แหล่งข่าว ศบค.ยอมรับ 'ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว' ยังไม่ได้ผล เผยสายพันธุ์เดลตา ครองทั่วประเทศ 78.2%

สังคม

แหล่งข่าว ศบค.ยอมรับ 'ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว' ยังไม่ได้ผล เผยสายพันธุ์เดลตา ครองทั่วประเทศ 78.2%

โดย thichaphat_d

5 ส.ค. 2564

68 views

แหล่งข่าวระดับสูงในศบค. เผยถึงกรณีที่จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงถึง 20,000 ราย เพราะในช่วงนี้มีการเร่งตรวจค้นหาเชื้อเชิงรุกมากขึ้น ทั้งการใช้ antigen Rapid test kit รวมไปถึงมีการใช้ชุดตรวจ CCRT ลงพื้นที่ชุมชน เร่งตรวจเพื่อแยกเอาผู้ติดเชื้อมารักษา ช่วงนี้จึงพบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงขึ้น


เพราะฉะนั้นในมาตราการด้านสาธารณสุข ยอมรับได้ในระดับหนึ่งแล้ว และให้ใช้มาตรการนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อเร่งแยกผู้ติดเชื้อนำมารักษา และเร่งจัดตั้งระบบ Home isolation หรือ community isolation


ยอมรับว่าการใช้มาตรการ ล็อกดาวน์หรือเคอร์ฟิวยังไม่ได้ผล เนื่องจากประชาชนยังปฏิบัติตามไม่มากพอสมควร แต่จะพยายามเร่งแก้ไขปัญหา ซึ่งหากเข้มมาตรการมากขึ้นกว่านี้ก็จะสร้างความเดือดร้อนมากขึ้น ถึงต้องประเมินอีกสักระยะหนึ่ง จำนวนผู้ติดเชื้อเองเพิ่มขึ้นอย่างมีเหตุผล ไม่ได้ทำอะไรเลยมาตรการเหมือนเดิม ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมา นั่นจึงน่าเป็นห่วง


ด้านนายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดข้อมูลการเฝ้าระวังระหว่างวันที่ 24 ถึง 30 กรกฎาคม 2564 ว่า ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สุ่มตรวจ จำนวน 1,229 ราย เป็นสายพันธุ์เดลตา จำนวน 1,059 ราย ร้อยละ 86.2 / สายพันธุ์อัลฟาจำนวน 170 ราย หรือ ร้อยละ 13.8 ส่วนสายพันธุ์เบตาไม่พบผู้ติดเชื้อ


ส่วนภูมิภาคสุ่มตรวจ จำนวน 1,318 ราย เป็นสายพันธุ์เดลตา 934 ราย ร้อยละ 70.9 / สายพันธุ์อัลฟา 368 ราย ร้อยละ 27.9 และสายพันธุ์เบตา 16 ราย ร้อยละ 1.2 โดยขณะนี้สายพันธุ์เดลตาพบ 74 จังหวัด ส่วนสายพันธุ์เบตาสัปดาห์นี้พบเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ พบมากที่สุดที่จังหวัดยะลา 14 ราย จังหวัดสงขลาและตรังจังหวัดละ 1 ราย


ภาพรวมทั้งประเทศ จากการสุ่มตรวจผู้ติดเชื้อทั้งหมด 2,547 ราย เป็นสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) จำนวน 1,993 ราย หรือ ร้อยละ 78.2 / สายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) จำนวน 538 ราย ร้อยละ 21.2 และสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) จำนวน 16 ราย ร้อยละ 0.6%


สำหรับสายพันธุ์แลมบ์ดาที่พบในแถบประเทศอเมริกาใต้ ยังไม่พบในประเทศไทยแต่อย่างใด และยังเป็นเพียงสายพันธุ์ที่น่าสนใจ (Variant of Interest) ตามการแบ่งระดับขององค์การอนามัยโลก (WHO)



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ya-kNV3Inso

คุณอาจสนใจ

Related News