นนทบุรี สุดระทึก ชายคลั่งเมากาว ปีนรถเก๋งแม่ที่มากับลูกสาว 2 คน กระทืบกระจกร้าว ตำรวจและพลเมืองดี เข้าช่วย ล็อคตัวได้ทันควัน เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 6 พ.ย.64 ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก น.ส.สุรียพร อายุ 46 ปี พร้อมด้วยลูกสาว อายุ 24 ปี และอายุ 22 ปี โดยผู้เป็นลูกสาว เล่าว่า ขณะแม่ขับรถติดไฟแดงอยู่สี่แยกพงษ์เพชร จะเลี้ยวขวาไปถนนประชาชื่น เจอคนเมากาวกระทืบรถ จนกระจกหน้าแตก และทุบกระจกป้อมตำรวจแตก ก่อนเจอพลเมืองดีตะครุบตัวไว้ได้ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ เข้าจับกุมตัว เหตุการณ์ครั้งนี้ตนกับคุณแม่และน้องสาวตกใจมาก ไม่คิดว่าจะมาเจอกับตัวเอง ต้องขอฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจป้อมยาม และพลเมืองดี ที่เข้าช่วยเหลือจับกุมตัวไว้ได้ ขณะที่ น.ส.สุรียพร หลังให้ปากคำพนักงานสอบสวนเสร็จ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังขับรถมุ่งหน้าจะไป ประชาชื่นติดไฟแดงอยู่ตรงบริเวณแยกพงษ์เพชร ตรงไปเป็นม.เกษตร จังหวะที่อยู่เลนขวาสุดเพื่อรอเลี้ยวขวาได้มีชายคนหนึ่งมาอยู่ตรงหน้ารถ ตนพยายามบีบแตรเขาก็ไม่ยอมไป ตนจึงเปิดกระจกแล้วก็ตะโกนถามว่าทำอะไร เขาก็รีบปีนขึ้นมาบนฝากระโปรงหน้ารถ แล้วเอาตีนกระทืบกระจกจนร้าว ขณะนั้นมีตำรวจออกมาจากป้อมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ค่อนข้างมีอายุแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามจับ แต่เขาพยายามขัดขืนกระชากหนี ขณะนั้นมีพลเมืองดีเข้ามาล็อคคอ ช่วยเหลือทุกอย่าง ตอนนั้นตนตกใจสุดขีดก็โทรแจ้ง 191 ไปด้วย ตนมีลูกสาว 2 คนนั่งหน้าคนนั่งหลังคน ตกใจกันหมดทั้งคันรถ หลังจับกุมชายดังกล่าวได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มานำตัวชายคนนี้ไปที่โรงพัก รถตนเองมีประกันภัยชั้นหนึ่ง ตนเองได้รีบแจ้งบริษัทประกันภัยไว้หลังจากออกใบเคลมแล้วจึงรีบนำรถไปใส่กระจกใหม่เป็นที่เรียบร้อย หมดเงินไป 5,500 บาท แล้วจะนำใบเสร็จไปเบิกที่บริษัทประกันในภายหลัง ตนต้องฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพลเมืองดีที่ช่วยเหลือในครั้งนี้ สำหรับชายดังกล่าว ทราบชื่อต่อมาคือ นายคณพัฒน์ สมเพาะ อายุประมาณ 30-40 ปี เบื้องต้นพบว่าอยู่ในสภาพเมากาวอย่างหนัก พูดจาเพ้อเจ้อ ค้นในตัวพบขวดน้ำผสมกาว จึงยึดไว้ แล้วแจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ กับเสพสารเสพติดโดยผิดกฎหมาย นำตัวเข้าห้องขังสงบสติอารมณ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นนทบุรี สุดระทึก ชายคลั่งเมากาว ปีนรถเก๋งแม่ที่มากับลูกสาว 2 คน กระทืบกระจกร้าว ตำรวจและพลเมืองดี เข้าช่วย ล็อคตัวได้ทันควัน

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 6 พ.ย.64 ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก น.ส.สุรียพร อายุ 46 ปี พร้อมด้วยลูกสาว อายุ 24 ปี และอายุ 22 ปี โดยผู้เป็นลูกสาว เล่าว่า ขณะแม่ขับรถติดไฟแดงอยู่สี่แยกพงษ์เพชร จะเลี้ยวขวาไปถนนประชาชื่น เจอคนเมากาวกระทืบรถ จนกระจกหน้าแตก และทุบกระจกป้อมตำรวจแตก ก่อนเจอพลเมืองดีตะครุบตัวไว้ได้ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ เข้าจับกุมตัว

เหตุการณ์ครั้งนี้ตนกับคุณแม่และน้องสาวตกใจมาก ไม่คิดว่าจะมาเจอกับตัวเอง ต้องขอฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจป้อมยาม และพลเมืองดี ที่เข้าช่วยเหลือจับกุมตัวไว้ได้

ขณะที่ น.ส.สุรียพร หลังให้ปากคำพนักงานสอบสวนเสร็จ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังขับรถมุ่งหน้าจะไป ประชาชื่นติดไฟแดงอยู่ตรงบริเวณแยกพงษ์เพชร ตรงไปเป็นม.เกษตร จังหวะที่อยู่เลนขวาสุดเพื่อรอเลี้ยวขวาได้มีชายคนหนึ่งมาอยู่ตรงหน้ารถ ตนพยายามบีบแตรเขาก็ไม่ยอมไป ตนจึงเปิดกระจกแล้วก็ตะโกนถามว่าทำอะไร เขาก็รีบปีนขึ้นมาบนฝากระโปรงหน้ารถ แล้วเอาตีนกระทืบกระจกจนร้าว

