ชาวนาร้อง ราคาข้าวตกต่ำ กก.ละ 5.60 ถูกกว่ามาม่า - ด้านราคาผักพุ่ง เหตุน้ำท่วม น้ำมันแพง

เศรษฐกิจ

ชาวนาร้อง ราคาข้าวตกต่ำ กก.ละ 5.60 ถูกกว่ามาม่า - ด้านราคาผักพุ่ง เหตุน้ำท่วม น้ำมันแพง

โดย thichaphat_d

2 พ.ย. 2564

618 views

เมื่อวานนี้ (1 พ.ย. 64) ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่อำเภอจุน จังหวัดพะเยา รวม 20 คน ต้องทำการเข้ายื่นหนังสือกับทางอำเภอจุน หลังเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เริ่มได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักเนื่องจากราคาข้าวตกต่ำ นอกจากนั้นจุดรับซื้อในแต่ละอำเภอก็มีจำนวนน้อยมากจนเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากไม่มีที่จำหน่ายและต้องถูกกดราคาเป็นอย่างมาก


โดยเกษตรกรรายหนึ่งในพื้นที่อำเภอจุน ระบุว่า ในขณะนี้ชาวนาได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากปัจจุบันราคาข้าวตกต่ำเป็นอย่างมาก โดยล่าสุดอยู่ที่เพียงกิโลกรัมละ 5.60 บาท ซึ่งทำให้เกษตรกรประสบกับภาวะขาดทุนอย่างหนัก


นอกจากนั้นจุดรับซื้อในพื้นที่ก็ไม่เพียงพอชาวนาที่เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วจะนำไปจำหน่ายก็ประสบกับต้นทุนในเรื่องของการเดินทาง เป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเร่งด่วนด้วย


นอกจากนี้ ราคาผักยังมีราคาแพงขึ้น อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น และเหตุน้ำท่วม โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวว่า เหตุเกิดขึ้นจากน้ำท่วมบริเวณพื้นที่เพาะปลูก ดังนั้นจะเป็นช่วงสั้นๆ เท่านั้นที่ผักจะราคาสูง เนื่องจากน้ำท่วมทำให้ผลผลิตเสียหาย อีกทั้งมีการเปิดประเทศ ทำให้ความต้องการผักในตลาดสูง 


นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนรับทราบถึงกรณีพืชผักบางชนิดมีการปรับราคาสูงขึ้น เช่น ผักชี คะน้า ผักบุ้งจีน มะเขือเจ้าพระยา ที่ราคาสูงขึ้น ขณะเดียวกันผักบางชนิดที่ราคายังทรงตัวเพราะมีผลผลิตรุ่นใหม่ออกมา เช่น ผัดกาดขาวปลี และต้นหอม เป็นต้น


อย่างไรก็ตาม เชี่อว่ามาจากปัจจัยระยะสั้น เนื่องจากที่ผ่านมา พื้นที่ทำการเกษตรหลายแห่งประสบปัญหาน้ำท่วม ประกอบกับราคาน้ำมันที่ขยับสูงขึ้น ทำให้ภาระค่าขนส่งเพิ่มขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ กลับมาเกือบปกติ และหลายหน่วยงานเร่งเข้าไปช่วยเหลือ เยียวยา เพื่อให้เกษตกรสามารถกลับทำการเพาะปลูกได้อีกครั้ง รวมทั้งกระทรวงพลังงาน ได้มีการตรึงราคาน้ำมันดีเซลถึงสิ้นเดือนตุลาคม เพื่อช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการภาคขนส่งด้วย


ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงว่า ผักที่มีราคาปรับสูงขึ้นจะเป็นกลุ่มพวกผักชีเป็นหลัก ซึ่งเป็นผักที่มีความอ่อนไหวต่อน้ำและสภาพอากาศสูง ทำให้ได้รับผลกระทบมาก แต่เป็นผักตบแต่งไม่ใช่ผักหลักในการบริโภค


เบื้องต้นกรมการค้าภายใน ได้จัดรถโมบายจากตลาดกลาง เพื่อนำไปจำหน่ายผักในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล สำหรับประชาชนและผู้ประกอบการร้านอาหาร ซื้อผักได้ในราคาที่เหมาะสม ทั้งนี้ทางกระทรวงพาณิชย์ จะลงไปติดตามแก้ไขปัญหาสาเหตุที่ต้นตอ ให้หาแนวทางช่วยบรรเทาความเดือดร้อนผู้บริโภค เกษตรกร รวมถึงร้านค้า ร้านอาหารจำหน่ายอาหารสำเร็จ ให้สามารถจัดซื้อผักได้ในราคาที่เหมาะสม เชื่อว่า อีกไม่นาน เมื่อสถานกรณ์คลี่คลาย ราคาผักจะกลับเข้าสู่ความสมดุลตามกลไกตลาดอีกครั้ง



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/pzahGYqMIL8

คุณอาจสนใจ

Related News