สาวหลอก ตร.ถูกลักพาตัว-ดูดเลือด ในกัมพูชา รับกุเรื่อง เหตุคิดถึงแฟน อยากกลับบ้าน

จากกรณีหญิงไทยวัย 25 ปี คนหนึ่ง อ้างถูกเเก๊งค้ามนุษย์ในกัมพูชา ลักพาตัวขณะลักลอบเข้าไปทำงานเป็นเเก๊งคอลเซนเตอร์ ทำร้ายร่างกายเเละฉีดยาสลบ ดูดเอาเลือดของเธอไปมากถึง 3 ถุง ต่อมาทางการไทยได้ประสานกับประเทศกัมพูชา เข้าไปช่วยเเละพากลับประเทศ ซึ่งขณะนั้นเธออ้างว่า ยังมีคนไทยอีกจำนวนไม่น้อยที่กำลังตกเป็นเหยื่อ ถูกวางยา-ผ่าอวัยวะในร่างกายไปขาย สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ ประสานกับตำรวจกัมพูชา ตรวจสอบเเละพบว่าไม่ใช่เรื่องจริง ล่าสุด หญิงคนนี้ออกมาสารภาพ ยอมรับ เป็นคนปั้นเรื่อง-สร้างพยานหลักฐานเท็จ เพราะคิดถึงเเฟนเเละต้องการเดินทางกลับประเทศ



9 มีนาคม 17.30 น. ที่จุดผ่านเเดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระเเก้ว นี่คือคนไทยกลุ่มล่าสุด ที่ได้รับการช่วยเหลือเเละพากลับประเทศ หญิงวัย 25 ปีคนนี้ คือหนึ่งในเป้าหมายที่มีการประสานความช่วยเป็นกรณีเร่งด่วน หลังส่งข้อความเขียนด้วยลายมือ ระบุว่าตัวเองชื่อไนท์ มีเเฟนเป็นผู้หญิงชื่อปาม อ้างถูกยึดโทรศัพท์ โดนทุบตี - เเละดูดเลือด จึงร้องขอให้ทางการไทยเร่งเข้ามาช่วยเหลือ ก่อนจะถูกนำไปขายต่อให้กับขบวนการค้ามนุษย์



มีภาพข้อความสนทนาบางส่วน ที่ ไนท์ หรือชื่อจริงคือ นางสาวอารียา คมกระโทก เเช็ทคุยกับหญิงที่ชื่อเนม เเละเนมก็ คนที่ส่งต่อข้อความทั้งหมดถึงเจ้าหน้าที่ไทย อ้างถูกทารุณกรรมจากเเก๊งที่รอยสัก รูปสัญลักษณ์คล้ายซาตาน วึ่งมีพฤติกรรมโหดเหี้ยม วางยาสลบ-ดูดเลือด เเละมีคนไทยอีกไม่น้อยที่สูญหาย จากการถูกคนกลุ่มนี้ผ่าอวัยวะไปขาย



หลังกลับเข้าประเทศ เธอถูกส่งไปกักตัวตามขั้นตอน ระหว่างนั้นกระทรวงมหาดไทยเเละสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ ขยายผลเเละประสานกับตำรวจกัมพูชาทันที เเละพบว่าคำกล่าวอ้างทั้งหมด เป็นเรื่องลวงโลกที่ไม่ได้มีอยู่จริง จับพิรุธได้ตั้งเเต่ อ้างว่าถูกลักพาตัวเเต่ยังมีกระเป๋าเดินทางติดตัว อ้างไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เเต่ไม่ยอมบอกพิกัด เรื่องนี้อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ



นางสาวอารียา ยอมรับว่า เฟซบุ๊กหญิงที่ชื่อเนม เป็นเฟซอวตารที่ทำขึ้นมาเพื่อกุเรื่อง เหตุที่ต้องปั้นเรื่องโยงใยไปถึงเเก๊งค้าอวัยวะ เพราะคิดถึงเเฟนเเละอยากกลับประเทศ หลังลักลอบเข้ากัมพูชาตั้งเเต่ต้นปี 2564 ทำงานให้เเก๊งต้มตุ๋นชาวจีน สวมรอยโทรศัพท์กลับมาหลอกคนไทย หรือที่รู้จักกันในนามเเก๊งคอลเซนเตอร์



พล.ต.อ.วรรณวีระ สม ในฐานะผู้เเทนฝ่ายกัมพูชา บอกว่า เรื่องนี้ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของกัมพูชา ยืนยันว่า ทั้งไทยเเละกัมพูชา ประสานความร่วมมือกันตลอด เเละที่ผ่านมาตำรวจกัมพูชา ได้ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาเเก๊งคอลเซนเตอร์ได้จำนวนมาก



โดยนางสาวอารียา จะถูกดำเนินคดีหลายข้อหา ทั้งความผิดที่เกี่ยวกับลักลอบเข้า-ออกประเทศ ฉ้อโกงหลอกลวงคนไทย เเละความผิดฐาน เเจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จเเละสร้างพยานหลักฐานเท็จ อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี จากนี้จะส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่สภ.อรัญประเทศ



ขณะที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ บอกว่า ที่ผ่านมาช่วยพาคนไทยกลับมาเเล้วกว่า 700 ชีวิต มีทั้งที่ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกจริง เเละที่เเอบอ้าง เตือนผู้ที่คิดจะลักลอบข้ามไป จะถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเเก๊งคอลเซนเตอร์ ที่อ้างว่าถูกหลอกเเต่ก็ยังพบประวัติ ข้ามไป-กลับกัมพูชา หลายครั้ง