เลือกตั้งและการเมือง

'เลขาฯ กกต.' แจงระเบียบแนะนำตัวผู้สมัคร สว. 'ธนาธร' มั่นใจแค่รณรงค์ สว.ไม่ผิดกฎหมาย

โดย passamon_a

29 เม.ย. 2567

223 views

เลขาฯกกต. แจงระเบียบแนะนำตัวผู้สมัคร สว. ยันทำตาม รธน. และเพื่อความเป็นธรรม ลั่นผู้สมัคร สว.อย่าคิดเอาเปรียบคนอื่น


ธนาธร เมิน กกต. มั่นใจคณะก้าวหน้า แค่รณรงค์ สว. ไม่ผิดกฎหมาย อัดใช้อำนาจเกินขอบเขต-ขัดต่อการพัฒนาการเมืองไทย บอกอย่ากลัว สว.สีส้ม ให้กลัว สว.สีอื่นดีกว่า เชื่อก้าวไกลแจงคดียุบพรรคได้ มองชื่อพรรคไม่สำคัญเท่ากับสมาชิก 1 แสนคนจะไปต่อด้วยหรือไม่



เมื่อวันที่ 28 เม.ย.67 นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. โพสต์เฟซบุ๊ก ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องการแนะนำตัวผู้สมัคร สว. หลังจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับระเบียบของ กกต. ที่ออกมา ดังนี้


"สว.รัฐธรรมนูญออกแบบใว้อย่างไร...

ทำไมต้องแนะนำตัว ห้ามหาเสียง มันต่างกันอย่างไร...

โทษการแนะนำตัว กับโทษทุจริตในการเลือก...

การให้ความรู้ เชิญชวนคนสมัครทำได้ไหม...

ทำไม กกต. ออกระเบียบแนะนำตัวแบบนี้...

1. สว. ตามรัฐธรรมนูญมีลักษณะอย่างไร

1) วุฒิสภา "ต้องต่างจาก" สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา "เป็นสภาผู้ทรงคุณวุฒิ" แต่ สภาผู้แทนราษฎร "เป็นสภาของนักการเมือง"

2) สมาชิกวุฒิสภา (สว.)"ต้องเป็นกลางทางการเมือง ตาม ม.114 ของรัฐธรรมนูญ แต่สภาผู้แทนราษฎร(สส.) "เป็นสภาของนักการเมือง"

3) สว. เป็น "สภาผู้ทรงคุณวุฒิ" จากกลุ่มสาขาอาชีพต่างๆ แต่ สส. เป็น "สภาของสมาชิกพรรคการเมือง"

4) สว. มีที่มาจาก "การเลือก"กันเองของผู้ทรงคุณวุฒิ แต่ สส. มาจาก "การเลือกตั้ง" ของประชาชน

5) สว. ต้องเป็น "ผู้ทรงคุณวุฒิ คือ อายุ 40 ปีขึ้นไป มีประสบการณ์ในสาขาอาชีพ และเป็นกลางทางการเมือง ซึ่งต่างจาก สส.โดยสิ้นเชิง ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่ต้องมีประสบการณ์ในสาขาอาชีพ และ เป็นนักการเมืองเต็มตัว

2. การแนะนำตัว(เลือก) และการหาเสียง(เลือกตั้ง)

ด้วยเหตุข้างต้นที่รัฐธรรมนูญออกแบบให้ สว.มีลักษณะดังกล่าว กม .จึงกำหนดให้ผู้สมัคร สว. ทำได้แค่แนะนำตัว นั้นหมายความว่าห้ามหาเสียงโดยปริยาย เพราะเชื่อว่าผู้ทรงคุณวุฒิด้วยกันเองที่สมัครทุกคน มี ความดี เด่น ดัง ในสาขาอาชีพของตัวเองเป็นที่ประจักษ์และทราบกันดีในวงการนั้นดีอยู่แล้ว และด้วยเป็นผู้ทรงคุณวุฒิจะมี "วิจารณญานในการเลือก"ที่ถูกต้องได้เป็นอย่างดี โดยไม่มีการจัดตั้ง ฮั้วกันในการเลือก

1) การแนะนำตัว คือ การบอกว่าตัวเองเป็นใคร มีประสบการณ์ในกลุ่มสาขาอาชีพนั้นอย่างไร แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ทรงคุณวุฒิด้วยกันเองมีข้อมูลในการเลือกในการเลือกกันเองแล้ว ไม่ว่าจะเลือกในกลุ่มหรือเลือกไขว้ก็ตาม

2) การหาเสียง คือ การหา หรือขอคะแนนนิยม โดยการโฆษณา การเสนอนโยบาย หรือการแสดงวิสัยทัศน์ ของพรรคการเมืองและผู้สมัคร

ดังนั้นเมื่อพูดถึงที่มา ของ สว. ต้องรู้ให้จริงว่ามาจาก "การเลือก/การแนะนำตัว" อย่าไปสับสนกับที่มา สส.ที่มาจาก "การเลือกตั้ง/การหาเสียง" นั้นแสดงว่ารู้ไม่จริง หรือแกล้งไม่รู้เพื่อให้ประชาชนสับสนหรือประโยชน์ทางการเมือง

3. โทษการแนะนำตัว และโทษการทุจริตในการเลือก

1) โทษของการแนะนำตัว เช่น การขอคะแนนกัน การแลกคะแนนกัน(ยังไม่ซื้อเสียง) ตั้งแต่หนึ่งคนขึ้นไป ศาลฏีกาได้วินิจฉัยฉัยใว้แล้วว่าเป็นการแนะนำตัวไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ตามคำพิพากษาศาลฏีกา ที่ 5606/2562 และ ที่ 5217/2562 พิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง(ใบดำ/ตลอดชีวิต) นั้นหมายความว่า การจัดตั้ง การฮั้ว (ยังไม่ได้ใช้เงินซื้อเสียง)ก็อยู่ในลักษณะความผิดนี้ด้วย

2) โทษของการทุจริตในการเลือก เช่น การซื้อเสียง รวมทั้งโทษอื่น เช่น จ้างให้คนลงสมัคร รับจ้างสมัคร สมัครโดยเอกสารเท็จ รับรองการสมัคร กลุ่มความผิดนี้ มีทั้ง เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง(ใบแดง) จำคุก และเสียเงินค่าปรับด้วย

ดังนั้น ให้พึงระวังให้ดี แม้ไม่ได้กระทำผิดตามข้อ 2)เรื่องการทุจริตในการเลือก แต่แนะนำตัวไม่ถูกต้องตามกฎหมาย มีความผิดโดนใบดำได้

4. การให้ความรู้ การเชิญชวนลงสมัครทำได้หรือไม่

การให้ความรู้ การเชิญชวนลงสมัครโดยทั่วไปแล้วหยุดแค่ให้ความรู้ หรือเชิญชวน ลักษณะนี้โดยตัวมันเองทำได้อยู่แล้ว แต่อาจเป็นเหตุให้เป็นความผิดอื่นได้ เมื่อได้ดำเนินการต่อเนื่องจากการให้ความรู้ หรือการเชิญชวน อาทิ

1) การตั้งกลุ่ม เพื่อติดต่อกันไม่ว่าในช่องทางใดๆ เช่น การตั้งกลุ่มไลน์ และมีการแลกคะแนนกัน ขอคะแนนกัน การฮั้วกัน เป็นต้น

2) การสร้างกลุ่มแต่มีการแนะนำตัว ไม่เป็นไปวิธีแนะนำตัวตามที่ระเบียบกำหนด เช่น การเสนอนโยบาย เป็นต้น

ทั้งนี้ ขึ้นกับข้อเท็จจริงเป็นกรณีๆ ไป

5. ทำไม กกต. ออกระเบียบแบบนี้

กกต.ออกระเบียบว่าด้วยการแนะนำตัว บนหลักการ 3 ประการ

1) เพื่อให้ได้สมาชิกวุฒิสภา ตามที่รัฐธรรมนูญออกแบบใว้ ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น

2) เพื่อการแข่งขันที่เป็นธรรม ผู้ทรงคุณวุฒิเดินมาสมัครด้วยตัวเอง หากมีมีการจัดตั้ง การบริหารจัดการอยู่เบื้องหลัง การจัดตั้งกลุ่มทำไห้ได้ สว. ไม่เป็นอิสระ ไม่เป็นกลาง และเอาเปรียบคนตั้งใจดี

3) หวังดี คุ้มครองผู้สมัคร ส่วนคนที่คิดจะไปเข้ากลุ่มจะได้คิดว่า กลุ่มนั้นจะทำผิดวิธีแนะนำตัวหรือไม่

อยากเป็น สว. ต้องแนะนำตัวให้ถูก ไม่ยากเลย และเป็นธรรมกับทุกคน อย่าคิดเอาเปรียบคนอื่น

ทุกความเห็น เรารับฟังมาตลอด ไม่ว่าความเห็นนั้นจะไม่อยู่บนหลักกฎหมาย หรือมีแรงจูงใจทางการเมืองหรือไม่ แต่สุดท้าย เราก็ต้องทำตามกฎหมาย ไม่อาจทำตามความต้องการของคนกลุ่มใด กลุ่มหนึ่งได้..."


