ชาวปากช่อง ร้องตรวจสอบ รง.เพลิงไหม้ เชื่อลอบฝังกลบสารอันตราย

ชาวบ้านที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบโรงงานกำจัดสารเคมีอันตราย และกากอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง หลังพบมีการลักลอบขุดหลุมทิ้งกากอุตสาหกรรมอันตราย ล่าสุด รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่า โรงงานแห่งนี้ ทำผิดตามข้อร้องเรียนหรือไม่

เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว (2563) เกิดเหตุรถบรรทุกสารเคมีรั่วไหลจนเกิดเพลิงไหม้ ที่อ.พานทอง จ.ชลบุรี มีสารเคมีรั่วไหลลงสู่พื้น และมีควันสีเหลืองเต็มท้องฟ้า ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของชาวบ้าน โดยรถบรรทุกสารเคมีดังกลาวมาจากอยู่ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แจ้งในเอกสารกำกับใบขนส่งว่าเป็นน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้แล้ว แต่จากเหตุเพลิงไหม้ ทำให้ทราบความจริงว่าสารทีรั่วไหลจากตัวถังกลายเป็นกรดซัลฟุริคที่ใช้แล้ว ซึงต้องกำจัดอย่างถูกวิธีเท่านั้น

จากเอกสารสำแดงเท็จของรถที่มาจาก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และควันที่ลอยเหนืออากาศสีเหลือง ซึ่งไปตรงกับภาพที่ชาวบ้านใน ต.กลางดง อ.ปากช่อง เคยร้องเรียนว่า มีควันสีเหลืองลอยบนท้องฟ้าจำนวนมากเชื่อเป็นสารพิษทำให้ชาวบ้านแสบตา แสบจมูก

กระทั่งเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ขึ้นที่ บริษัทเอกอุทัย ริมถ.มิตรภาพ ซึ่งเป็นที่ตั้งของบโรงงานใน อ.ปากช่อง ช่วงแรกภายในโรงงานไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าและพยายามดับไฟกันเอง แต่ไฟลุกลาม จนต้องแจ้งเทศบาลเข้าไปดำเนินการ ซึ่งขณะเกิดเหตุมีรถบรรทุกสารเคมี 12,000 ลิตร จากนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดเข้ามาจอด แต่ได้ขับออกไปอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ในช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น มีรถบรรทุกเข้ามาจอดจำนวนหลายคัน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นสารเคมีจากโรงงานอุตสาหกรรมหลายประเภท โดยยังไม่มีการตรวจสอบว่าเป็นสารเคมีประเภทใด

ซึ่งก่อนหน้านี้ทีมข่าว 3 มิติ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน และมีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ พบว่าบริษัทเอกอุทัย ประกอบกิจการเผาสิ่งปฏิกูลในเตาเผาปูนขาว และไม่ปฏิบัติตามเงือนไขใบอนุญาต

ทั้งนี้ จากการบินสำรวจพบว่ามีการขุดหลุมลึก และมีการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมเพื่อฝังกลบ โดยไม่ผ่านกระบวนการบำบัด เพราะมีต้นทุนสูง เมื่อสารเคมีถูกฝังกลบในดิน ก็จะปนเปื้อนส่งผลต่อชาวบ้าน ที่ทั้งตำบลใช้น้ำบาดาลในการน้ำบริโภคอุปโภค

จากการเข้าตรวจสอบของชุดปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจพยัคฆ์ไพร และ ตำรวจปทส. ยังพบว่าบริเวณก่อสร้างโรงเก็บกากอุตสหกรรม และบริเวณด้านหลังภูเขาน้อย ซึ่งลักลอบฝังกลบสารเคมี เป็นพื้นที่ป่าไม้ โดยเจ้าพนักงานป่าไม้ได้แจ้งความต่อ สภ.กลางดง แล้ว แต่โรงงานยังเปิดดำเนินการอยู่ ระหว่างรอการพิจารณา

ซึ่งมีรายงานว่า บ.เอกอุทัย รับประมูลกำจัดกากอุตสาหกรรมในราคาถูก จึงมีผู้ว่าจ้างจำนวนมากแต่การกำจัด มีการลักลอบทิ้งธรรมชาติ