สาวร้องถูกหลอกให้กู้เงินผ่าน SMS กว่าจะรู้ตัว สูญเงินแล้วหลายแสน

สังคม

สาวร้องถูกหลอกให้กู้เงินผ่าน SMS กว่าจะรู้ตัว สูญเงินแล้วหลายแสน

โดย panwilai_c

8 ต.ค. 2564

2.3K views

มีผู้ถูกหลอกให้กู้เงินออนไลน์ ร้องเรียนมายัง ข่าว 3 มิติ จำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่กำลังต้องการหาแหล่งกู้ยืมเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แต่ปรากฏว่า ขณะนี้ได้เกิดมิจฉาชีพ ฉวยโอกาสช่วงที่ผู้คนกำลังลำบาก ส่ง SMS ว่าปล่อยกู้เงินแบบออนไลน์ไปชักชวนและเสนอเงื่อนไขในรูปแบบต่างๆ แต่หากหลงเชื่อกลับถูกมิจฉาชีพใช้อุบายหลอกลวง และข่มขู่ ทำให้ต้องกลายเป็นฝ่ายเสียเงินไปจำนวนมาก



ทีมข่าว 3 มิติ พยายามสืบหาข้อมูลตามเบาะแสที่มี จนถึงเมื่อผู้เสียหายติดตามไปยังบริษัทที่ถูกระบุไว้ ในการปล่อยเงินกู้ ก็ปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแอพเงินกู้ออนไลน์แต่อย่างใด


เมื่อได้รับ SMS เป็นแอปฯเงินกู้ โดยกรอกข้อความตามคำชักชวน โดยได้ขอกู้ยืมเงินไป 5 หมื่นบาท ขั้นแรกของการเสียเงินก็เริ่มขึ้นเมื่อต้องโอนค่าธรรมเนียม 10% แต่ยังไม่จบแค่นั้น มิจฉาชีพยังอ้างว่าเป็นผู้กู้ใหม่ต้องมีค่าแรกเข้าอีก 3 หมื่นบาท กระบวนการล่อหลอกก็ตามมา โดยบอกว่าผู้กู้กรอกหมายเลขบัญชีผิด ต้องโอนเงินค่าปลดล็อคบัญชีอีก 3 หมื่นบาท มิฉะนั้นบัญชีบริษัทจะล่มเสียหายหลายร้อยล้าน



เมื่อโอนไปแล้ว มิจฉาชีพก็ตอบกลับมาว่าตรวจสอบบัญชีผู้กู้ พบว่าพัวพันเว็บการพนันออนไลน์ ต้องปลดล็อคก่อน ต้องโอนเงินอีก 6 หมื่นบาท เป็นขั้นตอนสุดท้าย และจะได้เงินกลับคืนทั้งหมด แต่เมื่อโอนไปก็ไม่เป็นเช่นนั้น กลับมีเงื่อนไขเพิ่มมาไม่จบสิ้นโดยอ้างว่าเป็นงวดสุดท้าย และไม่ยอมทำตามเวลาที่กำหนดทำให้ระบบล่ม หากไม่จ่ายค่าติดตั้งระบบใหม่ จะถูกดำเนินคดีเสียเงินกว่า 170 ล้านบาท จึงให้โอนค่ารักษาระบบอีก 150,000 บาท ผู้เสียหายเชื่อว่าคงได้เงินกู้พร้อมเงินคืนทั้งหมด จึงโอนเงินก้อนสุดท้ายไป รอนานจนข้ามวันก็ไม่มีเงินโอนเข้ามา จึงแน่ใจว่า ตกเป็นเหยื่อแอปฯ SMS เงินกู้


เมื่อเข้าไปดูจะพบว่าอ้างเป็นสถาบันการเงิน มีสำนักงาน และมีกรรมการผู้จัดการดูน่าเชื่อถือ ผู้เสียหายได้ติดตามไปที่สำนักงาน ซึ่งตั้งอยู่ที่ย่าน ดาวคะนอง พบว่าเป็นบริษัทกู้เงินจริง แต่ทางบริษัทปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็น หากไม่เชื่อก็ให้ฟ้องดำเนินคดีได้เลย


และล่าสุดมิจฉาชีพยังโทรศัพท์มาหลอกล่อว่าจะได้เงินทั้งหมดคืน โดยให้โอนงวดสุดท้ายอีก 1 แสนบาท ผู้เสียหายต่อรองจะเดินทางไปจ่ายเป็นเงินสดที่สำนักงานแต่ มิจฉาชีพอ้างว่าเป็นช่วงโควิดให้โอนเงินออนไลน์อย่างเดียว


เมื่อตรวจสอบเจ้าของหมายเลขที่โทรมา พบว่าผู้จดทะเบียนอยู่ ที่ชายแดน จ.ตาก และเจ้าของเครื่องก็ไม่ได้เป็นผู้โทร เบื้องต้น ตำรวจได้ออกหมายเรียกบุคคลที่เหยื่อโอนเงินไปมาให้การ แต่ละคนอ้างว่า บัญชีถูกคนนำไปแอบอ้าง และเงินจำนวนกว่า 280,000 บาท ได้โอนไปให้บัญชีหญิงอีกคน ซึ่งไม่ยอมให้การใดๆกับเจ้าหน้าที่


โดยคนร้ายได้โอนต่อกันไปหลายทอด เพียงเสี้ยววินาทีที่รู้ว่าเหยื่อโอนเงิน กว่าเหยื่อจะอายัดบัญชีก็ไม่เหลือเงินแล้ว แม้รัฐบาลจะให้บล็อก SMS หลอกลวงทางออนไลน์แต่ก็เป็นไปได้ยากเพราะยังมีส่ง SMS ส่งมาทุกวัน และทุกวันก็ยังมีผู้ตกเป็นเหยื่อ ส่วนการติดตามจับต้องติดต่อข้อมูลจากหลายหน่วยงาน ซึ่งบางธนาคารก็ไม่ยินยอมส่งข้อมูลการโอนเงินให้ตำรวจ ทำให้การติดตามคดีเป็นไปอย่างล่าช้า ไม่ทันกับกลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกเหยื่อได้ทุกวัน



คุณอาจสนใจ

Related News