เลือกตั้งและการเมือง

จับพิรุธ 'หมอเกศ' โทรทิพย์หนีนักข่าว 'ทนายเดชา' สงสารกลัวจนลนลาน วอนชาวเน็ตหยุดด่า เขารับกรรมมากแล้ว

โดย thichaphat_d

20 ก.ค. 2567

223 views

‘หมอเกศ’ ย่องเงียบโผล่สภาฯ นิ่งใส่ทุกคำถาม จับสังเกต ทำทีรับสายโทรศัพท์ แต่หน้าจอไม่มีคนโทร

วานนี้ 19 ก.ค. 67 ความเคลื่อนไหวของ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือหมอเกศ สมาชิกวุฒิสภา ปรากฎได้ประเด็นใหม่ขึ้นมา เพราะพอเจอนักข่าวหมอเกศไม่ได้ให้สัมภาษณ์ ทำท่าทางยุ่งๆคุยโทรศัพท์ ตลอดเวลา แต่หลายคนสงสัยว่าโทรทิพย์หรือเปล่า

โดยที่อาคารรัฐสภา นักข่าวที่สภา บังเอิญไปเจอหมอเกศ ที่ห้องอาหาร ฝั่งสภาผู้แทนราษฎร พอดี ไม่ยืนยันว่าไปฝั่ง สส.ทำไม ทั้งที่ตัวเองเป็น สว.นักข่าว ก็เลยเข้าไปสอบถามถึงกรณีที่ แพทยสภากำลังดำเนินการ

ตามรายงานนักข่าวที่ไปเจอคนแรก บอกว่า เจอ สว.หมอเกศ คุยโทรศัพท์อยู่ก่อน ก็เลยรอจนคุยเสร็จ จากนั้นเธอวางสาย นักข่าวก็พยายามถามว่ามาทำไม หมอเกศไม่ตอบ ได้แต่ยิ้ม จากนั้นมีนักข่าว ถามมาที่ห้องอาหารเพิ่มขึ้น ทางผู้หญิงชุดดำที่มาด้วย คาดว่าจะเป็นทีมงาน ก็ส่งโทรศัพท์ให้ หมอเกศอีกครั้ง บอกว่า ผู้ใหญ่โทรมา

ทางทีมงานที่มาด้วยก็รีบเก็บข้าวของเอกสารต่างๆ นักข่าวก็พยายามถามว่า มายื่นเอกสารเพิ่มหรือเปล่า หมอเกศไม่ตอบ ติดสายคุยโทรศัพท์ แต่ก็มีคนช่างสังเกต ว่าทำไมคุยโทรศัพท์ แต่หน้าจอเป็นหน้าแอปพลิเคชั่น ไม่ขึ้นเป็นหมายเลขโทรศัพท์ หรือเวลา ที่กำลังพูดคุย เลยเป็นที่มาของคำถามว่า คุยทิพย์หรือเปล่า

ซึ่งหลายคนก็มีการทดลองว่า อาจเป็นไปได้ ที่หมอเกศอาจจะเลื่อนหน้าจอไป จากหน้าคุยโทรศัพท์ ไปเป็นหน้าแอปพลิเคชั่น ขณะโทร ซึ่งก็ทำได้จริง แต่บางคนก็บอกว่า ถ้าคุยสายอยู่ หรือแนบโทรศัพท์อยู่ ต่อให้เลื่อนไปหน้าแอปพลิเคชันหน้าจอก็จะดับ

แต่ประเด็นที่นักข่าวอยากรู้คือ จะมีความเห็นหรือจะชี้แจงก็กรณีระบุว่าเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม อย่างไร ซึ่งนักข่าวพยายามถาม หลายครั้งแต่เจ้าตัวไม่ตอบ รีบเดินออกจากห้องอาหารไป ทันที นักข่าวก็เดินไปถามไป เธอก็รับสาย คุยโทรศัพท์ อีกรอบ ทีมงานที่มาด้วยก็จับมือ ลากจูงหมอเกศออกไป กึ่งวิ่งกึ่งเดิน

พอหมอเกศวางสาย ผู้หญิงทีมงานที่มาด้วย ก็บอกว่า คุณหมอโทรหาผู้ใหญ่ไว้ก่อน แล้วก็เข้าไปกระซิบอีกว่า โทรศัพท์ไว้เลย ทางหมอเกศก็ยิ้ม อึ้งๆกับบรรยากาศ ชุลมุน ที่สื่อพยายามขอสัมภาษณ์ แต่หมอเกศไม่ได้ทำตามที่ทีมงานบอก ที่ว่าให้ โทรศัพท์ไว้ก่อน

