ก.ทรัพย์ฯ ผลักดันกฎหมายคุ้มครอง "เกาะโลซิน" หลังพบคนลอบจับสัตว์น้ำ

จากการสำรวจของทีมนักวิจัยทางทะเล พบว่าที่เกาะโลซิน จ.ปัตตานี มีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ มีสัตว์ทะเลหายากหลายชนิด หนึ่งในนั้นก็คือฉลามวาฬ แต่ด้วยที่ตั้งไกลจากชายฝั่งถึง 72 กิโลเมตร ที่ผ่านมาจึงมีคนบางกลุ่มพยายามหาช่องทาง ลอบเข้ามาทำประมงในบริเวณนี้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พยายามผลักดันให้มีกฏหมายคุ้มครอง ลดผลกระทบจากภัยคุกคาม ที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ 

ปฏิบัติการเก็บกู้อวนล้อมขนาดใหญ่ ที่เกาะโลซิน ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย ทำให้ภารกิจนี้สำเร็จลุล่วงภายใน 2 วัน ทุกคนปลอดภัย ระบบนิเวศใต้ทะเลเสียหายบางส่วน ซึ่งทีมนักวิจัยฯ ดำลงไปซ่อมแซมและฟื้นฟูจุดที่ได้รับผลกระทบแล้ว เป็นภาพประทับใจเมื่อพี่ใหญ่ประจำถิ่นออกมาปรากฏตัวระหว่างทำภารกิจ "ฉลามวาฬ" เป็นอีกหนึ่งสัตว์ทะเลหายาก ที่มักจะออกมาแหวกว่ายรอบเกาะโลซิน ให้เห็นบ่อยครั้ง เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่าที่นี่ มีความสมบูรณ์ทางระบบนิเวศ

โลซินอยู่ห่างจากชายฝั่ง อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ถึง 72 กิโลเมตร เป็นเกาะที่มีเพียงโขดหินกับประภาคาร เป็นสัญลักษณ์ เส้นแบ่งอาณาเขตน่านน้ำ ด้วยความที่เกาะแห่งนี้ อยู่ในทะเลลึกกลางอ่าวไทย ลึกลงไปจากผิวน้ำ นี่อาจเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำ มีความโดดเด่นด้านปะการัง แนวยาวกว่า 1 กิโลเมตร ครอบคุมพื้นที่ไม่น้อยกว่า 80 ไร่ มีปะการังแข็งมากถึง 59 ชนิด นอกจากฉลามวาฬ ยังมีรายงานพบ ปลาโรนัน และกระเบนราหู

แต่ความสวยงาม บางครั้งก็เสี่ยงต่อภัยคุกคามหลายรูปแบบ เช่น การรุกล้ำน่านน้ำโดยเรือประมงต่างชาติ ความเสียหายจากขยะทะเล จากกิจกรรมของนักท่องเที่ยวบางคน ที่กระทบหนักสุด ก็คือความเสียหายต่อแนวปะการังจากการทำประมงปิดกฏหมาย กรมทรัพยากรทางทะเละชายฝั่ง จึงออกคำสั่งกรมฯคุ้มครองในเบื้องต้น ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังพบการลักลอบ จึงเห็นว่าหากจะให้เกาะแห่งนี้เกิดความยั่งยืน ก็จำเป็นต้องมีกฏหมายออกมาประกาศเขตพื้นที่คุ้มครองฯ

สำหรับอวนล้อมที่พบ ดูจากลักษณะ ทช.สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นของประมงไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบหาต้นตอ