กรมมลพิษสั่งหาต้นตอถังสารเคมี ที่ชาวบ้าน อ.สีคิ้ว ซื้อมาล้าง ทำปนเปื้อนแหล่งน้ำ

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ จะประสานกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เจาะสำรวจและตรวจคุณภาพน้ำใต้ดิน ในชุมชนแห่งหนึ่งที่อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา หลังจากมีชาวบ้าน 13 คน ซื้อถังสารเคมีมาล้าง เพื่อนำถังไปขายต่อ ส่วนสารเคมีที่ตกค้างในถัง ถูกชะล้างจนปนเปื้อนแหล่งน้ำในพื้นที่ พร้อมเร่งสืบหาบริษัทที่เป็นต้นตอของสารเคมี ที่ขายออกมาโดยไม่บำบัดให้ถูกต้อง ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา สั่งตรวจสอบเร่งด่วน หลังผลตรวจคุณภาพน้ำเบื้องต้น พบสารโลหะหนักหลายชนิดปนเปื้อน



นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา สั่งให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเร่งด่วน กรณีชาวบ้าน 13 ราย ในหมู่บ้านซับชุมพล ตำบลหนองหญ้าขาว อำเภอสีคิ้ว นครราชสีมา รับซื้อถังสารเคมีมาจากที่อื่น เพื่อมาล้างทำความสะอาดในพื้นที่แล้วนำถังนั้นไปขาย โดยผุ้ว่าราชการจังหวัดจะลงตรวจสอบอีกครั้งวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้



กรณีดังกล่าวถูกเปิดเผยทั้งผ่านสื่อมวลชน และจากมูลนิธิด้านสิ่งแวดล้อม ที่รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากกลิ่นสารเคมี และน้ำสารเคมีที่ถูกชะล้างปนเปื้อนลงแหล่งน้ำ ทั้งในคลองอีสานเขียว และอ่างเก็บน้ำซับกระบุตร



เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 นครราชสีมา ได้รายงานผลการตรวจสอบผลกระทบน้ำเสียจากกิจการล้างถังบรรจุสารเคมี ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดและอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า ถังสารเคมีดังกล่าวมีทั้งที่เป็นพลาสติกและที่เหล็ก ขนาด 200 ลิตร และถังพลาสติกสี่เหลี่ยมขนาดบรรจุ 1000 ลิตร ซื้อมาจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภายนอกถังมีฉลากกำกับว่าเป็นวัตถุอันตราย เชื่อว่าใช้ในกระบวนการอุตสาหกรรม หรือสิ่งปฎิกูล หรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว



ซึ่งการนำออกจากโรงงาน ขนส่ง และกำจัด ต้องได้รับอนุญาตและเป็นไปตาม ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม แต่ผู้ประกอบกิจการทั้ง 13 รายดังกล่าวว่าไม่มีใบอนุญาตใดๆ แม้มีข้อมูลว่า ได้ยื่นขออนุญาตจาก อบต.หนองหญ้าขาว แต่อบต.มีข้อบัญญัติท้องถิ่นว่าด้วยกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตั้งแต่ปี 2540 ที่ไม่ครอบคลุมกิจการล้างถังสารเคมี จึงออกใบอนุญาตไม่ได้



อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า กำลังเร่งประสานตำรวจ ปทส.เพื่อสืบหาต้นตอ

หรือแหล่งมาของถังสารเคมีเหล่านี้ เพื่อเอาผิดไปให้ถึงกิจการต้นตอ ที่ระบาย หรือขายถังสารเคมีออกมาโดยไม่กำจัดให้ถูกต้อง นอกจากนี้ยังได้แนะนำให้ท้องถิ่น ใช้อำนาจทางปกครอง เพื่อให้ทั้ง 13 ราย ระงับในทันที



ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 ตรวจคุณภาพน้ำ ทั้งหมด 5 จุด โดยตรวจที่คลองอีสานเขียว 4 จุด



จุดที่ 1 บริเวณณต้นน้ำเหนือชุมชนดังกล่าว จัดอยู่ในแหล่งน้ำผิวดินประเภท 3 คุณภาพน้ำพอใช้

จุดที่ 2 คลองอีสานเขียว พบแคดเมียม แมงกานีส จัดอยู่ในแหล่งน้ำผิวดินประเภท 5 คุณภาพน้ำเสื่อมโทรมมาก

จุดที่ 3 คือคลองอีสานเขียวตอนกลาง บริเวณที่ทำกิจการล้างถัง คุณภาพน้ำพอใช้ แต่ถูกปนเปื้อนด้วยโหละหนัก ทั้งแมงกานีส นิกเกิ้ล เหล็ก และตอนท้ายของคลองอีสานเขียว คุณภาพพอใช้



ส่วนอ่างเก็บน้ำซับกระบุตร น้ำในเกณฑ์พอใช้ แต่ถูกปนเปื้อนด้วยโลหะหนัก ทั้งเหล็ก แมงกานีส และสังกะสี ตอนนี้ส่งหนังสือให้ชุมชนทราบ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้น้ำดังกล่าวไปก่อน