ส่งคืนพวงหรีด 'ทวี' จี้ถามหลักฐาน 'บุ้ง' ได้วันจันทร์กี่โมง 'พิธา' ปัดฉกฉวยผลประโยชน์ทางการเมือง

ทวี ร่วมงานศพ บุ้ง ทะลุวัง ถูกส่งคืนพวงหรีด ใบปอ จี้ถามหลักฐานบุ้งได้วันจันทร์กี่โมง - พิธา ฝาก 3 ข้อเรียกร้องบุ้ง ปัด ก้าวไกล ฉกฉวยผลประโยชน์ทางการเมือง แจงยึดหลักนิติรัฐนิติธรรม


สืบเนื่องการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร หรือ บุ้ง ทะลุวัง ผู้ต้องหาคดีทางการเมือง ซึ่งอดอาหารประท้วง หลังถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิงกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา กระทั่งมีอาการวิกฤตหัวใจหยุดเต้น จึงต้องส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี โดยแพทย์ได้ปั๊มหัวใจยื้อชีวิต แต่ไม่เป็นผล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เมื่อเวลา 11.22 น. วันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา นั้น


เมื่อวันที่ 18 พ.ค.67 ที่ศาลา 7 วัดสุทธาโภชน์ ลาดกระบัง กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการสวดพระอภิธรรมและพิธีฌาปนกิจศพ น.ส.เนติพร คืนที่ 3 ซึ่งเป็นคืนสุดท้าย เต็มไปด้วยครอบครัว ญาติ มิตรสหาย ผู้ร่วมอุดมการณ์ ของ น.ส.เนติพร ตลอดจนนักกิจกรรมและประชาชน ที่ทยอยเดินทางมาร่วมไว้อาลัยและส่งพวงหรีดอย่างล้นหลาม


โดยเวลา 16.30 น. ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นำโดย นายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือ ทนายด่าง, น.ส.กุณฑิกา นุตจรัส หรือ ทราย พร้อมด้วย น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ แบม กลุ่มทะลุวัง ญาติ มิตรและคนใกล้ชิดของ น.ส.เนติพร ร่วมแถลงข่าวกรณีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร รวมถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการที่ครอบครัวไม่ได้รับความร่วมมือในการเปิดเผยรายงานการรักษา น.ส.เนติพร เพื่อให้สังคมทราบโดยทั่วกัน โดยระบุว่า เกิดจากการใส่ท่อช่วยหายใจผิดตำแหน่ง พร้อมทั้งยืนยันว่า น.ส.เนติพร หมดลมหายใจตั้งแต่อยู่ในการรักษาของ ทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ แล้ว


ทั้งนี้ หากมีบุคคลของกระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตมาร่วมงาน ทางญาติมีความยินดีให้เข้ามาในบริเวณ แต่ขอความกรุณาไม่ขอรับเงินร่วมทำบุญจากกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม สถาบันตุลาการ และทัณฑสถานหญิงแต่ประการใด โดยให้เหตุผลว่า ไม่สะดวก


บรรยากาศเวลา 17.10 น. พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาร่วมไว้อาลัย น.ส.เนติพร โดยได้เข้าไปพูดคุยกับครอบครัว ทนายความ ญาติพี่น้อง และเพื่อน ๆ ของ น.ส.เนติพร หลังจากนั้นได้เดินออกมาบริเวณหน้าศาลา 7 เพื่อมอบพวงหรีดให้กับทางครอบครัวผู้เสียชีวิต


โดยขณะมอบพวงหรีด น.ส.ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ หรือ ใบปอ ทะลุวัง ได้เดินเข้าไปถาม พ.ต.อ.ทวี ถึงเรื่องหลักฐานและเอกสารต่าง ๆ เกี่ยวกับการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร ที่ทางครอบครัวต้องการเพื่อนำไปยื่นต่อศาลว่า จะสามารถส่งมอบให้ได้ภายในเวลาไหน ท่ามกลางเสียงโห่ของมวลชนที่มาร่วมงาน บางรายเปล่งเสียง ยกเลิก 112, ปล่อยเพื่อนเรา ปล่อยตะวัน ปล่อยนักโทษการเมือง


พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า ครอบครัวจะต้องได้หลักฐานและเอกสารแน่นอน ส่วนในรายละเอียดทางอธิบดีราชทัณฑ์เดิมบอกว่าจะได้ภายในวันศุกร์ที่ผ่านมา


"วันนี้ได้เจอท่านอธิบดีบอกว่า ฝ่ายกฎหมายบอกว่าจะให้ไปรับในเช้าวันจันทร์" พันตำรวจเอกทวี กล่าว ทั้งนี้ น.ส.ณัฐนิช หรือ ใบปอ กล่าวย้ำว่า "จะได้เอกสารเช้าวันจันทร์ กี่โมง" เมื่อถามว่า ถ้าไม่ได้เอกสาร จะทำอย่างไร ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ? พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า "ต้องได้สิ ทำไมจะไม่ได้"


หลังจากตอบคำถามเสร็จ พันตำรวจเอกทวี ได้เดินทางกลับไปที่รถตู้โตโยต้า อัลพาร์ด โดยมีญาติและเพื่อน ๆ ของผู้เสียชีวิตเดินตามไปด้วย เพื่อนำพวงหรีดที่พันตำรวจเอกทวีนำมามอบให้ผู้เสียชีวิตส่งคืนกลับไป พร้อมตะโกน ยกเลิก 112 ปล่อยเพื่อนเรา พร้อมชู 3 นิ้ว ตลอดทาง


โดยหลังจาก พันตำรวจเอกทวี ขึ้นรถ ผู้ร่วมงาน และ น.ส.อรวรรณ นำกระดาษที่มีข้อความว่า "ทวีสอดส่อง เราอยากได้ความยุติธรรม" "ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ไม่ควรมีใครติดคุกเพราะเห็นต่าง" ไปติดไว้บริเวณหน้ารถยนต์ ก่อนรถเคลื่อนออกจากวัด ในเวลา 17.26 น.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีบุคคลสำคัญเข้าร่วมฟังสวดพระอภิธรรม คืนสุดท้ายอย่างเนืองแน่น ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ร่วมเขียนข้อความถึง น.ส.เนติพร ว่า สู่สุคติครับบุ้ง เคารพในความมุ่งมั่นทรนงครับ


ทั้งนี้ เวลา 19.22 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อดีตแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล เดินทางมาถึง พร้อมร่วมเขียนข้อความว่า ขอให้ดวงวิญญาณของคุณเนติพร ไปสู่สุคติในที่ ๆ มีนิติรัฐ นิติธรรม และความเท่าเทียมกัน


และในวันนี้ (19 พ.ค.) เวลา 16.00 น. จะมีพิธีฌาปนกิจศพ น.ส.เนติพร  


ต่อมา วันที่ 19 พ.ค.67 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ทนายของ น.ส.เนติพร ระบุว่าสาเหตุของการเสียชีวิตเนื่องจากมีการใส่ท่อช่วยหายใจผิด ว่า อยากให้รอฟังความชัดเจนจากแพทย์ผู้ให้การรักษา ซึ่งพันตำรวจเอกทวี บอกว่าวันจันทร์นี้ (20 พ.ค.) จะให้ข้อมูลกับครอบครัวในเรื่องนี้ ขอให้สังคมตั้งสติและรอฟังข้อมูลจากกรมราชทัณฑ์


ส่วนกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร ที่ถูกนำไปโยงกับคดีมาตรา 112 นั้น นายพิธา กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องแยกกัน เพราะการ แก้ไขมาตรา 112 กับการปฏิรูปสถาบันก็เป็นสิ่งที่ น.ส.เนติพร เรียกร้อง แต่การที่ต้องอดอาหารเวลานาน เป็นการเรียกร้องสิทธิการประกันตัว เพราะการถูกฝากขังยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ จึงได้ตัดสินใจอดอาหารประท้วง


