สังคม
หญิงวัย 47 ช็อกเดินไม่ได้ หลังฉีดไขว้เข็ม 2 ลูกชายลั่นไม่ต้องการเงิน ถามใครจะรับผิดชอบ?
โดย thichaphat_d
22 ก.ย. 2564
2.9K views
ลูกชาย เผย แม่ช็อกขยับขาไม่ได้หลังฉีดวัคซีนไขว้แอสตราฯ เข็ม 2 ถามใครรับผิดชอบไร้การดูแล หมอบอกอาจเดินไม่ได้ 3 เดือน-1 ปี ยังไม่ชี้ชัดเกิดจากผลข้างเคียงหรือไม่รอตรวจวินิจฉัย ระบุ“ผมไม่ต้องการเงินอยากให้แม่กลับมาเดินได้เหมือนเดิม”
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพแม่ของตัวเอง นอนใส่สายออกซิเจนและสายน้ำเกลือ อยู่บนเตียงที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในสภาพอ่อนเพลียหมดแรง หลังเข้ารับการฉีดวัคซีน โดยโพสต์ข้อความเชิงตัดพ้อประสิทธิภาพของวัคซีน และทวงถามถึงความรับผิดชอบจากหน่วยงานภาครัฐ ใจความในโพสต์ระบุว่า
ขอถามรัฐบาลหน่อยจิตใจทำด้วยอะไร ทำไมเอาวัคซีนที่ไม่มีประสิทธิภาพมาฉีดให้แม่ พวกตน แม่ ครอบครัวของตนต้องมาลำบากเพราะอะไร ไม่เห็นหน่วยงานไหนมารับผิดชอบเลย หมอบอกว่า แม่อาจจะเดินไม่ได้ 3 เดือน หรืออย่างมาก 1 ปี ไม่รู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนกันเลยหรอ
พอไม่ฉีดเกิดสังคมแอนตี้ ทั้ง ๆ วัคซีนที่ฉีดไม่ได้ป้องกันอะไรเลย ไม่มีประสิทธิภาพ วัคซีนร้ายแต่สังคมร้ายกว่าอยู่บ้านเราไม่ได้ต้องดิ้นรนเพื่อจะฉีดขนาดนั้น ไม่ได้อยู่พื้นที่เสี่ยง ไม่ได้ไปที่เสี่ยง คนที่ทำร้ายกันคือสังคมที่มองว่าคนที่ไม่ฉีดคือคนที่เอาเชื้อมาทำให้คนอื่นเดือนร้อน ไม่ฉีดก็โดนว่า ฉีดมาก็เป็นแบบนี้
“สาธุสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ขอให้ปกปักรักษาแม่ของลูกให้หายจากภยันตรายทั้งหลายด้วยเถิด บุญกุศลที่ลูกได้ทำมาขอให้ช่วยนำพาให้แม่ของลูกกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติด้วยเถิด” มีใครพอรู้ไหมเกี่ยวกับอาการแบบนี้ เราต้องร้องเรียนได้ที่หน่วยงานไหนที่จะต้องมารับผิดชอบ
พร้อมระบุว่า พอมีใครรู้ไหมช่วยบอกผมหน่อย ถามว่าเรามีเงินรักษาไหมมีครับ แต่ผมต้องการแค่ให้หน่วยงานมารับผิดชอบ มาดูแลบ้างไม่ใช่นิ่งเฉย ไม่ทำอะไรเลย ให้คนในครอบครัวดิ้นรนกันเองรับผิดชอบในตัวกันเอง ใครพอรู้ไหมช่วยบอกผมหน่อย สุดท้ายช่วยฝากแชร์หน่อยนะครับ
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายพีรพัฒน์ ศาสตราชัย อายุ 27 ปี ลูกชาย เผยว่า แม่ชื่อนางสาวอรนิด อายุ 47 ปี อาศัยอยู่ที่ต.สร้างถ่อน้อย อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ โดยวันที่ 17 ก.ย.2564 แม่ได้ไปฉีดวัคซีนไขว้เข็ม 2 แอสตราเซเนกา ที่โรงพยาบาลหัวตะพาน ก่อนหน้านั้นฉีดเข็ม 1 วัคซีนซิโนแวค