คราวนี้ ทีมงานผู้หญิงพูดอีกครั้ง แล้วชี้นิ้วบอกให้คุณหมอรับโทรศัพท์หน่อยคะ ผู้ใหญ่โทรมา หมอเกศก้มดูโทรศัพท์ (น่าจะไม่มีสายเข้า) เธอเลยไม่ทำตาม สุดท้ายแล้วเดินไป แต่ไม่รู้จะไปทางไหน ทีมงานหมอเกศ จะพาออกจากอาคารไปข้างนอกบอกจะข้ามไปอีกฝั่ง แต่ตำรวจสภา ที่ตามประกบหมอเกศ พาไปขึ้นลิฟท์แทน

สุดท้ายได้คำตอบ ระหว่างขึ้นลิฟท์ ก็มีนายณัฐวัชร จันทโรธรณ์ อาจารย์ หลักสูตร ป.โท ม.เกริก และเป็นที่ปรึกษาของหมอเกศ เดินเข้าลิฟท์มาบอกว่า หมอเกศมาหาผมเอง

นักข่าวเลยถามมาพบเรื่องอะไร อาจารย์บอกว่า มาคุยส่วนตัว เข้าใจว่าอาจารย์ท่านนี้มีตำแหน่ง มาทำหน้าที่อยู่ที่สภา ฝั่ง สส. หมอเกศเลยมาพบ

---------------------------------

ทนายเดชา เผยหลัง สว.หมอเกศ ประกาศปิดวาจา แม้ว่าเจ้าตัวท้อแต่ยังสู้ เล่ากรณีทำทีคุยโทรศัพท์หวังเอาชีวิตรอด เห็นข่าวแล้วสงสารมาก เหตุกลัวจนลนลาน ก่อนยกมือไหว้ วอน ปชช.หยุดด่า ลั่นเขารับกรรมมาเยอะแล้ว ให้ กกต.-แพทยสภา-ศาลเป็นตัวตัดสิน

วานนี้ (19 ก.ค.67) นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ในฐานะทนายความของ สว.หมอเกศ หรือ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ภายหลังทราบว่า สว.หมอเกศ ประกาศปิดวาจา ว่าที่ประกาศปิดวาจาน่าจะเกิดจากสถานการณ์ทัวร์ลง และเครียด เพราะเรื่องราวเยอะมาก ทั้งเรื่องวุฒิการศึกษาของมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมทั้งเรื่องแพทยสภา ส่วนตัวในฐานะทนายความรู้สึกเห็นใจลูกความมาก สงสารเธอมาก คงเครียดและรับไม่ไหว คงไม่คิดว่าการสอบได้ที่หนึ่ง ของ สว. จะเป็นทุกขลาภขนาดนี้

โดยเมื่อวันที่ 18 ก.ค.67 ได้มีโอกาสพูดคุยกัน เธอบอกว่าอยากหยุดตอบโต้ อยากหยุดให้สัมภาษณ์ และช่วยบอกสื่อฯว่าเขาไม่มีอะไรที่จะพูดแล้ว แต่ไม่ถึงขึ้นหมดกำลังใจจนถอยจากตำแหน่ง สว. แต่เห็นได้ชัดคือเครียด แม้บางครั้งท้อ แต่ก็ยังสู้อยู่ ไม่คิดว่าต้องพ้นจากความเป็น สว. “น้องเกศ ก็ยังคิดว่าตัวเองเองไม่ได้ทำอะไรผิด ความเชื่อเขายังเป็นแบบนั้นอยู่” ส่วนตัวก็ได้ให้กำลังใจไปเช่นกัน ให้เข้มแข็งไว้

ทนายเดชา ยังกล่าวว่า เมื่อวานนี้ (19 ก.ค.67) ตนได้ดูข่าวหมอเกศไปสภาฯ ก็รู้สึกสงสาร “แกกลัวจนลนลาน ถึงขนาดเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพูดเหมือนโทรศัพท์เพื่อจะเอาชีวิตรอด เหมือนผู้ประสบภัย ทั้งๆที่ก็ไม่ได้คุยกับใคร ส่วนตัวรู้สึกสงสาร แต่คนอื่นอาจจะโจมตีก็ว่ากันไป”

