ตำรวจเร่งตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตของ พริตตี้ อายุ 33 ปี หลังรับงานเอนเตอร์เทน ที่บ้านหลังหนึ่ง ย่านซอยเสนานิคม แต่เกิดอาการช็อคหมดสติ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เพื่อนสนิทที่คบหากับผู้ตายยืนยันว่า ผู้ตายไม่เสพยาเสพติด โดยวันที่ 27 ก.พ. ผู้ว่าจ้างพริตตี้ไปร่วมงานปาร์ตี้ได้เข้าให้ปากคำแล้ว

ซึ่งตำรวจจะรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าพบสารเสพติดประเภทยาอี และเคตามีน ซึ่งเป็นเหตุให้เสียชีวิตหรือไม่ ส่วนศพของพริตตี้ ญาติจะยังไม่ฌาปนกิจ จนกว่าคดีจะคลี่คลาย 

ภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นหญิงสาวลงจากรถแท็กซี่และมาสอบถามหาบ้านหลังหนึ่ง จากบ้านใกล้เคียง ซึ่งหญิงสาวคนดังกล่าวคาดว่าเป็น น.ส.วิชญาพร หรือ วาวา พริตตี้พีอาร์ ทำให้เชื่อได้ว่าการสอบถามหาบ้านหลังเกิดเหตุ วาวาไม่เคยมาบ้านหลังนี้ มาก่อน 

น.ส.วิชญาพร หมดสติในบ้านหลังนี้ จากการสอบสวนพยานพบว่า เธอรับงานเอนเตอร์เทน ในช่วงเวลา 23 นาฬิกา จนถึง 5 นาฬิกา กระทั่งเวลา 6.28 นาฬิกา ของวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พบชาย 2 คน ปรากฏตามภาพกล้องวงจรปิด ได้ขับรถเก๋ง พา น.ส.วิชญาพร หรือ วาวา ไปส่งที่ รพ.เปาโลเกษตร ซึ่งตำรวจระบุว่าชาย 2 คนที่ขับรถไปส่ง น.ส.วิชญาพรไปโรงพยาบาล คือเจ้าของบ้าน และเพื่อนเจ้าของบ้าน 

กระทั่งเวลา 7 นาฬิกา นายเก่งได้มาจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาล และเวลาประมาณ 8.45 นาฬิกา น.ส.วิชญาพรเสียชีวิต โดยแพทย์ระบุว่าเกิดจากระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว และหัวใจวายเฉียบพลัน ปริศนาว่า น.ส.วิชญาพร เสียชีวิตจากการเสพยาอีและเคตามีน ร่วมกับดื่มเครืองดื่มมึนเมา หรือไม่ ยังต้องรอผลตรวจสารพิษภายในร่างกายของแพทย์นิติเวชยืนยันอีกครั้ง

ขณะที่ข้อความของนายเก่ง ที่ส่งถึง น.ส.วิชญาพร หรือวาวา ตำรวจยืนยันว่านายเก่งยอมรับว่าเป็นข้อความที่ส่งจากนายเก่งจริง โดยนายเก่งเป็นเพื่อนกับเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งเป็นคนจังหวัดชุมพร บ้านเดียวกันมาร่วม 10 ปีแล้ว ปกติบ้านหลังดังกล่าวจะไม่มีผู้อยู่อาศัยประจำ 

โดยในคืนเกิดเหตุ จะมีผู้อยู่ในงานทั้งหมด 18 คน มีผู้ชาย 7 คน มีพริตตี้มาเอนเตอร์เทน ทั้งหมด 8 คน จาก 2 โมเดลลิ่ง ผู้หญิงอีก 3 คน เป็นกลุ่มแฟนของคนในงาน โดยตำรวจติดต่อทุกคนได้หมดแล้ว และเตรียมเรียกมาให้ปากคำ ส่วนจากข้อความที่ระบุว่ามีขนมภายในงานจะเป็นยาเสพติดหรือไม่ จะยึดผลทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นหลัก 

โดยเบื้องต้นแฟนของวาวา ยืนยันว่า น.ส.วาวา ไม่เสพยา แต่อาจจะดื่มแอลกอฮอล์ได้มากด้วยลักษณะงานกลางคืน หากพบสารเสพติดจริง คงต้องมีผู้อื่นกระทำ เช่นเดียวกับเพื่อนนายเก่ง ที่ระบุว่านายเก่งได้หย่าร้างกับภรรยามาระยะหนึ่งแล้ว จึงกลายเป็นคนเจ้าสำราญ แต่ก็ไม่เคยเห็นเสพยา 

ซึ่งวันนี้ตำรวจได้สอบสวน นายเก่ง อายุ 42 ปี ผู้ว่าจ้างพริตตี้ เป็นเวลานานกว่า 7 ชั่วโมง โดยนายเก่งให้ความร่วมมือ และสอบในฐานะพยาน โดยก่อนหน้านี้ได้สอบพริตตี้ที่ร่วมงานไปแล้ว 3 คน โมเดลลิ่ง 1 คน ญาติผู้เสียชีวิต 2 คน ซึ่งการสอบสวนจะเน้นหาสาเหตุการตาย และที่มาของยาเสพติดเป็นหลัก