โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ สั่งจับตาใกล้ชิดสถานการณ์โควิด 'โอไมครอน' หลังพบผู้ติดเชื้อในมาเลเซียเป็นรายแรก กำชับแนวชายแดนป้องกันลักลอบเข้าเมืองอย่างเข้มงวด เร่งฉีดวัคซีนโควิดให้ครอบคลุมมากที่สุด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โอไมครอน อย่างใกล้ชิด หลังมาเลเซียพบผู้ติดเชื้อเป็นรายแรกแล้ว โดยเป็นนักศึกษาหญิงวัย 19 ปี จากแอฟริกาใต้ ซึ่งได้เดินทางมาจากประเทศแอฟริกาใต้ผ่านสิงคโปร์ ซึ่งจากการสอบสวนโรคพบว่า นักศึกษาหญิงจากแอฟริกาใต้ได้เดินทางจากสิงคโปร์มาถึงมาเลเซีย เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา

โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย และฝ่ายความมั่นคง เข้มงวดหน่วยงานคัดกรองที่จุดต่าง ๆ ท่าอากาศยาน สนามบิน โดยเฉพาะด่านพรมแดนทางบก ที่เปิดให้คนไทยเดินทางกลับเข้าประเทศ ซึ่งต้องเน้นย้ำผู้เดินทางทุกคนได้รับการตรวจคัดกรองโควิด-19 และกักกันตัวในสถานที่ที่รัฐจัดให้ หากรายใดมีอาการผิดปกติจะถูกส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลทันทีและทำการตรวจหาเชื้อ และหากพบข้อมูลต้องสงสัย ให้รีบรายงานตรงต่อนายกรัฐมนตรีทันทีที่มีความคืบหน้า ขณะเดียวกันพร้อมปรับมาตรการต่าง ๆ อย่างเข้มงวด ทุกแนวชายแดน เพื่อสกัดการลักลอบเข้าออกที่ผิดกฏหมาย ผ่านช่องทางธรรมชาติด้วย

นายธนกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันสายพันธ์ที่ระบาดในไทย คือ เดลต้า ยังมีการแพร่ระบาดอยู่ แต่นายกรัฐมนตรียังกำชับกระทรวงสาธารณสุขเตรียมพร้อมรับมือสำหรับโอไมครอน โดย การให้บริการฉีดวัคซีนต้องครอบคลุมให้ได้สูงสุด หรือเกือบทั้งหมดของประชากรที่ควรจะได้รับวัคซีน ซึ่งคณะแพทย์ได้ยืนยันว่า วัคซีนที่ใช้ในปัจจุบัน จำนวน 2 โดส มีประสิทธิภาพ สามารถป้องกันอาการรุนแรงทั้งสายพันธ์เดลต้าและโอไมครอนได้ ขณะเดียวกัน มีการวินิจฉัยสายพันธุ์โอไมครอนให้ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อควบคุมการระบาดของโรค และต้องมีทีมที่พร้อมจะเข้าไปควบคุมดูแล ไม่ให้มีการแพร่ระบาดเกิดขึ้น

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังย้ำถึงการป้องกัน และควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ที่ปลอดภัย คือการใช้ชีวิตประจำวัน ตามมาตรฐานวิถีชีวิตใหม่ มีความรู้ที่ถูกต้อง สิ่งสำคัญที่นายกรัฐมนตรีฝากไว้คือ ทุกคนจะต้องยึดหลักอนามัยส่วนบุคคล ดูแลตนเองแบบครอบจักรวาล เคร่งครัด รักษาระเบียบวินัย สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือ และตรวจ ATK จะช่วยลดการระบาดของโควิดทุกสายพันธุ์ได้

ขณะที่ เฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ได้โพสต์บอกว่า เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว นักวิทยาศาสตร์ยังแปลกใจ ว่า ทำไมคนผิวดำ 1,300 ล้านคน ในทวีปแอฟริกาถึงติดโควิดน้อย แม้จะได้รับการฉีดวัคซีนน้อยมาก และมีการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลต้าในทวีปแอฟริกา

หมอมนูญ สันนิษฐานว่า เป็นเพราะลักษณะทางพันธุกรรมของคนผิวดำต่างจากคนผิวขาวและคนเอเชีย ถ้าย้อนไป พบว่าสายพันธุ์ D614G และสายพันธุ์อื่น ๆ เช่น สายพันธุ์แอลฟา เกิดกับคนผิวขาวในทวีปยุโรป แต่คนไทย และคนอาเซียน ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้น้อย เชื้อจึงไม่สามารถจะแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในคนเอเชียได้

จึงมีการตั้งคำถามว่า อาจเป็นเพราะคนเอเชียฉีดวัคซีนป้องกันวัณโรค ในขณะที่คนอเมริกัน และคนในยุโรปตะวันตกไม่ฉีด หรือเปล่า ส่วนสายพันธุ์เดลต้าเกิดขึ้นในคนอินเดีย จึงระบาดได้ทั้งคนผิวขาวและคนเอเชีย แต่คนผิวดำในทวีปแอฟริกา กลับพบน้อย

ส่วนสายพันธุ์ล่าสุดคือ โอไมครอน เกิดขึ้นในคนผิวดำ ที่บอตสวานา แล้วแพร่กระจายไปยังแอฟริกาใต้ จนจำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนในแอฟริกาใต้ แซงหน้าสายพันธ์เดลต้าไปแล้ว หมอมนูญเชื่อว่า จากนี้สายพันธุ์โอไมครอน จะแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในคนผิวดำ ที่ทวีปแอฟริกา และจะกระจายต่อไปทั่วโลก เล่นงานทั้งคนผิวขาว, เอเชีย, ผิวดำ และอาจจะแทนที่สายพันธุ์เดลต้าในไม่ช้า

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/w-s9VXRcOgI