ประเด็นข่าวรอบวัน 7 ต.ค.2564 - ขยายผลจับขบวนการลอบตัดไม้ตะเคียนยักษ์ / เร่งคลี่คดีคนร้ายแทงไรเดอร์ดับ

- ขยายผลจับขบวนการลอบตัดไม้ตะเคียนยักษ์

ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ร่วมกับศปป.4 กอ.รมน. ขยายผลกรณีคนร้ายลักลอบเข้าไปตัดต้นตะเคียนยักษ์อายุนับร้อยปีในป่า ที่นราธิวาส ล่าสุด พบความเคลื่อนไหวของขบวนการนายหน้า ประกาศขายไม้ที่มีลักษณะเเละขนาดใกล้เคียงกับไม้ตะเคียนยักษ์ ส่งต่อกันในกลุ่มลับ ซึ่งพบว่าบางส่วน ถูกเคลื่อนย้ายไปแปรรูปในโรงงานของเอกชนเเห่งหนึ่งใน อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบไม้ท่อนเเละไม้เเปรรูปต้องสงสัยหลายขนาด ผู้ครอบครองไม่สามารถชี้เเจงที่มาของไม้ได้ จึงอายัดไว้ตรวจสอบ

นอกจากนี้ยังพบว่าโรงงานเเห่งนี้ตั้งโดยไม่มีใบอนุญาต เตรียมเสนอสั่งปิดเเละส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี เเละจะตามขยายผลขบวนการนี้คงต่อไป

- เร่งคลี่คดีคนร้ายแทงไรเดอร์ดับ

ตำรวจเร่งแกะรอยสองคนร้ายแทงหนุ่มบริษัทขนส่งเสียชีวิต พบคนตายมีอริหลายคน พร้อมเร่งติดตามตัวเพื่อนในเฟซบุ้กที่มีปัญหาเรื่องทวงเงินผู้ตายมาสอบปากคำ

จากคดี ที่ นายเกียรติศักดิ์ ใจดี อายุ 25 ปี พนักงานขนส่งเอกชน ถูก 2 วัยรุ่น ซึ่งสวมหมวกกันน้อค และ แต่งกายมิดชิดเพื่อปิดบังใบหน้าเข้าไปรุมทำร้ายร่างกาย และใช้อาวุธมีดแทงที่หลังและต้นขา รวม 6 แผล จนทำให้นายเกียรติศักดิ์เสียชีวิต

มีรายงานจากชุดสืบสวน ของ สน.ประชาชื่น เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวเจ้าของเฟซบุ้ค รายดังกล่าวเพื่อมาสอบปากคำ ส่วนจะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุหรือไม่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ เนื่องจากการผู้ตายมีปัญหาทะเลาะกับหลายคน จึงจะต้องพิสูจน์ให้แน่ชัดก่อนว่าใครคือคนร้ายตัวจริง ส่วนสาเหตุของปมสังหารขณะนี้ ยังให้น้ำหนักไปในเรื่องส่วนตัว ทั้ง ความแค้นส่วนต้ว เรื่องหนี้สิน และเรื่องชู้สาว

- สถานทูตสหรัฐฯ ทำพิธีเริ่มสร้างอาคารใหม่ ตอกย้ำสัมพันธ์แนบแน่นไทย

สถานทูตสหรัฐฯ ทำพิธีเปิดหน้าดิน เริ่มก่อสร้างอาคารหลังใหม่ รองรับหน่วยงาน 27 แห่ง อุปทูตสหรัฐฯ เผยแบบดีไซน์ผสมผสานระหว่างสถาปัตยธรรมไทย กับ เทคโนโลยีล้ำสมัยสหรัฐฯ ตอกย้ำเดินหน้าความสัมพันธ์แนบแน่นไทยในอนาคต

โดยมี นายไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัคคราชทูตสหรัฐฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงเข้าร่วม ขณะที่ฝ่ายไทย มีตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศ คือ นายวิชชุ เวชชาชีวะ อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงผู้อำนวยการเขตปทุมวัน และ นางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ มาร่วมแสดงความยินดี

อาคารหลังใหม่นี้ถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่นที่สหรัฐฯ มีต่อประเทศไทยอย่างยืนยาวในอนาคต และจะเป็นที่ทำการของหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯ กว่า 27 แห่ง ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในหลากหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ มากกว่าครึ่งของพนักงานหน่วยงานสหรัฐฯ ในประเทศไทยจะทำงาน ณ อาคารแห่งนี้ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบงานในประเทศไทยและระดับภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ ในอาคารจะมีการพัฒนาพื้นที่ให้บริการงานกงสุลเพื่อรองรับชาวไทยที่ประสงค์จะเดินทางไปสหรัฐฯ และชุมชนชาวสหรัฐฯ ขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย