เลือกตั้งและการเมือง

เปิดคลิปเสียงนายอำเภอแม่วงก์ เรียกรับส่วยบ่อนไก่ ตร.เร่งขยายผล มีผู้ใหญ่ระดับจังหวัดเอี่ยว

โดย nicharee_m

20 พ.ค. 2566

347 views

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกรวบ ‘นายอำเภอแม่วงก์’ คาโต๊ะทำงาน เรียกรับส่วยบ่อนไก่ชนเดือนละ 3,000 บาท พร้อมบังคับต้องจ่ายล่วงหน้า  3 เดือน อ้างเป็นค่าทำเนียม ขู่หากไม่จ่ายจะถูกปิด เจ้าตัวให้การปฏิเสธอ้างจะนำเงินไปปรับปรุงสนามหญ้าหน้าอำเภอฯ เร่งขยายผลมีผู้ใหญ่ระดับจังหวัดเอี่ยว

    วานนี้ (19 พ.ค.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นำกำลังตำรวจเข้าจับกุม นายประสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี นายอำเภอแม่วงก์ ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินโดยมิชอบ, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” ภายในห้องทำงาน ที่ว่าการอำเภอแม่วงก์ จ.นครสวรรค์

    สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย กรณีผู้เสียหายได้รับอนุญาตเป็นผู้เปิดบ่อนไก่ชน ใน เขตอำเภอแม่วงก์ (โดยมีใบอนุญาตเป็นรายปี) แต่จะต้องมีการขอใบอนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนัน (พ.น.4) ซึ่งเอกสารดังกล่าวจะต้องมีการยื่นคำขอเป็นรายเดือน โดยวิธีการขออนุญาต คือผู้ขอจะต้องไปยื่นใบคำขออนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนัน (ยื่นคำร้องต่อนายอำเภอ) เพื่อให้นายอำเภอเป็นผู้ลงนามในใบคำร้องเพื่อยื่นต่อในระดับจังหวัด ถ้านายอำเภอไม่ลงนามในเอกสารดังกล่าว ก็จะไม่ยื่นเรื่องขออนุญาตในระดับจังหวัดได้

    กรณีนี้ผู้เสียหายได้ยื่นขออนุญาตจัดให้มีการเล่นพนันทุกเดือน และได้รับใบอนุญาตทุกเดือน โดยการขอใบอนุญาตรายเดือนนั้นจะต้องเสียค่าธรรมเนียม สังเวียนละ 220 บาทต่อเดือน ของผู้เสียหาย มี 6 สังเวียน จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 1,320 บาทต่อเดือน ส่วนเงินที่ผู้เสียหายจ่ายให้ผู้ต้องหาเดือนละ 3,000 บาท นี้เป็นเงินค่าดูแลรายเดือนให้แก่ผู้ต้องหาอีกส่วนหนึ่ง

    แต่ 3 เดือนที่ผ่านมา รวมทั้งเดือนพฤษภาคมนี้ ผู้เสียหายก็ได้รับใบอนุญาตไปแล้ว แต่ผู้เสียหายยังไม่ได้จ่ายเงินค่าลงนาม ให้กับผู้ต้องหามา 3 เดือน (ติดค้างอยู่ 3 เดือน ๆ ละ 3,000 บาท) เป็นเงิน 9,000 บาท ผู้ต้องหาก็พยายามทวงถามผู้เสียหายตลอด และข่มขู่ว่าถ้าไม่จ่ายก็ปิดบ่อนไก่ชนไปเลย

    ผู้เสียหายจึงพยายามหาเงินมาจ่ายให้ โดยนัดจ่ายเมื่อวันที่ 15 พ.ค.2566 จำนวน 2 เดือน เป็นเงิน 6,000 บาท และในวันที่ 19 พ.ค.2566 นัดหมายจะจ่ายที่เหลือและจ่ายล่วงหน้า อีก 3 เดือน (รวมเป็น 4 เดือนเป็นเงิน 12,000 บาท)

