‘เอสเธอร์ - เคน ภูภูมิ’ เข้าแจ้งความ ยื่นหลักฐานจับแก๊งแชร์ลูกโซ่

สังคม

‘เอสเธอร์ - เคน ภูภูมิ’ เข้าแจ้งความ ยื่นหลักฐานจับแก๊งแชร์ลูกโซ่

โดย panisa_p

7 ม.ค. 2565

264 views

นางสาว เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา หรือ เอสเธอร์ นักแสดงสาว พร้อมด้วย นายภูภูมิ พงศ์ภาณุภาค หรือ เคน ภูภูมิ นักแสดงชาย เพื่อนสนิท เข้าแจ้งความกับศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศสํานักงานตํารวจแห่งชาติ หรือ PCT ให้ช่วยติดตามกลุ่มคนร้าย ที่ว่าจ้างให้ เอสเธอร์ เป็นพรีเซนเตอร์ แพลทฟอร์มการซื้อสินค้าออนไลน์ ที่ใช้ชื่อว่า spell


ภายหลังพบว่าความดังกล่าวมีลักษณะคล้ายแชร์ลูกโซ่และการฉ้อโกงประชาชน โดยเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 ได้รับการว่าจ้างจาก platform online ดังกล่าว ให้ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแพลตฟอร์มโดยจะได้ค่าจ้างเป็นเงินสดจำนวนหนึ่งซึ่งในขณะนั้นตนเองไม่ทราบมาก่อนว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวเป็นแพลตฟอร์มที่มีความผิดปกติอะไรหรือไม่เพราะทุกอย่างมีความน่าเชื่อถือตั้งแต่สถานที่ทำการและขั้นตอนการถ่ายทำเป็นพรีเซ็นเตอร์ซึ่งมีการทำงานแบบมืออาชีพ จึงทำให้เชื่อว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ต่อมาเริ่มมีกลุ่มผู้เสียหายร้องเรียนผ่านทางมารดาและร้องเรียนผ่านทางเพจและช่องทางติดต่อออนไลน์อื่นๆของตนเองเพิ่มมากขึ้น ว่าแต่ความดังกล่าวไม่ได้จ่ายเงินปันผลให้ตามที่มีการโฆษณาไว้ และจำนวนของผู้ร้องเรียนมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผู้เสียหายเห็นว่าตนเองเป็นพรีเซ็นเตอร์และเชื่อว่าตัวเองไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ตัดสินใจเข้าแจ้งความและพิสูจน์ว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มดังกล่าว อันนี้ยอมรับว่าตัวเองรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่ารับงานโดยไม่รอบคอบจนทำให้เกิดความไม่สบายใจเกิดขึ้นจากนี้จะตรวจสอบงานต่างๆที่เข้ามาให้มากขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซ้ำอีก


ด้านพลตำรวจตรี พันธนะ นุชนารถ ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 1 ศูนย์ PCT เปิดเผยว่า ชุดสืบสวนสอบสวนของตำรวจพีซีพีจะรับเรื่องดังกล่าวไว้และจะตรวจสอบว่า platform ดังกล่าวมีใครเป็นผู้บริหารบ้างเบื้องต้นขณะนี้ทราบชื่อของผู้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแล้วซึ่งจากนี้จะต้องมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้เสียหายแต่ละคนว่าไปถึงยังผู้ใดบ้างก่อนที่จะออกหมายเรียกหรือหมายจับมาดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไปทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลของศูนย์ PC พบว่าก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความในกรณีที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มดังกล่าวจำนวนหนึ่งแล้วโดยมูลค่าความเสียหายขณะนี้ยังไม่ได้สรุปไว้แต่ผู้เสียหายแต่ละคนสูญเสียเงินไปประมาณคนละ 10,000 บาท ส่วนจะเข้าข่ายความผิดตามพรบ.แชร์ลูกโซ่หรือฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ต้องรอตรวจสอบจากพยานหลักฐานต่างๆที่มีก่อน และหากหลังจากนี้มีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้รวมคดีจากจังหวัดต่างๆเข้ามาก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News