เมื่อถามว่า น.ส.เนติพร เคยได้รับสิทธิ์การประกันตัวแล้วแต่กระทำผิดซ้ำ ในคดีทำร้ายเจ้าหน้าที่ศาล จึงถูกถอดสิทธิ์การประกันตัวนั้น นายพิธา กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบแทนได้เพราะ น.ส.เนติพร เสียชีวิตไปแล้ว แต่ถ้าจะให้เดาเชื่อว่า น.ส.เนติพร ไม่ได้ต่อสู้เพื่อตนเองเพียงคนเดียว แต่ต่อสู้เพื่อเพื่อนและเสรีชนที่มีความคิดแบบเดียวกัน ว่าทุกคนเสมอภาคตามกฏหมาย และการขังคน 2-3 เดือน โดยที่เขาไม่มีความผิด เป็นเรื่องที่เขาติดใจและเรียกร้อง ไม่ใช่เพื่อตัวเองคนเดียวแต่เพื่อคนไทยทุกคน


ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุผลที่ สส.พรรคก้าวไกลไม่ออกมาเคลื่อนไหวในช่วงที่ น.ส.เนติพร ออกมาเรียกร้อง แต่กลับมาแสดงความเห็นในช่วงที่ น.ส.เนติพร เสียชีวิตไปแล้ว ถือเป็นการฉกฉวยหรือไม่ นายพิธา กล่าวทันทีว่า ไม่ใช่การฉกฉวยแน่นอน เพราะการเคลื่อนไหวของเยาวชนมีอิสระเป็นของตัวเอง ไม่ได้ยึดโยงพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่พรรคก้าวไกล เชื่อในหลักนิติรัฐนิติธรรม เชื่อในสิทธิ์การประกันตัว และสิทธิ์การเข้าถึงทนาย แต่ไม่ได้หมายความว่าพรรคก้าวไกลกับกลุ่มเยาวชนเห็นไปในทิศทางเดียวกันทุกเรื่อง พร้อมกล่าวว่า หากฝั่งตรงข้ามถูกฝากขังเราก็จะออกมาพูดเรื่องนี้เช่นเดียวกัน ไม่ใช่การฉกฉวยผลประโยชน์ทางการเมืองแต่อย่างใด ไม่เรื่องนั้นอยู่ในหัว เป็นการให้เกียรติครอบครัวผู้เสียชีวิตมากกว่า


นายพิธา ยังกล่าวว่า มีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1.ความโปร่งใสชัดเจนจากทางกรมราชทัณฑ์


2.ทางตำรวจและอัยการ ให้ตอบสนองนโยบายจากรัฐบาล ในการไม่เอาผิดจากผู้เห็นต่างทางการเมือง และชะลอคดีความ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลตำรวจโดยตรง ซึ่งถือเป็นต้นน้ำของการแก้ไขปัญหากระบวนการยุติธรรม


3.การนิรโทษกรรมคดีการเมือง ซึ่งถือเป็นปลายน้ำของการแก้ปัญหา ต้องเร่งผลักดันให้เร็วที่สุด ไม่ควรแยกกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งออกไป โดยเฉพาะอนาคตของชาติ ต้องไม่ให้เขาต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงอีกต่อไป


นายพิธา กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกลได้พยายามสื่อสารพูดคุยกับกลุ่มนักเคลื่อนไหวและเยาวชน ตั้งแต่ 2-3 ปีที่แล้ว ว่าให้คิดถึงชีวิตตัวเองก่อน แต่เราก็ไม่สามารถก้าวก่ายความเด็ดเดี่ยวของเขาได้ ทั้งนี้ ตนไม่รู้จักพวกเขาเป็นการส่วนตัว แต่หากมีโอกาสได้พบ จะบอกว่าให้เอาชีวิตตัวเองมาก่อน เพราะการต่อสู้ยังอีกยาวนาน แต่จะฟังหรือไม่ ก็เป็นสิทธิ์ของเขา

รับชมผ่านยูทูป : https://youtu.be/ths8Gf_zJgE