    ต่อมาวันที่ 18 พ.ค.2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช., เจ้าหน้าที่สำนักงานป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ง. ได้ประสานและวางแผนการจับกุม ร่วมกับผู้เสียหาย เพื่อกำหนดแนวทางและรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน โดยเจ้าหน้าที่ได้นำเงินสดจำนวนทั้งสิ้น 12,000 บาท มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ กองกำกับการ 4 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อเป็นพยานหลักฐาน

    ต่อมาวันที่ 19 พ.ค.2566 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ได้ร่วมกันวางแผนเพื่อแสวงหาพยานหลักฐาน โดยให้ผู้เสียหายนำเงินสดซึ่งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว นำมามอบให้นายประสิทธิ์ฯ (นายอำเภอแม่วงก์) ที่ห้องทำงานของนายอำเภอฯ โดยมีเจ้าหน้าที่ฯ เฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณโดยรอบ

    และเมื่อผู้เสียหายได้ส่งมอบเงินแล้วเดินออกจากห้อง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานเพื่อเข้าทำการตรวจค้น ขณะทำการตรวจค้น พบว่ามีเงินสดจำนวน 12,000 บาท อยู่ในกระป๋ากางเกงตัวที่นายประสิทธิ์ฯ สวมใส่อยู่ จึงทำการตรวจสอบเงินสดต่อหน้าผู้ต้องหา พบว่าหมายเลขธนบัตรตรงกับหมายเลขธนบัตร ที่ลงบันทึกประจำวันไว้

    พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ในพื้นที่อำเภอแม่วงก์ มีบ่อนไก่ชนทั้งสิ้น 17 แห่ง ผู้เสียหายเป็นหนึ่งในทั้งหมดที่รับความกดดันไม่ไหว จากการตรวจสอบของตำรวจ บก.ปปป. พบว่าค่าทำเนียมตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างไม่มีการออกใบเสร็จให้กับผู้เสียหาย ดังนั้นการกระทำของนายอำเภอรายนี้ จึงเข้าข่ายความผิดในข้างต้น รวมแล้ว 2 กรรม ต่างกรรมต่างวาระ

    เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดในข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าจะนำเงินไปปรับปรุงสนามหญ้าบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอฯ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 4 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา หลังจากนี้ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสรุปสำนวน ส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

    นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปช. กล่าวว่า หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของ ปปป. ต้องทำการสืบสวนสอบสวนขยายผล โดยมีกรอบระยะเวลา 30 วัน เชื่อว่า การขยายผลครั้งนี้อาจมีการออกหมายจับข้าราชการฝ่ายปกครองระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย เพราะผู้เสียหายยืนยันว่านอกจากนายอำเภอแล้วยังมีข้าราชการระดับจังหวัดกดดันให้จ่ายเงินด้วย

    ด้านนายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ปปท. ระบุว่า หลังจากนี้หน่วยงาน 4 ป. จะบูรณาการณ์ร่วมกันเพื่อตรวจสอบข้าราชการผู้มีอำนาจ มีใช้อำนาจในการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ทำให้ภาพลักษณ์ข้าราชการเสียหาย หากพบการกระทำความผิดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

    ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ่อนไก่ชน ในพื้นที่ ต.เขาชนกัน อ.แม่วงก์ เพื่อสอบถามกับเจ้าของบ่อนที่ได้มีการส่งเรื่องไปร้องเรียนจนนายอำเภอถูกจับ ทราบชื่อ นายนพดล ฆ้องสระน้อย อายุ 46 ปี เผยว่า ตนไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย บ่อนของตนทำและปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย แต่ที่ต้องมาร้องเรียน เพราะตนเห็นว่านายอำเภอแม่วงก์ มาเรียกรับส่วยมากเกินไปตนจะขาดทุนหรือไม่เขาไม่สนเขาจะเอา

