ข่าวโซเชียล

'แกร็บ' เผยอินไซต์ผู้ใช้บริการเดลิเวอรีปี 66 เมนูยอดฮิต 'ส้มตำปูปลาร้า-กาแฟ' ไอเทมสุดฮิต 'ไข่ไก่-น้ำดื่ม'

โดย panisa_p

18 ธ.ค. 2566

73 views

นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพาณิชย์และการตลาด แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า ปี 2566 ถือเป็นปีที่เห็นความเปลี่ยนแปลงในเชิงพฤติกรรมของผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มเดลิเวอรีอย่างมีนัยยะสำคัญ เริ่มเห็นผู้บริโภคมีการผสมผสานการใช้ชีวิตนอกบ้านเข้ากับพฤติกรรมการใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ทำให้ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่างปรับตัวและพัฒนาบริการเพื่อให้สามารถตอบรับกับพฤติกรรมและบริบทที่เปลี่ยนไป


“สำหรับแกร็บ ได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการพัฒนาบริการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมาได้เปิดตัวหลายฟีเจอร์ใหม่ อาทิ กินที่ร้าน (Dine-in) ที่ครอบคลุมตั้งแต่การค้นหาและรีวิวร้านอาหาร ไปจนถึงการนำเสนอดีลส่วนลดสำหรับการทานอาหารนอกบ้าน ขณะเดียวกันยังได้เน้นโปรโมตฟีเจอร์รับเองที่ร้าน (Self Pick-up) ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มคนทำงานออฟฟิศ ทั้งนี้มียอดการสั่งซื้อของทั้งสองบริการเติบโตขึ้นกว่า 23 เท่า สะท้อนถึงบทบาทของซูเปอร์แอพที่มีการพัฒนาและเป็นมากกว่าผู้ให้บริการจัดส่งอาหารหรือสินค้าเท่านั้น”


นางสาวจันต์สุดา กล่าวว่า แกร็บได้จัดทำรายงาน “เทรนด์การสั่งอาหารและของใช้ในบ้าน ปี 2566” เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้บริการเดลิเวอรี ทั้งการสั่งอาหารและการซื้อสินค้าในชีวิตประจำวัน พร้อมสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้บริการแกร็บใน 6 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทย โดยพบเทรนด์ที่สำคัญในประเทศไทย คือ เทรนด์ออมนิคอมเมิร์ซ (Omnicommerce) มาแรง: ผู้บริโภคมีการใช้แอพพลิเคชันสั่งอาหารเพื่อเชื่อมต่อกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย


ซึ่งสะท้อนผ่าน 2 ฟีเจอร์ที่มาแรง นั่นคือ รับเองที่ร้าน (Self Pick-up) และ กินที่ร้าน (Dine-in) โดยมียอดสั่งซื้อจากทั้งสองฟีเจอร์ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 เติบโตขึ้นกว่า 23 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 ขณะที่ฟีเจอร์รับเองที่ร้านมียอดใช้บริการในไตรมาส 2 ของปีนี้เพิ่มขึ้นกว่า 140% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ 5 โอกาสที่ผู้ใช้บริการนิยมไปทานอาหารนอกบ้าน คือเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษ ทานอาหารกับครอบครัว พบปะเพื่อนฝูง ออกเดท และทานมื้อเที่ยงกับเพื่อนร่วมงาน


การสั่งอาหารแบบกลุ่ม (Group Order) ครองใจหนุ่มสาวออฟฟิศ: อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันในปีที่ผ่านมาคือการสั่งอาหารแบบกลุ่ม โดยเฉพาะในกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่มักใช้ฟีเจอร์นี้สั่งอาหารกลางวันมาทานร่วมกันในที่ทำงาน โดยในปีนี้มียอดการใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 1.8 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และผู้ใช้บริการมียอดใช้จ่ายต่อออเดอร์เพิ่มขึ้นถึง 2.2 เท่า


แอพพลิเคชันสั่งอาหารกลายเป็นช่องทางสำคัญในการค้นหา (Search): จากผลสำรวจผู้ใช้บริการพบว่า แอพพลิเคชันสั่งอาหารถือเป็นช่องทางที่คนไทยนิยมใช้ในการค้นหาร้านอาหารมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง (71%) สูงกว่าช่องทางโซเชียลมีเดียหรือแม้แต่เว็บไซต์เสิร์ชเอ็นจิน ขณะที่ 95% ของผู้ใช้บริการแกร็บเลือกค้นหาร้านอาหารหรือร้านค้าใหม่ๆ เพื่อทดลองใช้บริการผ่านเมนูเสิร์ชบนแอปพลิเคชัน Grab