ขณะนั้นมีตำรวจออกมาจากป้อมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ค่อนข้างมีอายุแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามจับ แต่เขาพยายามขัดขืนกระชากหนี ขณะนั้นมีพลเมืองดีเข้ามาล็อคคอ ช่วยเหลือทุกอย่าง ตอนนั้นตนตกใจสุดขีดก็โทรแจ้ง 191 ไปด้วย ตนมีลูกสาว 2 คนนั่งหน้าคนนั่งหลังคน ตกใจกันหมดทั้งคันรถ หลังจับกุมชายดังกล่าวได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มานำตัวชายคนนี้ไปที่โรงพัก รถตนเองมีประกันภัยชั้นหนึ่ง ตนเองได้รีบแจ้งบริษัทประกันภัยไว้หลังจากออกใบเคลมแล้วจึงรีบนำรถไปใส่กระจกใหม่เป็นที่เรียบร้อย หมดเงินไป 5,500 บาท แล้วจะนำใบเสร็จไปเบิกที่บริษัทประกันในภายหลัง ตนต้องฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพลเมืองดีที่ช่วยเหลือในครั้งนี้

สำหรับชายดังกล่าว ทราบชื่อต่อมาคือ นายคณพัฒน์ สมเพาะ อายุประมาณ 30-40 ปี เบื้องต้นพบว่าอยู่ในสภาพเมากาวอย่างหนัก พูดจาเพ้อเจ้อ ค้นในตัวพบขวดน้ำผสมกาว จึงยึดไว้ แล้วแจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ กับเสพสารเสพติดโดยผิดกฎหมาย นำตัวเข้าห้องขังสงบสติอารมณ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 6 พ.ย.64 ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก น.ส.สุรียพร อายุ 46 ปี พร้อมด้วยลูกสาว อายุ 24 ปี และอายุ 22 ปี โดยผู้เป็นลูกสาว เล่าว่า ขณะแม่ขับรถติดไฟแดงอยู่สี่แยกพงษ์เพชร จะเลี้ยวขวาไปถนนประชาชื่น เจอคนเมากาวกระทืบรถ จนกระจกหน้าแตก และทุบกระจกป้อมตำรวจแตก ก่อนเจอพลเมืองดีตะครุบตัวไว้ได้ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ เข้าจับกุมตัว

เหตุการณ์ครั้งนี้ตนกับคุณแม่และน้องสาวตกใจมาก ไม่คิดว่าจะมาเจอกับตัวเอง ต้องขอฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจป้อมยาม และพลเมืองดี ที่เข้าช่วยเหลือจับกุมตัวไว้ได้

ขณะที่ น.ส.สุรียพร หลังให้ปากคำพนักงานสอบสวนเสร็จ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังขับรถมุ่งหน้าจะไป ประชาชื่นติดไฟแดงอยู่ตรงบริเวณแยกพงษ์เพชร ตรงไปเป็นม.เกษตร จังหวะที่อยู่เลนขวาสุดเพื่อรอเลี้ยวขวาได้มีชายคนหนึ่งมาอยู่ตรงหน้ารถ ตนพยายามบีบแตรเขาก็ไม่ยอมไป ตนจึงเปิดกระจกแล้วก็ตะโกนถามว่าทำอะไร เขาก็รีบปีนขึ้นมาบนฝากระโปรงหน้ารถ แล้วเอาตีนกระทืบกระจกจนร้าว

ขณะนั้นมีตำรวจออกมาจากป้อมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ค่อนข้างมีอายุแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามจับ แต่เขาพยายามขัดขืนกระชากหนี ขณะนั้นมีพลเมืองดีเข้ามาล็อคคอ ช่วยเหลือทุกอย่าง ตอนนั้นตนตกใจสุดขีดก็โทรแจ้ง 191 ไปด้วย ตนมีลูกสาว 2 คนนั่งหน้าคนนั่งหลังคน ตกใจกันหมดทั้งคันรถ หลังจับกุมชายดังกล่าวได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มานำตัวชายคนนี้ไปที่โรงพัก รถตนเองมีประกันภัยชั้นหนึ่ง ตนเองได้รีบแจ้งบริษัทประกันภัยไว้หลังจากออกใบเคลมแล้วจึงรีบนำรถไปใส่กระจกใหม่เป็นที่เรียบร้อย หมดเงินไป 5,500 บาท แล้วจะนำใบเสร็จไปเบิกที่บริษัทประกันในภายหลัง ตนต้องฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพลเมืองดีที่ช่วยเหลือในครั้งนี้

สำหรับชายดังกล่าว ทราบชื่อต่อมาคือ นายคณพัฒน์ สมเพาะ อายุประมาณ 30-40 ปี เบื้องต้นพบว่าอยู่ในสภาพเมากาวอย่างหนัก พูดจาเพ้อเจ้อ ค้นในตัวพบขวดน้ำผสมกาว จึงยึดไว้ แล้วแจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ กับเสพสารเสพติดโดยผิดกฎหมาย นำตัวเข้าห้องขังสงบสติอารมณ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/KkGHmDjJewE