เบทาโกร ปัดกักตุนเนื้อหมูกว่า 200,000 กก. ยันเป็นสินค้าที่เก็บเพื่อส่งขายตามปกติ

กรมปศุสัตว์ ร่วมกับพาณิชย์จังหวัดหลายพื้นที่กระจายกำลังตรวจสอบห้องเย็น ที่ใช้เก็บเนื้อสุกร เพื่อตรวจสอบว่าเข้าข่ายกักตุนหรือไม่ โดยกรณีพบเนื้อสุกรกว่า 2 แสนกิโลกรัม ในห้องเย็นที่จังหวัดสงขลา อยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่บริษัทเบทาโกร ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ชุดดังกล่าวจะชี้แจง เบื้องต้นบริษัท แจ้งเป็นเอกสารยืนยันว่าเป็นสินค้าที่เก็บเพื่อส่งจำหน่ายตามปกติและอ้างว่ามีหลักฐาน แจ้งหน่วยงานรัฐ ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 25645 หรือไม่


หลังใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อประชุมข้อเท็จจริง กรณีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและอายัดเนื้อสุกรจำนวน 211,361 กิโลกรัม ในห้องเย็นบริษัท ปิติซีฟูดส์ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ว่าเข้าข่ายกักตุนหรือไม่ ล่าสุดได้รับการยืนยันว่า เนื้อสุกรที่เก็บในห้องเย็นดังกล่าว เป็นของบริษัทเบทาโกรเกษตรกรอุตสาหกรรม จังหวัดพัทลุง ที่นำเข้ามาเก็บไว้และหมุนเวียนเข้า-ออก ในช่วง 3เดือนที่ผ่านมา


นายสัตวแพทย์ณัฐชัย วรสุทธิ์ หัวหน้าด่านกักกันสัตว์สงขลา อ้างอิงถึงข้อมูลการเคลื่อนย้ายสัตว์ช่วง 3เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีปริมาณสูงกว่าปกติ และเมื่อตรวจสอบข้อมูลการเคลื่อนย้ายสัตว์ผ่านระบบอิเลกทรอนิกส์ ย้อนหลังไปตั้งแต่พฤษภาคม 2564 ถึงมกราคม 2565 พบว่ามีเนื้อสุกรนำมาเก็บไว้ 85 ครั้ง ยอดรวมรวม 574,541 กิโลกรัม นำออกไป 21 ครั้ง รวม 167,058 กิโลกรัม เท่ากับต้องเหลือสุกร 407483 กิโลกรัม


แต่จากการที่เมื่อวานนี้ด่านกักกันสัตว์สงขลา ตรวจเช็คสต็อคพบว่ามีสินค้าคงคลัง เหลือ 201,650 กิโลกรัม เท่ากับยังขาดอยู่อีก 205833 กิโลกรัม ที่ไม่ตรงตามยอดในเอกสาร จึงจำเป็นต้องตรวสอบซ้ำให้ละเอียด


นางฉัตรสุดา ชุมแสง พาณิชย์จังหวัดสงขลา ระบุว่า ห้องเย็นดังกล่าวมีความผิดปกติตรงที่ไม่ได้แจ้งการครอบครองสุกรไปที่พาณิชย์จังหวัด ให้ทราบตามกำหนด ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2565 ซึ่งกำหนดให้ผู้ครอบครองเนื้อสุกรน้ำหนักรวมตั้งแต่ 5 พันกิโลกรัมขึ้นไป ต้องแจ้งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดภายในวันที่ 10 มกราคม 2565 และแจ้งครั้งถัดไปภายในวันจันทร์ของสัปดาห์ถัดไป


อย่างไรก็ตาม พาณิชย์จังหวัดได้รับแจ้งจากบริษัทเบทาโกร ที่เป็นเจ้าของสุกรและบริษัทปิติซีฟูด ที่ให้เช่าห้องเย็นว่า มีเอกสารหลักฐานชัดเจน และบัญชีครบถ้วน และจะนำส่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดโดยเร็ว


นางฉัตรสุดา ระบุว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายกักตุนเนื้อสุกรหรือไม่ ต้องรอตรวจสอบบัญชีของทั้ง 2 บริษัทให้ชัดเจนก่อน เนื่องจากยอดที่บริษัท เบทาโกร แจ้งไว้ 47,000 กิโลรัม ไม่ตรงกับยอดจริงที่อยู่ในห้องเย็น และจะต้องวิเคราะห์การรับเข้า-จ่ายออก ช่วงที่ผ่านมาดว้ยว่า สม่ำเสมอหรือก่อนหน้านี้หรือไม่


ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ถอนอายัดเนื้อสุกรแล้ว เพราะขั้นตอนต่อไป จะเป็นการตรวจสอบจากเอกสาร

ขณะที่บริษัทเบทาโกรฯ ชี้แจงว่าเนื้อสุกรดังกล่าว เป็นการจัดการสินค้าคงคลังโดยปกติ เพื่อสำรองสินค้ารองรับการจัดส่ง 5-7 วัน โดยยืนยันว่า แจ้งข้อมูลปริมาณเนื้อสุกรทั้งหมดที่เก็บในห้องเย็นนั้นต่อกระทรวงพาณิชย์ให้รับทราบล่วงหน้า ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 17 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา จำนวน 211,361 กิโลกรัม


พร้อมยืนยันว่า การจัดการสต็อกดังกล่าวเป็นการจัดการสินค้าคงคลังตามแนวทางปฏิบัติโดยปกติ มิใช่การกักเก็บสินค้าเป็นเวลานาน เพื่อเป้าหมายด้านราคาที่สูงขึ้นแต่ประการใด


วันนี้ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังตั้งวอร์รูมคณะทำงานติดตามราคา ในหลายพื้นที่ โดยระบุว่ากระทรวงพาณิชย์ไดรับรายงานตัวเลขปริมาณสุกรและชิ้นส่วนในระบบ เมื่ 17 มกราคม อยู่ที่ 8352 ตัน แต่จะต้องส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบซ้ำในแต่ละพื้นที่ว่าตรงกับตัวเลขที่รายงานหรือไม่