เรตติ้งและรีวิว (Rating & Review) มีอิทธิพลต่อการลองร้านใหม่: การได้รับคะแนนเรตติ้งที่ดีและมีรีวิวในเชิงบวกมีส่วนช่วยกระตุ้นยอดขายผ่านช่องทางเดลิเวอรีให้กับร้านอาหารเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันเรตติ้งและรีวิวกลายเป็นหนึ่งในสามปัจจัยหลักที่คนไทยใช้ประกอบการตัดสินใจเมื่อต้องการลองสั่งอาหารจากร้านที่ไม่เคยสั่งมาก่อน เพราะช่วยการันตีความนิยมและสร้างความมั่นใจในด้านรสชาติอาหารและบริการของร้านนั้นๆ


แพ็กเกจสมาชิก (Subscription Package) ยังคงได้รับความนิยมและเติบโตต่อเนื่อง: ปัจจุบันผู้ใช้บริการแอปพลิเคชันหันมาสมัครแพ็กเกจสมาชิกเพิ่มมากขึ้นเพื่อรับส่วนลดและสิทธิประโยชน์ที่มากกว่า โดยเฉพาะในกลุ่ม Heavy User หรือผู้ที่มียอดใช้จ่ายสูง โดยผู้ใช้แพ็กเกจสมาชิก GrabUnlimited มียอดใช้จ่ายต่อเดือนเพิ่มขึ้นกว่าปกติถึง 2.6 เท่า และมีความถี่ในการใช้บริการต่อเดือนเพิ่มขึ้นถึง 2.1 เท่า


ผู้บริโภคยุคใหม่ใส่ใจรักษ์โลก (Environmentally conscious): คนไทยกว่า 36% ยินดีที่จะจ่ายราคาที่สูงขึ้นเพื่อสนับสนุนแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม ขณะที่กว่า 97% มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนแบรนด์ที่มีนโยบายการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับผู้ใช้บริการแกร็บที่เข้าร่วมกิจกรรมชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset) เพิ่มมากขึ้น 1.7 เท่า ผ่านการบริจาคเงิน 1 บาทในทุกการสั่งอาหารหรือสินค้าเพื่อนำไปใช้ปลูกต้นไม้


นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการสั่งอาหารและการสั่งซื้อสินค้าในชีวิตประจำวันของผู้ใช้บริการในประเทศไทยตลอดทั้งปีที่ผ่านมา โดยพบว่าพฤติกรรมการสั่งอาหารผ่าน GrabFood เมนูที่นิยมสั่งมากที่สุดตลอดทั้งปี คือ ส้มตำปูปลาร้า เป็นเมนูฮิตแห่งปี มีออเดอร์รวมสูงถึงกว่า 4.4 ล้านจาน ตามด้วย กาแฟ โดยเฉพาะกาแฟดำ มียอดสั่งรวมทั้งสิ้นมากกว่า 4.6 ล้านแก้ว ส่วนอาหารวีแกนเป็นเมนูที่มาแรงที่สุด มีออเดอร์เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่วนเมนูท้องถิ่นยอดนิยมแต่ละภาค ได้แก่ ภาคเหนือ คือขนมจีนน้ำเงี้ยว ข้าวซอยไก่ ไส้อั่ว ภาคกลาง คือกาแฟเย็น คอหมูย่าง ข้าวมันไก่ ภาคอีสาน จะเป็นส้มตำปูปลาร้า ลาบหมู คอหมูย่าง และภาคใต้ ได้แก่ ชาชัก ข้าวหมกไก่ ไก่ทอด


สำหรับเทศกาลช่วงปีใหม่ มี 5 เมนูขายดี คือ พิซซ่า หมาล่า ไก่ทอด แซนวิช และเบอร์เกอร์ ขณะที่พฤติกรรมการสั่งซื้อสินค้าในชีวิตประจำวันผ่าน GrabMart 5 สินค้ายอดนิยมที่ผู้ใช้บริการสั่งตลอดทั้งปี คือ ไข่ไก่ น้ำดื่ม ผักสด นม และน้ำแข็ง ขณะที่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ถือเป็นสินค้าที่มาแรงที่สุด มีออเดอร์เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และสินค้าขายดีในช่วงปีใหม่ 5 รายการ ได้แก่ กระเช้ารังนก ดอกไม้ เซ็ตผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและเครื่องสำอาง ไอศกรีม และ ขนมขบเคี้ยว


แท็กที่เกี่ยวข้อง  แกร็บ ,Grab ,grabfood ,เดลิเวอรี่

คุณอาจสนใจ

Related News