่าว