น.ส.พิยดา ผู้ต้องหาฉ้อโกงหลอกขายโทรศัพท์มือถือเด็กชาย ม.2 ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ทำเด็กเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต ให้ทนายพามอบตัวแล้ว ยังปากแข็งปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างเลิกขายโทรศัพท์มือสองเป็นปีแล้ว ส่วนที่ร่ำรวยมาจากการขายของออนไลน์

(28 ก.ย.) เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา น.ส.พิยดา อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่หลอกลวงจะขายโทรศัพท์มือถือเด็กนักเรียนชั้นม 2 แล้วเชิดเงินหนี จนเด็กเครียดเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต พร้อมด้วยทนายเข้ามอบตัวกับพลตำรวจตรีพิเชษฐ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ / เบื้องต้น น.ส.พิยดา ให้การปฏิเสธตลอดข้อหา แต่ยกมือขอโทษญาติผู้เสียชีวิตบอกว่ายังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ ขอให้ปากคำกับตำรวจก่อน

ขณะที่ทนายความส่วนตัวบอกว่า น.ส.พิยดา ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับกรณีการหลอกขายโทรศัพท์มือถือให้เด็กชายนักเรียนชั้น ม.2 อายุ 14 ปี ที่อำเภอเชียงดาว ทั้งไม่เคยคุยและไม่เคยหลอกขาย รวมทั้งอ้างว่าไม่รู้จักกับผู้ต้องหาหญิงอายุ 18 ปี และ 19 ปี ทั้ง 2 คน ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ และไม่ได้จ้างให้เปิดบัญชีธนาคารด้วย โดยยอมรับแต่เพียงว่าเป็นแม่ค้าขายสินค้าออนไลน์ และเคยขายโทรศัพท์มือถือมือสองจริง แต่เลิกขายโทรศัพท์ไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่วนทรัพย์สินทุกอย่างได้มาจากการขายสินค้าออนไลน์

พลตำรวจตรีพิเชษฐ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า แม้ผู้ต้องหาจะบอกว่ามามอบตัว แต่เป็นคนที่มีหมายจับ ตำรวจจะต้องจับกุมตามกระบวนการ ตอนนี้ขอสอบสวนตามกระบวนการก่อน ผู้ต้องหาได้หลบหนีตามหมายจับถูกตำรวจตามกดดันจนขึ้นมามอบตัว เบื้องต้นได้ดำเนินคดี ตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ เหตุเกิดท้องที่ สภ.นาหวาย นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่า พิยดา มีหมายจับ อีกหลายท้องที่ซึ่งคาดว่าคงจะไม่ให้ประกันตัว

โดยเมื่อเวลาบ่ายสอง ตำรวจได้คุมตัว น.ส.พิยดา ไปที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อสอบสวนต่อ ใช้เวลาสอบสวนเพียง 1 ชั่วโมง ล่าสุดคุมตัว น.ส.พิยดา ไปที่ สภ.นาหวาย อำเภอเชียงดาว แล้ว โดยพันตำรวจเอก ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 เผยว่า จากการสอบสวนอย่างละเอียด ผู้ต้องหาไม่ยอมให้การใดๆ ยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาที่ตำรวจได้แจ้งไป ขอชี้แจ้งทุกอย่างในชั้นศาล ส่วนเรื่องการประกันตัว ขึ้นอยู่กับผู้กำกับการ สภ.นาหวาย และขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ซึ่งขณะนี้ทนายความผู้ต้องหา ขอเวลารวบรวมเอกสารก่อน

ส่วนการทำงานของตำรวจ จะขยายผลการจับกุมว่า มีใครเกี่ยวข้องอีกบ้าง จะจับกุมเพิ่มเติมให้หมด ส่วนความผิดของผู้ต้องหาเรามีพยานหลักฐานมัดแน่น ก่อนขอศาลออกหมายจับ เชื่อว่าจากหลักฐานที่มีจะเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ ส่วนทรัพย์สินของผู้ต้องหาทั้งบ้านหรู รถหรู เงินสดกว่า 40 ล้านในบัญชี ตำรวจจะเสนอให้ ปปง. ยึดทรัพย์ต่อไป

รับชมทางยูทูปที่ : https://youtu.be/dIlvwpI44-A