ด้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีประกาศ กกต. ที่ระบุว่าการณรงค์ชักชวนคนให้ลงสมัคร สว. อาจเข้าข่ายมีความผิด มีความกังวลเรื่องนี้หรือไม่ ว่า ตนไม่กังวลใจอะไร ก็คงเดินหน้าทำงานตามปกติ ตนเชื่อว่าสิ่งที่เราทำคือการรณรงค์ให้คนมาสนใจการเลือก สว. ให้คนมาลงสมัคร สว.นั้นเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการเมืองไทย และไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร ดังนั้นเรื่องนี้ไม่มีความกังวลใจและทำงานต่อ อย่างวันนี้ก็อยู่ที่ จ.หนองบัวลำภู และในวันที่ 29 เม.ย. ก็จะไปรณรงค์ในลักษณะเดียวกันที่ จ.สกลนคร


เมื่อถามว่าอยากให้ กกต.ทบทวนคำสั่งหรือประกาศที่ออกมาหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า คิดว่าประกาศฉบับนี้อาจมีข้อท้วงติงทางกฎหมายได้ ว่า กกต.อาจจะใช้อำนาจเกินขอบเขตที่กฎหมายกำหนดไว้ ส่วนเนื้อหานั้นตนเห็นว่าเป็นเนื้อหาที่ขัดต่อการพัฒนาการเมืองไทย ที่สำคัญมากก็นั้นก็คือลองคิดดูว่าคนจำนวนมาก ไม่สนใจ ไม่เล็งเห็นความสำคัญของการเลือก สว. และไม่เข้ามามีส่วนร่วมก็จะทำให้การเลือก สว. นั้นเป็นการเลือกที่ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมน้อยมาก ซึ่งจะเอื้อต่อการซื้อเสียง และเอื้อต่อการเกณฑ์คนที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกันมาลงสมัคร ทำให้วัตถุประสงค์ที่อยากให้ สว.มาจากกลุ่มคนที่มีความหลากหลาย และเป็นที่ยอมรับในวิชาชีพนั้น ๆ เป็นไปได้ยาก สุดท้ายก็จะได้แต่คนที่มีทรัพยากร ในการเกณฑ์พวกพ้องกันมาสมัคร


เมื่อถึงข้อครหาว่าการรณรงค์ของคณะก้าวหน้า อาจทำให้ได้ สว.สีส้ม ทางคณะก้าวหน้าจะชี้แจงอย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า "ผมว่าไม่ต้องกลัวหรอกครับ สว.สีส้ม กลัว สว.สีอื่นดีกว่า เพราะว่าเอาเข้าจริง ๆ สิ่งที่เราทำก็คือการรณรงค์ให้คนตระหนักถึงความสำคัญ และมาลงสมัครกัน สำหรับคนที่มีทรัพยากรที่พอจะจ่ายค่าสมัคร 2,500 บาทได้บ้าง ซึ่งจะเป็นใครก็ได้ ไม่ว่าจะมีจุดยืนทางการเมืองแบบไหน จะรักชอบพรรคก้าวไกลหรือว่ารักชอบพรรคการเมืองอื่น ก็ไม่เป็นไร ยิ่งมีคนมาสมัคร ยิ่งเยอะเท่าไร ก็จะทำให้สุขภาพของการเมืองไทยดีขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเชิญชวนประชาชนทุกคน ทุกอุดมการณ์ ทุกเฉดสี เข้ามามีส่วนร่วมในการเลือก สว.ครั้งนี้"


นายธนาธร ยังกล่าวถึงกรณีคดีการยุบพรรคก้าวไกล ว่า เรื่องการยุบพรรคขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ แต่จากที่ได้รับทราบข้อมูลในส่วนทีมงานของพรรคก้าวไกล เชื่อมั่นว่าจะสามารถอธิบายข้อกล่าวหาทั้งหมดได้ อย่างไรก็ตามไม่สำคัญว่าพรรคจะถูกยุบหรือไม่ เพราะขึ้นอยู่กับว่ามีสมาชิกกว่า 1 แสนคนที่อยู่กับพรรคก้าวไกลตอนนี้จะไปต่อกับพรรคหรือไม่ ดังนั้นชื่อพรรคจึงไม่สำคัญ


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/bV2o4qd1i14

คุณอาจสนใจ

Related News