วันที่ 14 ต.ค. 64 ที่หน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง นางสาว จิตราภรณ์ เกื้อตุ้ง อายุ 39 ปี แม่ผู้เสียชีวิตพร้อมเพื่อน ๆ ของนายชิตพล เกือบ 100 ชีวิต ที่ใช้รถจักรยานยนต์ขับขี่กันมาเป็นขบวน ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ถูกทำร้ายร่ายกาย ถูกแทงด้วยอาวุธมีดจนเสียชีวิต บริเวณแหล่งท่องเที่ยว แก่งหูแร่ อำเภอบางแก้ว

ได้แห่ร่างของผู้เสียชีวิต คือนายชิตพล อายุ 17 ปี ที่บรรจุอยู่ภายในโลงศพ จากบ้านเกิด ตำบลโคกม่วง อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง มายังบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง เพื่อขอความเป็นธรรม โดยยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพัทลุง เพื่อให้เร่งรัดคดีจับคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว

เนื่องจากเป็นเหตุการณ์กลางวัน และมีผู้เห็นเหตุการณ์จำนวนมาก อีกทั้งมีพยานเพื่อนของผู้เสียชีวิตเข้าให้ปากคำแล้วหลายราย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ยังไม่มีความคืบหน้าของคดี ไม่สามารถจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้ จึงได้แห่ศพประท้วงดังกล่าว

เรียกร้องให้เร่งรัดคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมารับโทษโดยเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ ก่อเหตุเวลากลางวันในสถานที่ท่องเที่ยวสาธารณะ และหากรัมกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวเนื่องจากก่อเหตุอุกอาจ และอาจจะไปข่มขู่พยาน

พร้อมทั้งขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาไว้ซึ่งเกียรติวินัยตำรวจ ดำเนินคดีอย่างเป็นธรรม เป็นที่พึ่งของประชาชนในกระบวนการยุติธรรมอย่างแท้จริง ขอให้แจ้งผลการดำเนินการให้ญาติทราบอย่างต่อเนื่อง หากไม่เห็นด้วยจะได้ร้องคัดค้านตามกระบวนการต่อไป

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2564 ที่บริเวณแหล่งท่องเที่ยวแก่งหูแร่ ตำบลท่ามะเดื่อ อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นเหตุทะเลาวิวาทระหว่างกลุ่มวัยรุ่นต่างถิ่น ที่ไปเที่ยวยังสถานที่ดังกล่าว ขณะเกิดเหตุชุลมุนนั้น นายชิตพล ถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าบริเวณหน้าอก และถูกนำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลเขาชัยสน แต่ไม่สามารถทนพิษบาดแผลได้ จึงเสียชีวิตที่โรงพยาบาลขาชัยสน

ทางด้านนางสาวจิตราภรณ์ เกื้อตุ้ง อายุ 39 ปี กล่าวว่า ลูกของตนเสียชีวิตมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ยังไม่สามารถจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก็เป็นช่วงกลางวัน มีผู้เห็นเหตุการณ์จำนวนมาก

นอกจากนั้นพยานที่เห็นเหตุการณ์ก็ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว จ.พัทลุง ยังไม่ดำเนินการใด ซึ่งตนหวั่นลูกชายเสียชีวิตโดยไม่เป็นธรรม เพราะทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นญาติตำรวจ และเป็นหลานชายของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ตนจึงขอประกาศ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับคนร้ายได้ ตนก็จะไม่เผาศพลูกชายอย่างเด็ดขาด

ทางด้าน พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ แก้วขาว ผกก.สภ.บางแก้ว กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้วได้เร่งรัดคดีดังกล่าว โดยเฉพาะพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีดังกล่าว ได้เรียกสอบผู้ต้องสงสัยไปแล้วจำนวน 2 ราย ที่อยู่ในเหตุการณ์

แจ้งข้อหากล่าวร่วมในการชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป และบุคคลหนึ่งบุคคลใดเข้าร่วมในการนั้นหรือไม่ถึงแก่ความตายโดยการกระทำในการชุลมุนต่อสู้นั้น และหากพยานผู้เห็นเหตุการณ์ยืนยันว่าผู้ต้องสงสัยในจำนวน 2 รายดังกล่าวเป็นผู้ทำร้ายจนเสียชีวิตนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเจตนาฆ่าคนตายทันที่