ทั้งนี้หลังจากแม่ได้ฉีดวัคซีนเข็ม 2 แอสตราเซเนกา เสร็จแล้ว ผ่านไป 30 นาที แม่เริ่มปวดเมื่อยตามเนื้อตัว ปวดแขนหน้ามืดต้องฝืนขับรถกลับบ้านคนเดียว ช่วงเย็นวันเดียวกันมีอาการเป็นไข้ หนาวสั่นตัวร้อน จากนั้นตี 2 ของวันที่ 18 ก.ย.2564 มีอาการช็อก จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลหัวตะพาน
หมอแค่ให้น้ำเกลือ ไม่ได้ตรวจเช็คอาการใด ๆ บอกเป็นไข้หวัด และให้แม่กลับบ้านเพราะไม่มีเตียง ถ้าอาการไม่ไหวค่อยกลับมา รพ.ใหม่ ขณะนั้นแม่ยังมีสติคาดว่าตัวเองน่าจะได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ ลูกชายบอกว่าแม่ไม่มีโรคประจำตัว แข็งแรง ไม่มีอาการเจ็บป่วยอะไรมาก่อน อาการเริ่มทรุดหลังจากฉีดวัคซีน
จากนั้นกลางวันวันที่ 18 ก.ย.2564 แม่มีอาการช็อกอีก ตนจึงได้พาไปโรงพยาบาลอำนาจเจริญ แม่พูดตอบโต้อะไรไม่ได้เลย หมอบอกช่วงล่างอาจเดินไม่ได้ ต้องใช้เวลา 3 เดือน ถึง 1 ปี อาจจะกลับมาเดินได้ปกติ นอน 1 คืนหมอบอกไม่สามารถเอกซเรย์ได้เนื่องจากอุปกรณ์ไม่พร้อม จึงส่งตัวแม่ไปที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี
“ผมฟังหมอพูดเสร็จรู้สึกเสียใจ คุณแม่จะเอาคนที่แข็งแรงเดินได้ปกติ ต้องมาเจออะไรแบบนี้ หัวอกคนเป็นลูกรับไม่ได้ไม่มีหน่วยงานไหนมาดูหรือถามอาการของแม่เลย ให้คนในครอบครัวดิ้นรนกันเอง ตอนนี้แม่ยังอยู่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เริ่มพูดได้แล้วแต่ขายังขยับไม่ได้ หมอบอกวินิจฉัยได้ 50 50 ยังไม่สามารถระบุชี้ชัดได้ ว่าเกิดจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ มันน่าคิดว่าหมอจะปิดบังเราหรือเปล่า แม่เห็นสภาพตัวเองกลายเป็นคนซึมเศร้า นั่งเหงาหงอย”
นายพีรพัฒน์ ลูกชายกล่าวต่อว่า หมอจะให้แม่ออกจากโรงพยาบาลภายใน 2-3 วัน และให้คนที่บ้านช่วยกันทำกายภาพบำบัดกันเอง ซึ่งหมอจะเจาะไขกระดูกสันหลังไปตรวจวินิจฉัยอีกรอบว่า อาการของแม่เกิดจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ แต่ตนเชื่อว่าเกิดจากฉีดวัคซีนแน่นอน
“หากอาการของแม่เกิดจากผลข้างเคียง จากการฉีดวัคซีนจริง ผมอยากให้หน่วยงานของรัฐมาขอโทษและรับผิดชอบไม่อยากให้ใครมาล้มป่วยเหมือนแม่ผมอีก ผมไม่อยากได้เงินหรอก ผมอยากได้แม่คนเดิมของผมกลับมา อยากให้เขากลับมาเดินได้เหมือนเดิม อยากให้มาถามสารทุกข์สุกดิบบ้าง อาการเป็นยังไงบ้าง แต่ไม่มีใครมาถามเลย ไม่เห็นใครมารับผิดชอบสักคน”
ตนไม่รู้ว่าวัคซีนที่นำมาฉีดด้อยคุณภาพหรือไม่ บางคนฉีดอาจไม่เป็นอะไร วัคซีนดี ๆ คนที่มีเงินก็สามารถซื้อได้ แต่คนไม่มีเงินก็ต้องฉีดวัคซีนฟรีของรัฐบาล เหมือนโดนบังคับให้ฉีด ถ้าไม่ฉีดก็โดนสังคมหรือคนในหมู่บ้านต่อว่าแอนตี้ จึงจำใจไปฉีด ถ้ามีเงินคงไปซื้อวัคซีนดี ๆ มาฉีดแล้ว
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/_pvEyT2Lq3c