ประจวบคีรีขันธ์-มีกรณีการเสียชีวิตของปลัดอำเภอหญิง น.ส.วรรณี คงทอง อายุ 57 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี ปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียน ที่ว่าการอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเวลา 06.35 น.หลังเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ได้ไม่นานนั้น

สำหรับปลัดอำเภอหญิงท่านนั้นมีประวัติป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง และเคยป่วยติดเชื้อโควิด-19 จากเพื่อนร่วมงาน ตรวจพบเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 14 เมษายน และเข้ารับการรักษาโควิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา โดยอยู่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ถึงวันที่ 18 เมษายน ไม่ปรากฏอาการป่วยใดๆ ทั้งไม่มีไข้ ไม่มีไอ จึงได้ย้ายไปรักษาต่อที่โรงแรมประจวบสามอ่าวหรือ hospitel จนถึงวันที่ 30 เมษายน

จากนั้นหายป่วยกลับบ้าน โดยไม่มีอาการ ต่อมาวันที่ 27 พฤษภาคม พบว่าผู้ป่วยมีอาการแน่นหน้าอก มีไข้ แต่ไม่มีอาการไอหรือเสมหะ จึงมาตรวจที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เมื่อมาถึงเหนื่อยหอบมากขึ้นจึงใส่ท่อช่วยหายใจ เจ้าหน้าที่ได้ใช้ตัวดูดเสมหะดูดตัวอย่างส่งตรวจ แต่ตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 จึงเข้ารับการรักษาที่ตึกอายุรกรรม

เมื่อเอ็กซเรย์พบปอดได้รับความเสียหายจากอาการปอดอักเสบรุนแรง และทำการตรวจหาเชื้อซ้ำเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา แต่ไม่พบเชื้อโควิด-19 จึงได้นำไปตรวจหาเชื้อไวรัสอื่นๆอีก 33 ตัว ที่โรงพยาบาลบําราศนราดูร ไม่พบเชื้อไวรัสอื่นใด จึงได้นำเลือดไปเพาะเชื้อ พบแบคทีเรียในกระแสเลือด

ผลการตรวจพบว่า ปอดอักเสบทั้งปอดแทบ ไม่มีส่วนที่ดีในการทำงาน และติดเชื้อในกระแสโลหิตอีก อาการรุกรามไปถึงตับ ที่เริ่มวาย ไตเริ่มวาย นำไปสู่การฟอกเลือดที่ห้องไอซียูติดต่อกัน 3 วัน โดยมีการคุยกับญาติทุกวัน ซึ่งญาติรับได้กับการรักษาและอาการที่พบมากขึ้น กระทั่งท่านปลัดหญิงเสียชีวิตอย่างสงบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาดังกล่าว

สำหรับการทำพิธีทางศาสนานั้นสามารถดำเนินการได้ตามปกติ เนื่องจากตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 แล้ว แม้จะเคยตรวจพบเชื้อมาก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ทางแพทย์กำลังปรึกษาญาติ ว่า จะนำร่างท่านปลัดหญิงไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ซึ่งมีความกังวลว่าการเสียชีวิตนั้นเกิดจากผลข้างเคียงของโควิด-19 หรือไม่ แต่โดยหลักการหากเป็นผลข้างเคียงจากโควิดส่วนใหญ่จะมีอาการบ่งชี้ให้เห็น เช่น มีอาการไอ มีไข้ ฯลฯ

การผ่าพิสูจน์จะเป็นการตรวจอาการอักเสบว่ามีส่วนใดเข้าได้กับอาการของโควิด-19 หรือไม่ เพื่อหาข้อสรุปที่แท้จริง หรืออาจจะเจาะชิ้นเนื้อที่ปอดไปตรวจดูก็สามารถทำได้ แต่การผ่าร่างเพื่อตรวจจะได้ข้อมูลละเอียดที่สุด แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของญาติด้วย

อย่างไรก็ตามยอมรับว่าสำหรับเคสของท่านปลัดอำเภอหญิงรายนี้ เป็นเคสแรกของจังหวัดที่เรายังไม่เคยเจอมาก่อน เป็นกรณีศึกษาที่จะต้องพยายามตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/gbWjBh0_ob4