ศาลจังหวัดนครสวรรค์ อ่านคำสั่งคดีชันสูตรการเสียชีวิต มาร์วิน ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ระบุ เกิดขึ้นจากการกระทำของ อดีตผกก.โจ้และและพวก ด้านทนาย เผย เตรียมสู้ ประเด็น ไม่มีเจตนาฆ่าแต่ทำเพิ่อปฏิบัติหน้าที่ขยายผลเรื่องยาเสพติด เตรียมยื่นขอประกันตัวเดือนหน้า ระบุ ผกก.โจ้ ปรับตัวได้ สบายดี ไม่ได้ป่วยด้วยโรคไบโพล่า

ความคืบหน้ากรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีต ผู้กำกับโจ้ผกก.โจ้พร้อมพวกตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดสจังหวัดนครสวรรค์ ร่วมกันก่อเหตุทารุณกรรม ใช้ถุงดำคลุมศรีษะ นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ หรือมาวิน ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด เสียชีวิตในห้องสอบสวน เหตุเกิดวันที่ 5 สิงหาคม จนนำไปสู่การจับกุม เมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา

ล่าสุดคดีนี้พนักงานอัยการจังหวัดนครสวรรค์ ยื่นคำร้องขอไต่สวนการตาย นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ หรือมาวิน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ.อ.) มาตรา 150คดีนี้มีการกล่าวหาว่าการตายของนายมาวิน เมื่อวันที่ 6 ส.ค.64 เวลา 13.20 น. เกิดขึ้นโดยการกระทำของ อดีตผกก.และตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองนครสวรรค์ ประกอบด้วย

1.พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้

2.พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง

3.ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค

4.ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา

5.ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว

6.ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น

7.ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว

คดีนี้เจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่และเสียชีวิตในระหว่างอยู่ในความควบคุมเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติราชการตามหน้าที่ โดยขอให้ศาลทำการไต่สวน และทำคำสั่งตาม ป.วิ.อ. มาตรา 150 วรรค 5 แสดงว่าผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด กับเหตุกับพฤติการณ์ที่ตาย และหากตายโดยคนทำร้ายใครเป็นผู้กระทำเท่าที่จะทราบได้

ศาลจังหวัดนครสวรรค์ ได้ทำการไต่สวนแล้ว จึงมีคำสั่งว่าผู้ตาย คือ นายจิระพงศ์หรือมาวิน เสียชีวิตที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์จ.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 6 ส.ค.64 เวลา 13.20 น.และพฤติการณ์ที่ตายคือขาดอากาศหายใจ เนื่องจากถูกอดีตผกก.โจ้ และพวก ร่วมกันใช้ถุงพลาสติกคลุมศีรษะเป็นเวลานานมากกว่า 6 นาที ในขณะที่ทำการสืบสวนขยายผลในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ อันเป็นการเสียชีวิตในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติราชการตามหน้าที่

ทางด้าน นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความของอดีตผกก.โจ้ "พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล" ระบุว่า ศาลชี้มีคำสั่งในคดีชันสูตร ว่าการเสียชีวิตเกิดขึ้นจากากรกระทำของอดีตผกก.โจ้ และพวก แต่ไม่ได้บอกถึงเจตนา ซึ่ง ตามที่เป็นข่าวมาแล้ว เจตนา ที่ผกก.โจ้และพวกทำนั้น เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการขยายผลเรื่องยาเสพติด ไม่มีเจตนาจะฆ่า หรือต้องการให้ถึงแก่ชีวิต ซึ่งการต่อสู้คดี ก็จะแสดงหลักฐานและรายละเอียดให้ศาลเห็นในส่วนนี้ว่า อดีตผกก.โจ้ ไม่มีเจตนา

ทนายของผกก.โจ้ บอกว่า เมื่อศาลนครสวรรค์สั่งในสำนวนชันสูตรแล้ว อัยการจะส่งให้ตำรวจเพื่อให้ตำรวจนครสวรรค์ นำไปรวมกับสำนวนคดีที่กองบังคับการปราบปราม หลังจากนั้นเป็นกระบวนการยื่นฟ้องตามกระบวนการยุติธรรม ในส่วนของลูกความของตน หรือ ผกก.โจ้ ก็ต้องต่อสู้ด้วยข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน

ขณะนี้ผู้กำกับโจ้ถูกควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ตนเข้าไปเยี่ยมพูดคุยบ้าง สบายดี ปรับตัวได้แล้ว ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นสอบสวน ฝากขังอยู่ในฝากที่ 5 ผัดแล้ว ซึ่งชั้นนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการสอบปสวน คาดว่า จะสามารถสอบสวนเสร็จสิ้น ครบกำหนดฝากขัง 7 ผัด

หลังจากนั้นก็ก็จะมีการยื่นฟ้อง ซึ่งคาดว่า ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน หากครบ7ผัดแล้ว ก็จะยื่นขอประกันตัว ออกมาต่อสู้คดี

ขณะนี้เตรียมหลักทรัพย์ต่างๆไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคดีนี้มีผู้เกี่ยวข้องหลายคน มีผลกระทบหลายคน ดังนั้นอดีตผกก.โจ้ ก็อยากออกมาเพื่อเตรียมตัว การพิสูจน์ความจริง

ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้เป็นกระแสข่าวว่า อดีตผกก.โจ้ ต้องกินยาชนิดหนึ่งทุกเช้า โดยระบุว่ายาชนิดนี้เป็นยารักษากลุ่มอาการไบโพล่า ทนายความอดีตผกก.โจ้ ยืนยันว่า ได้คุยสอบถามกับอดีตผกก.โจ้แล้ว เจ้าตัวยืนยัน ไม่ได้ป่วยเป็นไบโพล่าร์ หรือกินยารักษาอาการใดๆทั้งสิ้น ไม่มีอาการป่วยทางจิต หรือต้องกินยาตามกระแสข่าวดังกล่าว

ทั้งนี้ในระหว่างอยู่ในเรือนจำ อดีตผกก.โจ้ ก็มีอาการเครียดบ้างเพราะเป็นห่วงพ่อแม่และครอบครัว และอยากออกมาต่อสู้คดี เพราะยืนยันมาตลอดว่า ไม่มีเจตนาฆ่า แต่ทำเพื่องานเท่านั้น

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/oZneOSbf2aw