“ปกติแต่ละอำเภอจะมีบ่อนสนามไก่ชนได้เพียงอำเภอละ 1 บ่อนเท่านั้น แต่ที่เฉพาะ อ.แม่วงก์ มีการเปิดเพิ่มขึ้นมาอีก 3 บ่อน ทั้งที่บ่อนของผมได้รับอนุญาตอย่างถูกกฎหมายเพียงเจ้าเดียว แล้วคิดดู นอกจากจะเสียค่าขออนุญาตรายปีแล้ว ยังต้องมาเสียค่าดูแลให้ท่านขุนคุณชายที่อำเภออีก เดือนละ 5 พันบาทอีกด้วย หากใครไม่จ่าย การขออนุญาตปีหน้าเขาก็จะไม่เซ็นผ่านให้”

“ช่วงที่ผ่านมาบ่อนของตนขาดทุนอย่างหนัก มันหมาจนตรอกแล้วล่ะ เรียกเก็บแบบนี้ มันเกินไป ทั้งที่บ่อนของผมขออนุญาติถูกกฏหมาย จึงทำให้ผมไม่ห่วงไม่สนใจอะไรแล้ว ถือว่ามารังแกกันมากเกินไป จึงต้องส่งเรื่องไปร้องเรียน แล้วอยากจะบอกว่า บ่อนแห่งนี้ผมจ่ายค่าเปิดไป 7 แสน แถมยังต้องมาจ่ายนอกจ่ายในเบ็ดเสร็จอีกเดือนละ 8,000 บาท ซึ่งเรื่องนี้มันเกิดตั้งแต่ที่ผู้ว่าราชการ และนายอำเภอคนนี้ย้ายมาประจำตำแหน่งที่นี่ และเมื่อเร็ว ๆ นี้ นายอำเภอก็มีการเรียกผมไปด่าว่า ปีหน้ากูไม่เซ็นอนุญาตให้ เพราะมึงต้องเอาเงินมาให้กูก่อน แถมยังจะเปิดเพิ่มบ่อนมาแข่งกับผมอีก 2-3 บ่อนในเร็ว ๆ นี้ด้วย”

    นายนพดล เจ้าของบ่อน ยังได้นำคลิปเสียงที่ได้บันทึกเป็นหลักฐาน ระหว่างที่มีการสนธนากับนายอำเภอแม่วงก์ ต่อรองกันเรื่องจ่ายค่าสินบน ซึ่งเจ้าของบ่อนได้มีการค้างจ่ายมาก่อน 3 เดือน แล้วพยายามเจรจาขอจ่ายก่อน 1 เดือน เพราะว่าช่วงนี้ฝืดเคืองไม่ค่อยมีเงิน แต่เสียงปลายสายกลับพูด อะโห อะหา บอกว่านี่มันจะ 3 เข้าเดือนที่ 4 แล้วนะ ก็เคลียร์ของเก่ามาให้หมดก่อน จนเจ้าของบ่อนต้องต่อรองว่าขอจ่าย 5 พันไปก่อนได้ไหม แล้วจะรีบทยอยจ่ายส่วนที่เหลือให้ จึงทำให้เสียงปลายสาย บอกเออๆ ด้วยสำเสียงท่าทีที่พอใจ แต่ก็ยังมีบอกแถมว่าให้มาจ่ายที่ค้างไว้ 2 เดือนเลยทีเดียวดีกว่า มันต้องดูแลกันหน่อย

    นางอธิสา แขขุนทด คณะกรรมการธรรมมภิบาล ประจำอำเภอแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนไม่ทราบว่าก่อนและรู้สึกช็อกมากเมื่อรู้ว่านายอำเภอมาถูกจับก่อนที่เขาจะเกษียณอายุราชการใน 4 เดือนข้างหน้า นิสัยใจคอของนายอำเภอคนนี้ตนพูดด้วยความสัตย์จริง เขาทำให้เห็นว่าเขาประพฤติตนดีแทบไม่มีที่ติเลย แถมยังสั่งสอนให้ข้าราชการและพนักงานลูกน้องในสังกัดของอำเภออยู่ตลอดต้องทำงานอย่างซื้อสัตย์ สุจริต ไม่ทุจริต ทำผิดกฏหมายอย่างเด็ดขาด แต่สุดท้ายกลายเป็นว่านายอำเภอมาถูกจับข้อหาเรียกรับสินบน


https://youtu.be/BtH-Z-8-Hw0

คุณอาจสนใจ