คึกคักสุดๆ! เวทีปราศรัยใหญ่ แต่ละพรรคจัดหนักโกยคะแนนโค้งสุดท้าย

เวทีพรรคปราศรัยใหญ่พรรคก้าวไกลที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง คึกคักตั้งแต่เช้า การปราศรัยจะเริ่มเวลา 18 นาฬิกา แต่มีการเปิดประตูให้กองเชียร์เข้าได้ตั้งแต่บ่าย ขณะที่ด้อมส้มแห่มาจับจองพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเช้า



บรรยากาศสดจากอาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง โดยบรรยากาศก่อนเริ่มงานเป็นไปด้วยความคึกคัก​ มีกองเชียร์มารอตั้งแต่เวลา 07.00 น.​ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึง​ เนื่องจากกลัวว่าจะไม่มีที่นั่ง​ จากนั้นในช่วงสายประชาชนเริ่มทยอยมามากขึ้น​ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น​ บางคนยังไม่มีสิทธิ์เลือกตั้ง​​ แต่ต้องการมาฟังวิสัยทัศน์ของพรรคก้าวไกล​



ต่อมาในเวลาประมาณ​ 13.00น.​ ประชาชนมารอด้านหน้าจำนวนมาก​ ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้เจ้าหน้าที่พรรคปรับแผน​ ให้มารอในตัวอาคาร​ โดยจะเปิดประตูให้เข้าในจุดจัดปราศรัยในเวลา​ 15.30 น.​



ทั้งนี้แฟนคลับส่วนใหญ่แต่งกายด้วยชุดสีส้ม​ หรือติดสัญลักษณ์พรรคก้าวไกลเพื่อแสดงถึงความชื่นชอบที่มีต่อพรรค​



หนึ่งในนั้น คือนายนฤทธิ์​ ใหญ่โสมานัง​ เจ้าของธุรกิจส่วนตัวอายุ​ 53​ปี​ ​ ที่วันนี้มาในชุดเสื้อคลุมคล้ายกิโมโนของญี่ปุ่น​ โดยบอกความหมายว่าญี่ปุ่นเป็นสัญลักษณ์ของความพ่ายแพ้ในสงคร่ามโลกครั้งที่​ 2 แต่สามารถกอบกู้ประเทศขึ้นมาใหม่​ได้จนกลายเป็นผู้นำทาเศรษฐกิจ​ เหมือนกับพรรคส้ม​ที่โดนยุบพรรคไปแล้วแต่ก็ยังสร้างพรรคใหม่ขึ้นมาได้​ ไม่มีนายธนาธรก็มีนายพิธา​ และหากไม่มีนายพิธาก็ยังมีคนอื่นๆขึ้นมาใหม่​



นอกจากนี้ตนฟังพรรคก้าวไกลปราศรัย​ ยังชื่นชอบการสื่อพลังของพรรค และกองเชียร์ก็ส่งพลังกลับไป ซึ่งไม่เคยเห็นพรรคการเมืองอื่นเป็นแบบนี้​



สำหรับเวทีปราศรัยของพรรคก้าวไกลแบ่งเป็น​ 2โซน​ คือด้านในอาคารกีฬาเวสน์ที่รองรับผู้ฟังปราศรัยได้​ 4,000 คน​ ส่วนบริเวณด้านนอกอาคารบริเวณสนามฟุตบอลรองรับได้ประมาณ 7,000​ คน​ ซึ่งมีการติดตั้งจอแอลอีดีให้รับฟังการปราศรัยเช่นเดียวกับในตัวอาคาร​



โดยทางพรรคได้จัดเตรียมการแปลสดภาษามือไว้รองรับผู้บกพร่องทางการได้ยินไว้บริเวณด้านขวาของเวที



ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัย​ มีการจัดกำลังตำรวจดูแลรอบศูนย์เยาวชน​ โดยแบ่งทางเข้าสำหรับเวทีพรรคก้าวไกลและพรรคพลังประชารัฐ ที่จัดการปราศรัยอยู่ในอาคารกีฬาเวสน์ 2ให้ใช้คนละประตู​ ส่วนทางเข้าอาคารกีฬาเวสน์1 มีการตั้งจุดคัดกรอง​ ตรวจอาวุธ​ รวมทั้งจุดบริการด้านการพยาบาล​ด้านหน้าอาคารด้วย



