'เสรีพิศุทธ์' จี้กกต. ดำเนินคดีอาญา 'สิระ เจนจาคะ' พร้อมชดใช้ค่าจ่ายต่าง ๆ คืนรัฐ

ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติให้นายสิระ เจนจาคะ พ้นจากสมาชิกภาพ ส.ส. หลังได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.กทม.ของพรรคพลังประชารัฐ ตั้งแต่ปี 2562 โดยพล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เดินหน้าดำเนินคดีอาญา สิระ เจนจาคะ และย้ำว่าต้องคืนเงินหลวงทั้งหมดที่ได้รับนับแต่เป็น ส.ส.

มติเสียงข้างมากของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้นายสิระ เจนจาคะ พ้นจากสมาชิกภาพ ส.ส. เริ่มจาก พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่เปิดเปิดเผยว่า เมื่อปี 2538 นายสิระ เคยถูกศาลแขวงปทุมวันตัดสินคดีร่วมกันฉ้อโกง ให้จำคุก 8 เดือน นายสิระ รับสารภาพ จึงได้ลดโทษเหลือ 4 เดือน การถูกศาลสั่งจำคุกและคดีถึงที่สุด ถือเป็นคุณสมบัติต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ พร้อม ส.ส.ฝ่ายค้านรวม 145 คน จึงได้ร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร จนเป็นที่มาของมติศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 ที่เห็นว่า นายสิระเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

โดยวินิจฉัยให้สมาชิกภาพของนายสิระสิ้นสุดลงนับตั้งแต่วันเลือกตั้ง คือ 24 มีนาคม 2562 และให้จัดการเลือกตั้งซ่อมภายใน 45 วันนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ซึ่งจนถึงขณะนี้ นายสิระ ยังไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะ หรือให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ มีแต่ผู้ร้อง คือ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ที่ยืนยันว่า นายสิระ ต้องคืนเงินหลวงทั้งหมดที่ได้รับนับแต่เป็น ส.ส.

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวด้วยว่า ได้ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อให้ดำเนินคดีอาญากับนายสิระ กรณีให้การเท็จเรื่องคุณสมบัติการลงสมัครรับเลือกตั้ง เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแล้ว กกต.ต้องแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งคดีนี้มีโทษจำคุก 1-10 ปี ไม่มีรอลงอาญา และถูกตัดสิทธิทางการเมือง 20 ปี ตอนนี้นายสิระ อายุ 57 ปี อีก 20 ปีก็ครบ 77 ปี แล้วค่อยมาเจอกัน รวมถึงต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อมใหม่ด้วย