ทนายเดชา กล่าวต่อว่า ส่วนตัวเองก็เคยพยายามขอถอนตัวจากการเป็นทนายความของ สว.หมอเกศ เช่นกัน แต่หมอเกศ ให้อยู่ช่วยกันก่อนอย่าเพิ่งทิ้งกัน รอให้มีคนมารับไม้ต่อก่อน แล้วค่อยไป

ทนายเดชา ยังกล่าวอีกว่า กรณีหมอเกศ มองว่าเป็นลูกความที่มีปัญหาค่อนข้างเยอะ จบเรื่องแพทย์ ก็ไปเกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ตนก็ถามว่าทำไมเกี่ยวข้องเยอะจัง หมอเกศก็บอกว่าเป็นคนชอบเรียน ชอบศึกษาหาความรู้ ทั้งหมดนี้ดรามาเยอะมาก ตั้งแต่มีลูกความมาก็ไม่เคยมีใครดรามาขนาดนี้

ส่วนกรณีที่ มีคุ้มครองให้แพทยสภาตรวจสอบเรื่องการระบุในใบกรอกประวัติ สว.ว่า เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงาม ประเด็นนี้ก็ว่ากันไป แต่หมอเกศเคยบอกตนว่า ไม่เคยทำอะไรที่ผิดกฎหมายและยังไม่มีการปรึกษาเรื่องนี้

ทนายเดชา กล่าวว่า ทั้งหมดทั้งมวลนี้ หมอเกศต้องไปเอาตัวรอดให้ได้ ถ้าเอาตัวไม่รอดก็ต้องติดคุก แล้วพ้นจากความเป็น สว. แต่หากสามารถชี้แจงได้ก็รอด ทั้งนี้ตนไม่เคยยืนยันว่าหมอถูกหรือผิด เราเป็นเพียงทนายความมีหน้าที่ให้คำปรึกษาเรื่องกฎหมาย ในภาวะที่วิกฤตทัวร์ลง ในขณะที่เธอกำลังเซ มันต้องมีคนดูแลในฐานะทนายความจนกว่าจะมีคนมารับไม้ต่อ และส่วนตัวผมก็อยากให้น้องเกศ ประสบความสำเร็จ อยากให้เอาตัวรอด แต่รอดหรือไม่ก็แล้วแต่ กกต.

เมื่อถามว่ามองจุดจบเรื่องนี้อย่างไร ทนายเดชา กล่าวว่า ส่วนตัวยังเชื่อว่าหมอเกศน่าจะเอาตัวรอดได้ เพราะหมอก็ยืนยันมาตลอดว่าไม่ได้ไปหลอกลวงใคร ไม่ได้ไปทำให้ใครสำคัญผิดในคุณสมบัติ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างหมอต้องรับผิดชอบเองเพราะเป็นชีวิตถึงแม้ว่าในวันข้างหน้าอาจไม่ได้เป็นทนายความแล้วแต่จะคงเป็นกำลังใจให้เสมอ  

ช่วงท้ายทนายเดชา ถึงประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้ว่า การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตนั้นสามารถทำได้ แต่ว่าบางครั้งเราไม่อยากให้ซ้ำเติมมากเกินไป เพราะที่ผ่านมา ตนมองว่าพี่น้องประชาชนซ้ำเติมมากไปแล้ว น่าจะพอได้แล้ว เพราะการโดนด่า โดนทัวร์ลง ก่อให้เปิดความเครียด ขนาดตนเป็นแค่ที่ปรึกษากฎหมายยังโดนทัวร์ลงเลย แต่ด่าตนได้ไม่ซีเรียส ก่อนจะยกมือไหว้ ทุกคนที่คิดจะด่าหมอเกศว่าขอให้พอเถอะ ด่ามามากพอแล้ว สงสารเขาเถอะ เขารับกรรมมามากแล้วจากการโดนด่าอะไรต่างๆ และปล่อยให้ กกต. แพทยสภาฯทำงานกันไป ร่วมทั้งให้ศาลเป็นคนตัดสินเธอดีกว่า

----------------------------

CSI LA เผยภาพ หมอเกศ ถ่ายรูปคู่คนดังระดับบิ๊ก

เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 67 CSI LA ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุว่า หมอเกศ ถ่ายรูปคู่คนดัง ซึ่งในภาพน่าจะถ่ายในช่วงของการแพร่ระบาดโควิด-19 เพราะทุกคนสวมแมสกันทุกคน ภาพแรกถ่ายรูปกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ส่วนภาพที่สองน่าจะถ่ายภาพคู่กับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ


https://youtu.be/VqfZQ3MPKGg

คุณอาจสนใจ

Related News