สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน จากอิทธิพลพายุโซนร้อนคมปาซุ ในพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด เริ่มคลี่คลายแล้ว หลังจากเมื่อคืนนี้น้ำทะลักเข้าท่วมชุมชน จนต้องระดมช่วยอย่างโกลาหล

(13 ต.ค.) สถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ริมคลองสาขาแม่น้ำจันทบุรี คลองภักดีรำไพ คลองน้ำใส และที่ลุ่มเชิงเขาสระบาป เริ่มคลี่คลายแล้วบางส่วน โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มฝั่งตะวันออก ที่รับน้ำป่าจากเทือกเขาสระบาป ฝนเริ่มหยุด ทำให้การระบายน้ำลงทะเลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และบางแห่งชาวบ้านเร่งทำความสะอาดบ้านเรือน

ทั้งนี้ ยังคงเหลือที่ลุ่มฝั่งตะวันออกของอำเภอเมือง เช่น หมู่บ้านไชยยันต์ พลับพลา เพชรดาวเรือง ดอนตาล ที่น้ำยังทรงตัว ขณะที่ฝั่งตะวันตกของ อ.เมืองจันทบุรี ริมคลองน้ำใส รอบทะเลสาบทุ่งนาเชย ศูนย์การค้าเจพีไรวา ชุมชนวัดใหม่ หมู่บ้านนาฏศิลป์ น้ำเริ่มลดลงเช่นกันแต่เป็นไปอย่างช้าๆ

นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย นายก อบจ.จันทบุรี, นายกเทศบาลเมืองจันทบุรี ปภ.เขต 17 ได้ติดตามสถานการณ์การระบายน้ำอย่างใกล้ชิดโดยลงพื้นที่ดูเส้นทางการระบายน้ำลงคลองน้ำใส และแม่น้ำจันทบุรี ก่อนไหลลงทะเล ซึ่งการระบายน้ำเป็นไปตามปกติ มีบางจุดที่ตื้นเขินเพราะอยู่ในที่เอกชน คลองแคบ อีกทั้งน้ำในคลองน้ำใสล้นตลิ่งวกกลับมาลงแม่น้ำจันทบุรี

แต่มวลน้ำที่ท่วมในที่ลุ่มจังหวัดจันทบุรีทั้งหมด ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเขตเศรษฐกิจริมน้ำจันทบูรและตลาดสดเทศบาลแต่อย่างใด ทั้งนี้คาดว่า น้ำท่วมฉับพลันในเขตอำเภอเมืองจังหวัดจันทบุรี จะคลี่คลายในคืนนี้

จากสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้ ปภ.จังหวัดจันทบุรี ได้สรุปประเมินสถานการณ์เบื้องต้นมีพื้นที่ประสบอุทกภัย รวม 6 อำเภอ คือ อำเภอเมือง, อำเภอท่าใหม่, อำเภอขลุง, อำเภอมะขาม, อำเภอแหลมสิงห์ และ อำเภอเขาคิชฌกูฏ รวม 32 ตำบล 162 หมู่บ้าน 9 ชุมชน ได้รับผลกระทบไม่น้อยกว่า 5,000 ครัวเรือน ประมาณ 15,000 คน มีน้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนโดยรอบเฉลี่ย 1 ถึง 1.5 เมตร

เหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่จันทบุรี เกิดขึ้นจากฝนที่ตกหนักเกือบทั้งวันทั้งคืน จากอิทธิพลของพายุคมปาซุ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ จนต้องเร่งอพยพคนชรา ผู้ป่วยติดเตียงหลายสิบคน มีรถยนต์ของประชาชนจำนวนมากถูกน้ำท่วมขัง ระดับความลึกเกือบถึงหลังคารถ นอกจากนี้ที่ศูนย์กักตัวโควิด-19 วัดสระบาป อ.เมือง จ.จันทบุรี ได้ถูกน้ำท่วมขัง เต็มบริเวณ

ขณะที่จังหวัดตราด เกิดน้ำท่วมฉับพลันเช่นกัน นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เดินทางลงพื้นที่ 2 อำเภอ เพื่อสำรวจความเสียหาย พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนที่บ้านคลองขุด หมู่ที่ 2 ตำบลห้วยแร้ง อำเภอเมือง และที่บ้านทุ่งกระบอก หมู่ที่ 7 ตำบลสะตอ อำเภอเขาสมิง และมีประชาชนต้องมาอาศัยชั่วคราวที่ ศาลาหมู่บ้าน หมู่ที่ 5 บ้านดอนสูง ตำบลประณีต อำเภอเขาสมิง

ทางด้าน นายอภิรักษ์ ศรีกุลวงศ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ ได้ส่งหนังสือด่วนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ให้แจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังน้ำ เนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนคมปาซุ ส่งผลให้มีฝนตกเหนือเขื่อน ทำให้เขื่อนต้องเพิ่มการระบายน้ำจาก 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในภาคอีสาน จิสด้า ระบุว่า พนังกั้นน้ำชีชำรุด ส่งผลกระทบกับพื้นที่กว่า 9 พันไร่ โดยจิสด้า ได้ใช้ข้อมูลจากดาวเทียม 3 ดวง เปรียบเทียบพื้นที่น้ำท่วม จากกรณีพนังกั้นริมน้ำชีชำรุดที่ตำบลยางท่าแจ้ง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม พบพื้นที่น้ำท่วมแล้ว 9,046 ไร่

ส่วนความคืบหน้าการสร้างพนังกั้นน้ำริมน้ำชี ที่ตำบลยางท่าแจ้ง อำเภอโกสุมพิสัย จนถึงขณะนี้ ยังสร้างไม่เสร็จ แต่ก็คืบหน้าไปมาก โดยชลประทาน ได้จ้างผู้รับเหมา ระดมคนและเครื่องจักร คาดว่า จะสร้างเสร็จ และหยุดน้ำจากลำน้ำชี ไม่ให้สร้างความเสียหายกับพื้นที่เกษตรกรรมเพิ่มขึ้นอีก

ภาพจากดาวเทียมยังเผยถึง สถานการณ์น้ำท่วมใน 6 จังหวัด ภาคอีสาน รวม จังหวัดมหาสารคาม, นครราชสีมา, สุรินทร์, บุรีรัมย์, ขอนแก่น และชัยภูมิ ทั้งสิ้น 323,319 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำสายหลัก และที่อยู่อาศัยของชาวบ้านบางส่วน