อาชญากรรมทางออนไลน์ กลายเป็นคดีที่เพิ่มปริมาณสูงขึ้นเป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากคนร้ายก่อเหตุได้ทุกสถานที่ และทุกเวลา ขณะเดียวกันการติดตามจับกุมเป็นคดีที่ต้องใช้ตำรวจที่มีความชำนาญเฉพาะทาง ขณะนี้ทุกหน่วยงานต้องปรับกำลังคนให้มี ชุดลาดตระเวนออนไลน์ เพื่อแก้ไขปัญหาคดีทางออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้นเพราะคนร้ายคดีฉ้อโกงมักกระทำผิดซ้ำซาก หลายคนมีหมายจับหลายสิบคดีหมาย

ผู้ต้องหาฉ้อโกงทางออนไลน์ เพิ่งได้รับประกันตัวงไม่ทันถึงเดือน ก็ มาก่อคดีฉ้อโกงอีก โดยโพสต์ขายอุปกรณ์รถบิ๊กไบค์ แต่เมื่อมีเหยื่อเข้าไปซื้อ และโอนเงินให้ก็บล็อกทันที ตำรวจจับกุมนายภานุพงศ์ อายุ 29 ปี ได้ที่อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์

พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล ได้สอบสวนผู้ต้องหาพบว่านายภานุพงษ์ มีAccount ชื่อบัญชีหลายสิบชื่อ และโพสต์ขายอุปกรณ์แต่งรถในกลุ่มคนขี่รถมอเตอร์ไซค์ ฉ้อโกงมาตั้งแต่ปี2559 จนถึงปัจจุบันแต่ไม่เคยมีสินค้าส่งให้ผู้ซื้อเพราะสินค้าที๋โพสต์ขายไปคัดลอกมาจากผู้ขายคนอื่น ขณะถูกจับอยู่ระหว่างประกันตัวของสน.มีนบุรี

อาชญากรรมจากลักวิ่งชิงปล้นบนท้องถนน เพิ่มมาเป็นอาชญากรรมทางออนไลน์และมิจฉาชีพไม่เข็ดหลาบ ซ้ำเติมความทุกข์ยากให้คนสุจริต การลาดตระเวนออนไลน์ของตำรวจทุกหน่วยงานจึงเป็นนโยบายของพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ห้องอัจฉริยะ ของกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลถูกปรับให้เป็นที่ทำงานของทีมลาดตระเวนออนไลน์ มีเจ้าหน้าที่ผลัดเปลี่ยนเข้าเวรมาจากกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ แม้ทีมงานจะน้อย แต่ทุกคนต้องสามารถทำงานได้ครบทุกหน้าที่ ทั้งลาดตระเวนตามเพจต่างๆที่คนร้ายแฝงมาสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน และสะสางคดีทางออนไลน์ที่มิจฉาชีพสร้างความเดือดร้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยมีพล.ต.ต.นพศิลป์ คอยถ่ายทอดวิชาสืบสวนให้ชุดทำงาน

การจับกุม ซึ่งเป็นปลายเหตุและต้องประสานหลายหน่วยงานกว่าจะจับคนร้ายฉ้อโกงทางออนไลน์ไม่ง่าย เพราะอาจใช้ชื่อผู้อื่นมาหลอกลวงและการใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ทของคนร้ายหลายกลุ่มก็อยู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะการกู้เงินออนไลน์สงสัยไว้ว่าไม่มีจริง

ช่วงเดือนที่ผ่านมา สามารถจับกุมมิจฉาชีพทางออนไลน์ได้ทุกวัน ส่วนใหญ่จะเป็นการหลอกขายโน้ตบุ๊ก ไอเพด ที่นักเรียนนักศึกษาต้องหามาใช้ประกอบการเรียน