กรณีชายจีบสาวคนหนึ่งแล้วบอกว่าจะพาไปทำศัลยกรรมจมูก โดยจะจ่ายเงินให้ แต่กลับใช้วิธีตั้งค่าโอนเงินล่วงหน้า ยังไม่ได้โอนทันที ทางคลินิคจับได้ ตีเนียนว่าไปกดเงินก่อนจะหายไป พอสืบประวัติพบผู้เสียหายโดนหลอกแบบเดียวกันเพียบ

เรื่อเกินขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ประมาณบ่ายโมงครึ่ง ชายคนดังกล่าวพาหญิงสาวคนนี้ไปที่คลินิกแห่งหนึ่งย่านจตุจักร เพื่อตกลงเจรจาค่าผ่าตัดศัลยกรรม ทั้งหมดเป็นเงินกว่า 1 แสนบาท โดยเขาบอกพนักงานว่าจะโอนเงินให้ พร้อมโชว์สลิปการโอนเงิน แต่พนักงานจับผิดสังเกตได้ และบอกไปว่าเงินยังไม่เข้า เขาเลยขอตัวไปกดเงินสด แล้วก็หายไปทิ้งสาวที่พามาไว้ที่คลีนิก

ล่าสุด ทีมข่าวไปที่คลินิคแห่งนี้ พบกับ นายแพทย์ ปิยพล พัฒนครู แพทย์ประจำคลินิก เล่าว่า ฝ่ายหญิงติดต่อผ่านทางเฟซบุ๊กของคลินิก จองคิวมาทำศัลยกรรมวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่ทางคนร้ายบอกว่าจะไม่โอนมัดจำ จะจ่ายเงินสดทีเดียวกว่า 1 แสนบาท พร้อมกับส่งสลิปการโอนมาให้ เมื่อพอตรวจในบัญชีพบว่าไม่มียอดโอนเข้า ชายคนดังกล่าวก็อารมณ์เสีย บอกว่าโอนไปแล้ว และอ้างว่าเป็นความผิดพลาดของธนาคารให้รอวันจันทร์ พอถึงวันที่ 30 ตุลาคมที่นัดผ่านตัดก็เลื่อน อ้างว่าติดงานศพ ทางคลินิคตรวจสอบบัญชีอีกรอบก็ไม่พบเงินเข้าอีก จึงทวงถามไปอีกรอบ คนร้ายบอกว่า เดี๋ยวไปจ่ายเงินสดวันที่ผ่าตัด คือ 4 พฤศจิกายน

กระทั่งวันที่ 4 พฤศจิกายน เขาพาผู้หญิงและญาติมาที่คลินิก ซึ่งก่อนที่ฝ่ายหญิงจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อ เตรียมเข้าผ่าตัด ทางคลินิกจึงสอบถามและขอให้ชำระเงินก่อนผ่าตัดก่อน ฝ่ายชายกลับถามย้อนว่า "เงินยังไม่เข้าบัญชีเหรอ" ซึ่งทางคลินิกยืนยันที่จะต้องชำระเงินก่อนทำศัลยกรรม ทำให้ฝ่ายชายมีท่าทีลุกลี้ลุกลน และบอกว่าเดี๋ยวลงไปกดเงินสดให้ แล้วก็หายไปเลย โดยที่ฝ่ายหญิง และญาตินั่งรออยู่ที่คลินิก

ทางคลินิกบอกว่า สลิปที่คนร้ายส่งมา จะเห็นว่าบริเวณหัวสลิปจะตั้งรายการล่วงหน้าสำเร็จ โดยจะระบุชื่อบัญชีผู้โอน และผู้รับโอนอย่างถูกต้อง รวมถึงจำนวนเงิน และวันที่ทำรายการ และวันที่จะโอนเงิน แต่เป็นเพียงการตั้งโอนล่วงหน้า เงินยังไม่ได้เข้าบัญชีจนกว่าจะถึงกำหนดวันและเวลาที่ตั้งไว้เพื่อจ่ายเงิน

ขณะที่ คุณนิตยา พัฒนครู เจ้าของคลินิก บอกว่า พนักงานในร้านนำชื่อชายคนนี้ไปตรวจสอบในกูเกิ้ล พบว่ามีผู้เสียหายหลายคนตกเป็นเหยื่อ โดนตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักหมื่น จึงอยากให้หน่วยงานของรัฐ และธนาคารร่วมมือกัน เช่น การประสานข้อมูลกับตำรวจ หากพบพฤติกรรมเข้าข่ายฉ้อโกง จนนำไปสู่การออกหมายเรียก หรือหมายจับ ควรประสานไปยังธนาคารสำนักงานใหญ่ เพื่อระงับการใช้บัญชี หรือขึ้นแบล๊กลิสต์ เพื่อลดช่องโหว่ในการกระทำผิดลง

ส่วนหญิงสาวที่มาทำศัลยกรรม ได้มาโพสต์ชี้แจงในโพสต์ของคลินิก ระบุว่า เธอก็ถูกหลอก โดยรู้จักชายคนนี้มาได้ 2 เดือน ฝ่ายชายบอกว่าจะทำจมูกให้ โอนเงินไปครบแล้ว เธอมีหน้าที่ไม่ทำศัลยกรรมอย่างเดียว แต่เมื่อไปถึงคลินิก ปรากฎว่าเงินไม่เข้าฝ่ายชายบอกว่าจะลงไปกดเงินสดมาให้ แล้วก็หายไปเลย นอกจากนี้ ยังเคยส่งสลิปปลอมว่าโอนเงินให้พ่อแม่ของเธอที่ สปป.ลาว ด้วย

เบื้องต้นทางคลินิกไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ เนื่องจากความเสียหายยังไม่เกิด เพียงแต่ต้องการโพสต์เตือนภัย ให้ผู้ค้า ร้านค้าระมัดระวัง หมั่นตรวจสอบยอดเงินเข้าบัญชีว่ามีจริงหรือไม่ เนื่องจากการตั้งโอนเงินล่วงหน้า ก็สามารถยกเลิกภายหลังได้ ซึ่งมิจฉาชีพอาจใช้ช่องทางนี้ในการก่อเหตุ ขณะที่ชายคนนี้ยังมีหมายจับคดีฉ้อโกงที่จังหวัดกระบี่ด้วย แต่ยังไม่ถูกจับและตระเวนก่อเหตุในหลายพื้นที่

ชมผ่านยูทูบ :  https://youtu.be/Qx58TnQbPvc