เช็คชื่อจังหวัด ถูกปรับพื้นที่สีแดงเข้ม เริ่ม 3 ส.ค.64 - ให้เปิดร้านอาหารในห้างได้ แต่เฉพาะเดลิเวอรี่เท่านั้น

สังคม

เช็คชื่อจังหวัด ถูกปรับพื้นที่สีแดงเข้ม เริ่ม 3 ส.ค.64 - ให้เปิดร้านอาหารในห้างได้ แต่เฉพาะเดลิเวอรี่เท่านั้น

โดย thichaphat_d

2 ส.ค. 2564

998 views

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำประชุม คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ครั้งที่ 11 /2564 ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference)


โดยภายหลังการประชุม แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริการสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แถลงว่า ศบค.มีมติเพิ่มพื้นที่สีแดงเข้มและควบคุมสูงสุด เดิม 13 จังหวัด เพิ่มเป็น 29 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครนายก นครราชสีมา นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี อยุธยา เพชรบุรี ปัตตานี เพชรบูรณ์ ยะลา ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สงขลา สิงห์บุรี สมุทรปราการสมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง


และพื้นที่ควบคุมสูงสุด จากเดิม 53 จังหวัด ปรับลดเหลือ 37 จังหวัด ประกอบด้วย กาฬสินธุ์ กำแพงเพชรขอนแก่น จันทบุรี ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครศรีธรรมมราช นครสวรรค์บุรีรัมย์ พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก มหาสารคาม ยโสธร ระนอง ร้อยเอ็ด ลำปาง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สกลนครสตูล สระแก้ว สุโขทัย สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อุดรธานี อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ


พื้นที่ควบคุมจากจาก 10 จังหวัดเป็น 11 จังหวัด คือกระบี่ นครพนม น่าน บึงกาฬ พะเยา พังงา แพร่ ภูเก็ตมุกดาหาร แม่ฮ่องสอน และสุราษฎร์ธานี มาตรการป้องกันควบคุม โควิด-19 ตามระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อย ในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร


พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

-การจำกัดการเดินทางเลี่ยงจำกัดหรืองดการเดินทางออกนอกเคหสถานที่พักโดยไม่จำเป็น โดยห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น. งดให้บริการขนส่งข้ามเขตจังหวัด การตั้งด่านสกัดระหว่างเขตจังหวัด (ตามมาตรการที่ราชการกำหนด)

-การจัดกิจกรรมห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มมากกว่า 5 คน (ตามมาตรการที่ราชการกำหนด)

-ร้านอาหาร ห้ามบริโภคอาหารภายในร้านขายได้แบบนำไปบริโภคที่อื่น เปิดได้ไม่เกิน 20.00 น. งดจำหน่ายและงดดื่มสุราในร้าน (ตามมาตรการที่ราชการกำหนด)

-ศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า เปิดบริการได้เฉพาะร้านอาหารเครื่องดื่มโดยเฉพาะผ่าน Delivery Service ร้านขายยา/เวชภัณฑ์/ ซุปเปอร์มาร์เก็ตเปิดได้ไม่เกิน 20.00 น.

-ปิด ร้านเสริมสวย ร้านนวด สถานเสริมความงาม

-สถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา ห้ามใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน/กิจกรรมที่มีการรวมตัวจำนวนมาก

-ปิด สถานที่เล่นกีฬา หรือแข่งขันกีฬา


พื้นที่ควบคุมสูงสุด

-การจำกัดการเดินทาง ตั้งจุดตรวจด่านตรวจหรือจุดสกัดเพื่อตรวจคัดกรองการเดินทาง

-การจัดกิจกรรมห้ามจัดกิจกรรมรวมคน มากกว่า 20 คน (ตามมาตรการที่ราชการกำหนด)

-ร้านอาหารบริโภคในร้านได้ เปิดได้ไม่เกิน 23.00 น. งดจำหน่ายและงดดื่มสุราในร้าน (ตามมาตรการที่ราชการกำหนด)

-ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าเปิดบริการได้ตามเวลาปกติ (จำกัดจำนวนคนงดจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย) ร้านเสริมสวย ร้านนวด สถานเสริมความงาม เปิดบริการได้ตามปกติ (ตามมาตรการที่ราชการกำหนด)

-สถานศึกษาทุกระดับสถาบันกวดวิชา ให้ใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน กิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด

-สถานที่เล่นกีฬาหรือแข่งขันกีฬาเปิดบริการได้ทุกประเภทไม่เกิน 21.00 น. จัดการแข่งขันได้โดยจำกัดผู้ชม


พื้นที่ควบคุม

-การเดินทาง ไม่จำกัดการเดินทาง

-การจัดกิจกรรม ห้ามกิจกรรมรวมคนมากกว่า 50 คนร้านอาหารบริโภคในร้านได้ เปิดได้ตามปกติ (งดการจำหน่ายและงดดื่มสุรา)

-ศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้า เปิดบริการได้ตามปกติ(ปิดในส่วนเครื่องเกม สวนสนุก)

-ร้านเสริมสวย ร้านนวด สถานเสริมความงาม เปิดบริการได้ตามปกติ

-สถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา ให้ใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติภายใต้มาตรการป้องกันโรคที่ราชการกำหนด

-สถานที่เล่นกีฬาหรือแข่งขันกีฬา เปิดบริการได้ตามเวลาปกติทุกประเภท จัดการแข่งขันได้โดยจำกัดผู้ชม


โดยข้อกำหนดนี้จะมีผลบังคับใช้วันที่ 3 สิงหาคม 2564 และจะมีการประเมิน 2 สัปดาห์ ในวันที่ 18 สิงหาคม จะมีการพิจารณาหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น น่าเป็นห่วงอาจจะมีการพิจารณา ยืดถึงวันที่ 31 สิงหาคม


อย่างไรก็ตามที่ประชุมเน้นย้ำความเป็นห่วงประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่อาจจะได้รับความไม่สะดวกสบาย ขอให้ทุกฝ่าย ทุกภาคส่วน ทั้งประชาชนและสื่อมวลชนร่วมมือกัน และรายละเอียดนี้จะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาในคืนนี้


นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้พูดคุยถึงมาตรการป้องกันควบคุมโรค โควิด-19 ในสถานประกอบกิจการ ได้แก่โรงงาน แคมป์แรงงาน และบริษัท โดยมีการลงรายละเอียดในมาตรการบับเบิ้ลแอนด์ซิล คือมาตรการควบคุมโรคเฉพาะพื้นที่ โดยเน้นย้ำ 16 จังหวัดที่เป็นพื้นที่สีแดงเข้ม ซึ่งกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขได้มีการรายงานอย่างต่อเนื่องถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดที่จำกัดวงอยู่ในโรงงานขนาดกลางและขนาดใหญ่ โดยมีบุคลากรอยู่ในนั้นเกิน 500 คน


การกำหนดดังกล่าวนี้เพื่อให้มีการพิจารณาควบคุมโรค ซึ่งเน้นย้ำว่าไม่ใช่เฉพาะพื้นที่หรือโรงงานหรือแคมป์คนงานที่มีการแพร่ระบาดเท่านั้น จะครอบคลุมบริษัท แคมป์คนงาน โรงงาน ทั้งที่ยังไม่มีการรายงานผู้ติดเชื้อหรือการระบาดเช่นกัน


โดยหลักการบับเบิ้ลแอนซิล ซึ่งกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขได้มีการออกข้อปฏิบัติเป็นคู่มือขอให้ทุกจังหวัดได้ศึกษาในรายละเอียด โดยจะเน้นย้ำการ “จัดกลุ่ม คุมไว ลดแพร่กระจายและรายได้ไม่สูญเสีย” ซึ่งมาตรการก่อนที่จะมีการประกาศ ได้มีการหารือทุกภาคส่วนทั้งกระทรวงสาธารณสุข แรงงานอุตสาหกรรม มหาดไทย รวมทั้งหน่วยงานจังหวัด ในพื้นที่ และภาคเอกชน ทั้งผู้ประกอบการ สภาอุตสาหกรรม หอการค้าในพื้นที่ พยามปรับมาตรการให้เป็นไปได้มากที่สุดเพื่อให้การปฎิบัตินั้นเป็นผล



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/X2DgIaw-pJc

คุณอาจสนใจ

Related News