สธ.เผยแอสตราเซเนกาแบ่งมากกว่า 10 คนต่อขวดได้ อย.ย้ำ ฉีดวัคซีนต้อง 0.5 มิลลิลิตร ถึงเกิดประสิทธิภาพ

สังคม

สธ.เผยแอสตราเซเนกาแบ่งมากกว่า 10 คนต่อขวดได้ อย.ย้ำ ฉีดวัคซีนต้อง 0.5 มิลลิลิตร ถึงเกิดประสิทธิภาพ

22 พ.ค. 2564

1.8K views

ประเด็นประหยัดวัคซีนตามอธิบดีกรมควบคุมโรค คือ เป็นเทคนิคที่ใช้ไซริงค์แบบพิเศษ low dead space syringe เป็นไซริงค์ปกติ จะมีส่วนที่เราเสียปริมาตรของยาที่ฉีดไปบางส่วนกับช่วงคอขอไซริงค์ แต่ถ้าเป็นไซริงค์แบบพิเศษ จะดันเอาของยาตรงกระเปาะนั้นออกไปได้ ทำให้ใช้ยาหรือวัคซีนนั้นได้มากขึ้น ไม่มีการสูญเสียยาไปจากพื้นที่ตรงนั้น


นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่มีข้อกังวลเกี่ยวกับปริมาณวัคซีนแอสตราเซนเนกาที่ฉีดแต่ละครั้งว่า จะไม่ครบปริมาณตามที่กำหนดไว้นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอชี้แจงว่า ปริมาณการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าต่อครั้งต้อง 0.5 มิลลิลิตร การผลิตวัคซีนที่มีการบรรจุใน 1 ขวดแบบมีหลายโดสนั้น ปริมาณวัคซีนที่บรรจุในขวดจะบรรจุเกินจากที่ฉลากกำหนด เพื่อป้องกันการสูญเสียวัคซีนไปจากการดูดวัคซีนจากขวดในแต่ละครั้ง


กรณีวัคซีนแอสตราเซนเนกาได้ขึ้นทะเบียนกับ อย. ไว้ คือ 10 โดส โดยระบุบนฉลาก 5 มิลลิลิตรต่อขวด และบริษัทผู้ผลิตได้บรรจุวัคซีนไว้จริงที่ 6.5 มิลลิลิตร โดยเป็นมาตรฐานเดียวกันในทุกสถานที่ผลิตของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ที่ได้แจ้งไว้กับ อย. ดังนั้น สิ่งสำคัญอยู่ที่ปริมาณการฉีดต้องเป็นไปตามปริมาณที่กำหนด คือ ครั้งละ 0.5 มิลลิลิตร เพื่อให้ได้ระดับวัคซีนตามมาตรฐานและเกิดประสิทธิภาพ หากมีวัคซีนที่เหลืออยู่ในขวดจากการบรรจุเกินนี้ องค์การอนามัยโลกให้การยอมรับว่าสามารถนำไปใช้ได้ และ อย. ไม่ได้มีข้อห้ามแต่อย่างใด ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำว่าไม่ควรนำวัคซีนที่เหลือในแต่ละขวดมารวมกันแล้วใช้


นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่มีข้อกังวลเกี่ยวกับปริมาณวัคซีนแอสตร้าเซนเนกาที่ฉีดแต่ละครั้งว่า จะไม่ครบปริมาณตามที่กำหนดไว้นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอชี้แจงว่า ปริมาณการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าต่อครั้งต้อง 0.5 มิลลิลิตร การผลิตวัคซีนที่มีการบรรจุใน 1 ขวดแบบมีหลายโดสนั้น ปริมาณวัคซีนที่บรรจุในขวดจะบรรจุเกินจากที่ฉลากกำหนด เพื่อป้องกันการสูญเสียวัคซีนไปจากการดูดวัคซีนจากขวดในแต่ละครั้ง


ซึ่งหลายๆ ประเทศ เช่น เกาหลีใต้ ก็มีการแนะนำให้ใช้ไซริงค์ชนิดนี้ เพื่อให้การฉีดวัคซีนมีประสิทธิภาพมากขึ้นและฉีดจำนวนโดสได้มากขึ้น ซึ่งของทางเกาหลีใต้ก็คาดการณ์ว่าหากใช้วิธีการนี้จะเพิ่มโดสไปได้ถึง 12 โดสต่อขวด


เมื่อวันที่ 28 ก.พ.64 สาธารณสุขเกาหลีใต้ออกแนวทางใหม่ให้ศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทั่วประเทศใช้กระบอกฉีดที่มียาคงค้างในกระบอกน้อย เป็นการใช้วัคซีนอย่างคุ้มค่าที่สุด เพื่อเพิ่มจำนวนผู้รับการฉีดให้มากขึ้น


เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีหรือเคดีซีเอ (KDCA) แถลงวานนี้หลังจากเริ่มโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ระดับประเทศได้หนึ่งวันว่า หลอดฉีดที่มียาคงค้างในกระบอกน้อย (Low Dead Space syringe) หรือแอลดีเอส (LDS) ออกแบบมาให้ลดการสูญเสียวัคซีนให้น้อยที่สุดด้วยการลดช่องว่างระหว่างเข็มกับก้านฉีด เดิมคาดกันว่า หากใช้กระบอกฉีดทั่วไป วัคซีนของแอสตราเซนเนกาและของไฟเซอร์แต่ละขวดจะสามารถฉีดได้ 10 คน และ 6 คนตามลำดับ เคดีซีเอคาดว่า หากใช้กระบอกแอลดีเอสจะฉีดเพิ่มได้สูงสุด 12 คน และ 7 คนตามลำดับ อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความชำนาญของบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นผู้ฉีดด้วย


อาจารย์ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวามองว่า วิธีนี้อาจเพิ่มจำนวนผู้รับการฉีดวัคซีนในขณะนี้ได้ไม่กี่พันคน แต่ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นมากทันทีที่เกาหลีใต้ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์เพิ่มเติม ยอนฮับรายงานว่า เกาหลีใต้สั่งซื้อวัคซีนมากพอสำหรับฉีดไห้ได้ทั้งหมด 79 ล้านคน มากกว่าจำนวนประชากรที่มี 52 ล้านคน เกาหลีใต้ตั้งเป้าว่าจะเกิดภูมิต้านทานหมู่ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้


ขณะที่วานนี้ (21 พ.ค.) เพจ Drama-addict ได้แชร์โพสต์จากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Assadang Polnok ผศ.ดร.ภก. อัษฎางค์ พลนอก ซึ่งเป็นอาจารย์ภาควิชาเทคโนโลยีเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ในโพสต์อาจารย์ระบุว่า “ก่อนอ่านเรื่องนี้ วางความชอบทางการเมืองลงก่อนและมันจะเป็นคำพูดทางวิชาการนิดๆ นะครับ


พอดีผมสอนในหัวข้อ #การควบคุมคุณภาพยาฉีด หรือสั้นๆ Quality Control ก็ QC นั่นแหล่ะ แต่เน้นไปที่ Physical กายภาพ กับชีวภาพ Biological control ทาง Chemical control เคมีเราไม่เน้น เพราะคิดว่าเรียนกับวิชาอื่นแล้ว ในการควบคุมคุณภาพทางกายภาพ (Physical) ปริมาณการบรรจุยาฉีดลงใน vial หรือ ampule เป็นสิ่งที่ต้องกำหนดไว้ครับ (ไม่ได้บรรจุตามใจชอบได้)


ในเภสัชตำรับ USP41 NF36 ปี 2018 ที่มีในห้องสมุด คณะเภสัชศาสตร์ (เล่มล่าสุดละครับ มันแพง ไม่ได้ซื้อทุกปี) ระบุเรื่องนี้ ในหน้า 7436 ช่วง General Information Chapter <1511> Pharmaceutical Dosage Forms ผมแคปหน้าจอคอม และถ่ายรูปจากหนังสือไว้ให้ด้วยครับ


สรุปง่ายๆ ก็คือ ถ้าขนาด 5 ml จะบรรจุ 5.3 ml สำหรับพวกที่ไหลง่ายๆ ถ้าน้ำยาเหนียวหนืดหน่อย ใส่ได้ถึง 5.5 ml หลักคิดสำหรับ single dose หรือ ใช้ครั้งเดียว ที่นี้ สมมุติว่าเป็น multiple dose บ้างนะครับ บรรจุ 0.5 ml ต่อครั้ง ให้สุดๆ เลย เป็น 0.5 + 0.12 ml ก็จะได้ที่ 0.62 ml คูณ สิบโดส ก็ 6.20 ml นะครับ


ทีนี้ เรามาดู syringe หรือกระบอกฉีดยาบ้าง เวลาประกอบ เข็ม Needle กับกระบอกฉีดยา มันจะมีส่วนที่ #ตกค้าง อยู่ในเข็มกับกระบอก เพราะเราไม่สามารถฉีดออกทั้งหมดได้ ภาษาปาก เรียก #Void #Volume ภาษาทางการเรียก #Dead_Space ครับ”


ชมผ่านยูทูบที่ : https://youtu.be/XxMs2tUvyh4

แท็กที่เกี่ยวข้อง  วัคซีนแอสตราเซเนกา ,ไซริงค์

คุณอาจสนใจ

Related News