การเมืองวันนี้ ยังจับตาท่าทีทางการเมืองของ 2 อดีตรัฐมนตรี ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า และ คุณนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ที่เพิ่งถูกให้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีไปเมื่อวานนี้

โดยเมื่อวานนี้ ประมาณ 15.40 นาที เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระบรมราชโองการ ให้ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า พ้นจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ ให้คุณนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน

ซึ่งเป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่ ร้อยเอกธรรมนัส แถลงข่าวที่อาคารรัฐสภา บอกว่าตัวเองขอลาออกจากตำแหน่งเอง และมีการโชว์ใบลาออกต่อหน้าสื่อมวลชนด้วย

แต่ก็มีการจับผิดว่าใบลาออกเหมือนทำออกมารีบๆ รีบถึงขั้นว่า ชื่อของร้อยเอกธรรมนัส บางช่วงคำ ใส่ยศร้อยเอกนำหน้า บางคำกลับไม่ใส่ และแบบฟอร์มก็ดูจะผิดเพี้ยนไปจากหนังสือทางการ ทำให้ถูกมองว่าน่าจะเป็นการแถลงข่าวแก้เกี้ยวเพราะรู้แล้วว่าถูกปลดออกหรือไม่

ก่อนที่ในเวลาต่อมา รองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม จะยืนยันว่า ทั้ง2รัฐมนตรีถูกปลดให้พ้นจากตำแหน่ง ไม่ใช่ กรณีของการลาออก

ขณะที่นายกรัฐมนตรีก็ยอมรับว่าเป็นคนดำเนินการเรื่องนี้เอง เพราะผมมีเหตุผลของผม 

ความจริงคนที่ออกมาพูดเรื่องนี้คน แรกถ้าจำกันได้ คือ ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่ใกล้ชิดกับ ร้อยเอกธรรมนัส โพสต์เฟซบุ๊กตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน บอกว่า "มีข่าวว่านายกรัฐมนตรี เซ็นคำสั่งปลด ร้อยเอกธรรมนัส แล้ว" ก็เป็นที่ฮือฮากัน

ท่ามกลางกระแสข่าวคลื่นใต้น้ำของพรรคพลังประชารัฐ ระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี กับ อีก 5 รัฐมนตรี ตอนนั้นมีการมองกันว่าอาจจะเป็น 1 ในแผนกดดันนายกรัฐมนตรี

ย้อนดูไทม์ไลน์ก่อนที่จะมีการปลด 2 รัฐมนตรีเกิดขึ้น มีการวิเคราะห์กันว่าเรื่องนี้สืบเนื่องมาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และ อีก 5 รัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 31 ส.ค. – 3 ก.ย. ที่ผ่านมา กับกระแสข่าว ว่า มี 3รัฐมนตรีช่วย หรือ แก๊ง 3 ช. ต้องการที่จะขึ้นมานั่งรัฐมนตรีว่าการ

เป้าหมายหนึ่งในนั้นก็จะมีตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ของพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ด้วย ทำให้มีความพยายามกดดันไปที่ตัวนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ปรับคณะรัฐมนตรี โดยใช้การอภิปรายไม่ไว้วางใจมาเป็นเครื่องมือ

จนมีภาพที่ร้อยเอกธรรม ไปนั่งคุยกับพรรคเล็ก ระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรก ถูกมองว่าเป็นการตอกน้ำกระแสข่าวที่เกิดขึ้นและมีข่าวไปถึงขั้นว่า นายกฯอาจแก้ปัญหาด้วยการยุบสภา

ขณะที่ วันต่อนายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์เตือนด้วยตัวเอง ว่าคนทำเรื่องนี้ถือว่าไม่ใช่สุภาพบรุษ และให้ระวังเพราะมีการแอบอ้างบางอย่างที่ไม่เหมาะสมด้วย

จากนั้นวันที่ 3 กันยายน มีการประชุมพรรคพลังประชารัฐที่รัฐสภา และตามรายงานบอกว่า มีการนัดเคลียร์ใจกันเกิดขึ้นโดยมี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นคนกลาง ทำให้ทุกอย่างดูเหมือนจะจบลงด้วยดี

แต่สุดท้ายการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 4 กันยายน นายกรัฐมนตรีมีคะแนนไม่ไว้วางใจมากที่สุดจากการที่มีพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งเป็นพรรคเล็กโหวตสวน ก็ถูกมองว่าน่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจขั้นเด็ดขาด

มีรายงานด้วยว่า ร้อยเอกธรรมนัส ต้องการลาออกด้วยตัวเองมาตั้งแต่ก่อนการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว แต่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ให้เห็นด้วย บอกว่าเคลียร์ได้ ทุกอย่างจบแล้ว แต่ก็นำมาสู่เหตุการณ์เมื่อวานนี้

ซึ่งถ้าจับสัญญาณจาก พลเอกประวิตร ก่อนหน้านี้ 2-3 วัน จะพูดย้ำอยู่เสมอว่า นายกฯยืนยันจะไม่ปรับ ครม. จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ มีการมองว่าเหมือนเป็นการพูดดักคอไว้ แต่ก็ไม่เป็นผล

ส่วนกรณีของ คุณนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ นั้นยังไม่มีรายงานสาเหตุที่ชัดเจน แต่ก็ถูกมองว่าอยู่ในกลุ่ม 3 รัฐมนตรีช่วยที่เป็นกระแสข่าว และมีความใกล้ชิดกับ ร้อยเอกธรรมนัสมาตลอด

หลังจากนี้ต้องจับตาท่าที ว่า 2 อดีตรัฐมนตรี จะลาออกจากตำแหน่งภายในพรรคด้วยหรือไม่ เนื่องจาก ร้อยเอกธรรมนัส ยังมีตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรค ขณะที่ คุณนฤมล มีตำแหน่งเป็นเหรัญญิกพรรค ซึ่งร้อยเอกธรรมนัสพูดไว้ชัดเจนเมื่อวานนี้ว่าอาจจะย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ 

ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้คอการเมือง จับตาไปทีท่าทีของกลุ่มสามมิตร ที่เคยมีบทบาทภายในพรรคพลังประชารัฐก่อนหน้านี้ว่าจะมีการกลับมา บทบาทอีกหรือไม่

ซึ่งนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ใกล้ชิดกับกลุ่มสามมิตร บอกว่าเรื่องปรับโคงสร้างเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ภายในพรรค

แต่เชื่อว่าหากร้อยเอกธรรมนัสลาออกจริง คงไม่มีใครลาออกตาม เพราะคนที่เข้ามาในพรรคพลังประชารัฐ มาเพราะมีพลเอกประยุทธ์ เป็นนายรัฐมนตรี และมีพลเอกประวิตร ที่เป็นหัวหน้าพรรค ถ้าจะย้ายออกไปก็คงไม่มีอนาคตทางการเมือง

ส่วนท่าทีของนายกรัฐมนตรี วันนี้ไปลงพื้นที่ จังหวัดนนทบุรี ตรวจเยี่ยมมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในโรงงาน หรือ "Factory Sandbox"

ผู้สื่อข่าวก็มีการถามว่า สบายใจขึ้นหรือไม่ หลังมีการปรับ 2 รัฐมนตรีออกตำแหน่ง โดยท่านนายกฯก็บอกว่า สบายใจมาโดยตลอด ไม่มีอะไรต้องเคลียร์กับพลเอกประวิตรแล้ว