ประเด็นการร้องเรียน ผู้บังคับบัญชาของหน่วยกองบินตำรวจ ที่ลำเลียงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หนีภาษีด้วยเครื่องบินของหน่วยงาน โดยอ้างว่าจะนำมาฝากนาย

ทีมข่าว 3 มิติ ได้ตรวจสอบข้อมูลการลำเลียงนำเข้าสุรา และบุหรี่หนีภาษี พบว่านอกจากขบวนการกองทัพมด ที่ต้องจ่ายสินบนแล้ว อีกกลุ่มที่ลำเลียงเป็นประจำคือกลุ่มคนมีสี ซึ่งการลำเลียงก็มีทั้งทางบกและทางทะเล โดยไม่ต้องเลี่ยงด่าน สามารถนำเข้ามาได้ทางด่านพรมแดนโดยตรง ด้วยการอ้างว่าเป็นของนาย

โดยคลิปภาพการลำเลียงสุราหนีภาษี ถูกบันทึกไว้เมื่อ 13 มีนาคม และ 6 พฤษภาคม 2561 โดยปรากฎนายตำรวจยศพลตำรวจตรี สังกัดกองบินตำรวจ ถูกร้องเรียนว่า ในช่วงมีภารกิจฝึกบินในแต่ละเดือน ระหว่างกรุงเทพฯ กับท่าอากาศยานหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในเที่ยวกลับจะลำเลียงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หนีภาษีมาด้วย หลังมาถึงกองบินจะมีรถยนต์ส่วนตัว มาลำเลียงออกไป

ทีมข่าวสอบถามอดีตผู้ค้าสุราหนีภาษี ระบุว่า เจ้าหน้าที่รัฐมีการลำเลียงสุราและบุหรีหนีภาษีจากด่านชายแดนจริง โดยเฉพาะช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 ที่ด่านชายแดนยังเปิดตามปกติ ก็จะลำเลียงเข้ามาทั้ง 2 ด่านด้านปาดังเบซาร์และด่านสะเดา อีกทั้งทางทะเลก็จะลำเลียงมากับเรือ เข้ามาทางด้าน จ.สตูล

การเข้าไปรับสินค้าหนีภาษี สามารถข้ามแดนไปได้โดยแจ้งว่า เป็นของ "นาย" ก็ขับรถเข้าไปรับที่ด้านหลังใกล้บริเวณพื้นที่เขตปลอดภาษีของประเทศเพื่อนบ้าน และขับกลับเข้ามาตามด่านปกติ หลังจากนั้นก็สามารถนำขึ้นทั้งเครื่องบินของหน่วยงานราชการที่บินไปปฏิบัติหน้าที่ หรืออีกช่องทางก็จะลำเลียงทางรถไฟ ทั้งหมดมีกลุ่มคนมีสีเข้ามาเกี่ยวข้องในการลำเลียง

แม้ขณะนี้ด่านชายแดนปิด รถไม่สามารถผ่านด่านได้ แต่ช่องทางการลักลอบนำเข้ามา โดยกลุ่มกองทัพมด ที่ต้องจ่ายสินบน เพื่อแอบนำเข้าผ่านริมรั้วของทั้ง 2 ด่านชายแดน หรือสามารถนำเข้าทางเรือ ซึ่งมีลำคลองธรรมชาติให้จอดลำเลียงขึ้นทางบกได้ง่าย หากลำเลียงเข้ามาถึงหาดใหญ่ จ.สงขลา แล้วก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะกระจายไปยังร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หนีภาษี และกระจายมาสู่กรุงเทพฯ หรือจังหวัดต่างๆ

โดย อดีตผู้ค้า ระบุว่า เจ้าหน้าที่รัฐตั้งแต่ด่านหน้า จนถึงหน่วยที่ดูแลด้านสิ่งของหนีภาษี ก็ทราบกันดีว่ามีส่วนได้รับผลประโยชน์ จนเป็นที่รู้กันว่ามีคนมีสีบางคน เป็นผู้ค้าสุราและบุหรี่หนีภาษี