จากกรณี นักเรียนหญิงชั้น ม.6 ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด นักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง ก่อเหตุบุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ สาขารัตนาธิเบศร์ 2 ภายในห้างบิ๊กซี รัตนาธิเบศร์ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ก่อนถูกจับกุมตัวไว้ได้ โดยผู้ก่อเหตุอ้างว่าได้ลงทุนเล่นแชร์ออนไลน์ แต่ถูกโกง จึงคิดสั้นตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว

พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ เผยว่า จากการสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้ก่อเหตุให้การว่า ก่อนหน้านี้คุณพ่อเสียชีวิต และได้รับเงินประกันชีวิตจำนวน 50,000 บาท เนื่องจากมีชื่อเป็นผู้รับผลประโยชน์ ซึ่งคุณแม่ให้เก็บเงินไว้เอง

ต่อมาประมาณปลายปี 2563 ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปลงทุนเล่นแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย ในลักษณะแชร์ออมเงิน ที่อ้างว่าจะให้ดอกเบี้ยสูง ซึ่งตอนแรกๆเริ่มลงทุนประมาณหลักพันบาท และได้ผลตอบแทนจริง จึงเพิ่มเงินลงทุนไปเรื่อยๆ ก็ได้รับผลตอบแทนจริง จนเกิดความเชื่อใจ นำเงินเก็บทั้งหมดไปลงทุน สุดท้ายถูกท้าวแชร์โกง หนีหายไม่สามารถติดต่อได้ จนเสียเงินทั้งหมดไป

ล่าสุด คุณแม่ของผู้ก่อเหตุตกงาน จึงสอบถามหาเงินดังกล่าวเพื่อจะนำมาใช้จ่าย แต่คุณแม่ไม่ทราบว่าลูกสาวนำเงินไปเล่นแชร์จนถูกโกง ซึ่งผู้ก่อเหตุไม่กล้าบอกความจริงกับคุณแม่ จึงคิดสั้นไปก่อเหตุดังกล่าว เพื่อจะนำเงินจำนวนนี้ไปใส่ในบัญชีให้แม่ดู จากพฤติกรรมของน้อง คาดว่าคิดมาก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ

ซึ่งทางเราให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา แต่น้องไม่มีพฤติกรรมอะไรเลย ไม่ร้องไห้ ไม่พูด และเงียบ ตอนนี้ยายทวดน้องเข้ามาดูแลอยู่เพราะแม่น้องติดโควิดอยู่ในจังหวัดอื่น ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าทางครอบครัวน้องเป็นอย่างไร

ทั้งนี้ มีหลักฐานการพูดคุยผ่านแชทและหลักฐานการโอนเงินบางส่วนที่ผู้ก่อเหตุได้โอนเงินไปให้ท้าวแชร์รายหนึ่ง พร้อมให้ข้อมูลว่า

เริ่มเล่นแชร์ผ่านโซเชียลมีเดียเมื่อประมาณปลายปี 2563 ในอินสตาแกรมของบัญชีที่ใช้ชื่อว่า "suchata" ซึ่งตอนนี้บัญชีดังกล่าวปิดไปแล้ว ระหว่างที่เล่นแชร์ น้องได้ถูกดึงเข้ากลุ่มไลน์หนึ่ง เป็นกลุ่ม open chat ที่มีสมาชิกประมาณ 1,000 คน ทำให้ดูน่าเชื่อถือ

โดยน้องได้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี ชัยณรงค์ ทองอยู่ ประมาณ 5-6 ครั้ง ยอดรวมประมาณ 57,000 บาท

นอกจากนี้น้องยังได้ลงทุนกับผู้ใช้อินสตาแกรมที่ชื่อว่า "aomngernbyaomsin" ที่เปิดบัญชีเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 และปิดบัญชีไปช่วงหนึ่ง ก่อนจะเปิดอีกครั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 ซึ่งขณะนี้ยังไม่ปิดบัญชีดังกล่าว

โดยมีการโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารกรุงศรี ชื่อบัญชี ธิดาวรรณ บุญกล้า จำนวน 2 ครั้ง ยอดรวม 5,000 บาท และบัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี ธัญญ์นภัส บุญกล้า จำนวน 1 ครั้ง ยอดรวม 2,000 บาท

โดยเท้าแชร์รายนี้เปิดให้ลงทุนออมเงินราย 3 วัน 5 วัน และ 7 วัน ให้ผลตอบแทนแตกต่างกันไป ซึ่งน้องเลือกลงทุนราย 7 วัน เพื่อหวังผลตอบแทน 50% ตามที่เท้าแชร์ประกาศ

อย่างไรก็ตาม ไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุถูกเท้าแชร์แรกโกง แล้วมาลงทุนกับเท้าแชร์อีกราย หรือลงทุนกับเท้าแชร์ทั้ง 2 รายไปพร้อมๆกัน

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/MPU6WRcfVFw