เกิดเรื่องเศร้ากับครอบครัวหนึ่ง อาศัยในซอยอ่อนนุช 66 ต้องสูญเสีย คุณตาและคุณยายไปพร้อมๆกัน จากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิต คือคุณตาจิว อายุ 82 ปี และคุณยายนิตยา อายุ 80 ปี ทั้งสองคนอาศัยในบ้านรวมกับลูกหลาน โดยบ้านแบ่งเป็นสองหลังในรั้วเดียวกัน

คุณกิ่ง หลานสาว เล่าว่า ทั้งบ้านอาศัยแยกกันสองหลัง มีสมาชิกทั้งหมด 8 คน ติดเชื้อโควิด 6 คน ส่วนเด็ก 2คนแยกตัวไปอยู่บ้านญาติ เริ่มจากแฟนของคุณกิ่ง มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดจึงไปหาหมอที่คลินิก เมื่อวันที่ 12 กค. แต่ผ่านไป 3 วัน พบว่าอาการไม่ดีขึ้น จึงไปหาหมอที่ รพ. ทาง รพ.ตรวจเชื้อโควิด ต่อมาวันที่ 19 ก.ค. ทาง รพ.แจ้งว่าติดเชื้อโควิด และมารับตัวไปรักษาที่ฮอพิเทล จนหายและกลับมาพักฟื้นที่บ้าน

จากนั้นสมาชิกในบ้านหลังแรก ทุกคนก็ไปตรวจเชื้อ ที่จุดตรวจเชิงรุกที่สนามกีฬาหัวหมาก ผลออกมาคือติดเชื้อ ส่วนบ้านอีกหลัง มีป้าต๋อย และคุณตาจิว และคุณยายนิตยา ยังไม่ได้ไปตรวจเชื้อ เพราะคุณตาเป็นผู้ป่วยอัมพาต ส่วนคุณยายก็ชรามาก เดินทางลำบาก มีเพียงป้าต๋อยลูกสาว ไปตรวจเชื้อคนเดียว รอบแรกไปตรวจที่คลินิก ผลคือไม่ติด ต่อมาป้าต๋อย จึงไปตรวจเชิงรุกอีกครั้ง ที่ศูนย์กีฬามีนบุรี พอผลออกพบว่าไม่ติด แต่ป้าต๋อยเริ่มมีอาการ จมูกไม่ได้กลิ่น

ในบ้านหลังนี้ เหลือเพียงคุณตา คุณยาย สองคน ครอบครัวพยายามประสานขอไปตรวจเชื้อตามรพ.ต่างๆ ก็ไม่มีใครตอบรับ บางรพ.ก็บอกต้องเหมารถมาเอง และญาติต้องมาต่อคิวก่อน จึงจะตรวจได้ -หลานโทรขอความช่วยเหลือ 1669 ก็โอนสายไปมา เพราะตอบไม่ได้ว่าคุณตาคุณยาย เป็นผู้ป่วยหรือไม่ พยายามโทรทุกทาง จนกระทั่งวันเสาร์ที่ผ่านมา แจ้งขอความช่วยเหลือไปที่หน่วยช่วยเหลือของทหาร ก็แจ้งกลับมาว่า จะมาตรวจเชื้อให้ตากับยายวันที่ 2 ส.ค.

ระหว่างรอ เพื่อนบ้านจึงนำที่ตรวจแบบ ATK มาให้ตรวจ ก็พบว่าตาและยาย ติดเชื้อโควิด ครอบครัวนี้ได้แต่รอ แต่อาการของคุณตาเริ่มทรุด มีไข้ ไอ และหอบเหนื่อยตั้งแต่วันเสาร์ที่ 31กค. ทางครอบครัวทำได้แค่ให้กินยาตามอาการ

คืนวันที่ 1 สค คุณตาอาการหนัก ไอทุรนทุราย คุณยายก็เฝ้ามองไม่ห่างด้วยความเป็นห่วง ทุกคนพยายามหายา และดูแลคุณตา แต่ไม่ทัน คุณตาเสียชีวิต ช่วงประมาณสี่ทุ่ม

ครอบครัวเสียใจอย่างมาก เพราะไม่ทันได้รักษาหรือพาคุณตาไปรพ. และเป็นช่วงสถานการณ์เคอร์ฟิว ทางมูลนิธิและตร.ยังไม่ได้เข้ามาเก็บศพในช่วงกลางคืน จึงบอกกับญาติว่าจะมาเก็บศพ ในเช้าวันที่ 2 ส.ค.ครอบครัวจึงต้องใช้ผ้าคลุมศพคุณตาไว้ในห้องนอน

หลังจากคุณตาเสียชีวิต ป้าต๋อยก็บอกกับคุณยายว่า คุณตาเสียแล้ว คุณยายก็บอกทำใจได้ ไม่เป็นไร แต่ตกดึกหลังจากตาเสีย ช่วงเวลาประมาณตีสอง คุณยายมีอาการไอ หอบเหนื่อย และเริ่มเบลอ พูดจาไม่รู้เรื่อง ป้าต๋อยลูกสาวคอยดูแลไม่ห่าง จนกระทั่งช่วงเช้า คุณยายหลับไป ก็เข้าใจว่า คุณยายเพลียและคงหลับ จึงลงมาเตรียมอาหารและผ้าเช็ดตัวจะไปเช็ดตัวให้ แต่พอไปถึง ยายเสียแล้ว จึงบอกกู้ภัยว่า มาเก็บสองศพนะ เพราะยายก็เสียอีก 1 ศพ

ป้าต๋อยบอกทั้งน้ำตาว่า มันเศรัามาก เราพาคุณตาไปหาหมอไม่ได้ เสียชีวิตแล้ว คุณยายก็พาไปหาหมอไม่ได้อีก ศพคุณตา ยังนอนอยู่ในห้องยังไม่ทันได้เก็บ คุณยายก็มาเสียอีก เรานอนดูคุณตาคุณยาย เราร้องโอดโอยไปหาหมอไม่ได้ จะรักษาก็ไม่มีใบตรวจ ใครจะรับตรวจ แต่อาการที่คุณตาและคุณยาย รอไม่ได้แล้ว คุณคุณตาทรมานเราก็ช่วยไม่ได้ ช่วยเหลือไม่ได้ทุกอย่างต้องรอ แล้วก็ต้องรอจนเสียชีวิต

สำหรับครอบครัวนี้เหลืออีก 4 คนที่ติดเชื้อ ก็เข้ารับการรักษา แบบโฮมไอโซเลชั่น ซึ่งได้รับยาฟาวิพิราเวียร์แล้ว และตอนนี้คนในบ้านเริ่มอาการดีขึ้น แต่ก็ต้องมาเจอกับเรื่องเศร้าสลดที่สูญเสียคุณตาและคุณยายไปพร้อมกัน เมื่อวานนี้มูลนิธิร่วมกตัญญู ก็นำร่างคุณตาและคุณยายไปฌาปนกิจที่วัดกระทุ่มเสือปลา เขตประเวศ โดยใช้เตาเผาสองศพ ข้างกัน เผาพร้อมกัน

ทางทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ก็ได้นำข้าวสาร น้ำดื่ม และยาฟ้าทลายโจร วิตามินซี ที่คุณผู้ชม บริจาค นำไปช่วยเหลือ ครอบครัวของคุณตาคุณยาย เพื่อใช้รับประทานระหว่างรักษาตัว

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/p144R6Jes2o