สำหรับลำดับการปราศรัยในวันนี้ที่จะเริ่มเวลา 18 นาฬิกา จะเริ่มจากนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล / คุณช่อ พรรณิการ์ , นายปิยบุตร , นายธนาธร ต่อด้วย นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล , นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และผู้ปราศรัยคนสุดท้ายคือนายพิธา



ซึ่งหลังจากการปราศรัยจบ ผู้สมัคร ส.ส.และแกนนำ ของพรรค นำโดยนายพิธา ก็จะเดินไปพบกองเชียร์ ผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลที่เดินทางมาในวันนี้ บริวณสนามฟุตบอลด้านข้างอาคารกีฬาเวสน์ 1 เพราะไม่สามารถเข้ามาด้านในอาคารได้เนื่องจากที่เต็ม



บรรยากาศ เวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคเพื่อไทยที่อิมแพ็คอารีน่าเมืองทองธานี ซึ่งจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในเวลาประมาณ 17:30 น. มีมวลชนผู้สนับสนุนจำนวนมาก คือป้ายไฟ ป้ายผู้สมัครหมายเลขพรรค หมายเลขผู้สมัคร มารอร่วมฟังการปราศรัยก่อนที่จะเปิดประตู ให้เข้ามาภายในอาคาร



ขณะที่กำหนดการปราศรัยจะเริ่มขึ้นในเวลา 18:00 น. โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย /ตามด้วยน.ส. แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือว่าเป็นการขึ้นเวทีครั้งแรกหลังจากคลอดบุตรชายคนที่สองน้องพฤจ์ธาษิณ เมื่อวันที่ 1พฤษภาคมที่ผ่านมา



จากนั้นจะเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ขณะที่นายชัยเกษม นิติสิริ นายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยอีกหนึ่งคนไม่ได้มาร่วมเวที เนื่องจากยังคงรักษาตัวจากอาการป่วยพบก้อนเลือดแห้งในสมอง



นอกจากนี้ ยังจะมีช่วง Talk Show ตอบโต้แบบ Realtime ด้วย นำโดย

-นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี

-นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

-นายจาตุรนต์ ฉายแสง

-นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด

-น.ส.จิราพร สินธุไพร



พรรครวมไทยสร้างชาติจัดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เปิดตัวเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ



กองเชียร์ของผูัมัครแต่ละเขต พรรครวมไทยสร้างชาติ ทยอย เดินทางเข้าห้องประชุมห้อง Exhibition hall คุณการประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่เวลา 15 นาฬิกา เพื่ิอฟังการปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้าย ที่จะเริ่มในเวลา 17.00 น. ซึ่งจะเปิดเวทีปราศรัยด้วย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค



-17.15 น. กล่าวปราศรัยโดย ม.ล.ชโยหิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ(หรือ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจ)

-17.30 น.พลตรีนายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา ประธานคณะกรรมการ

ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต

-17.45 น.ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรค

-18.15 น. นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ผู้สมัคร สส.เขต 3 อุตรดิตถ์ ***เป็นผู้สมัครต่างจังหวัดของพรรครวมไทยสร้างชาติเพียงคนเดียวที่มีกำหนดการขึ้นเวทีปราศรัย***



ไฮไลท์เวทีปราศรัย คือ เวลา 19.00 น. ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานคณะกรรมการกำหนด

แนวทางและยุทธศาสตร์พรรค จากนั้นจะเป็นการทำกิจกรรม "ปักธงชาติไทย รวมทุกหัวใจ รวมไทยสร้างชาติ"



รปภ.แน่น! ลานหน้าโชว์ดีซี ถนนพระรามเก้า เวทีจัดปราศรัยใหญ่พรรคภูมิใจไทย มีกำลังเจ้าหน้าที่ และรถตู้ตำรวจ นับ 10 คัน รักษาความปลอดภัยบริเวณหน้างาน



บรรยากาศเวทีปราศรัยใหญ่พรรคภูมิใจไทย บริเวณด้านหน้าโชว์ดีซี ถนนพระรามเก้า เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 17 นาฬิกา ตามกำหนดการจะเริ่มจาก ให้ผู้สมัครส.ส.กทม. ทั้ง 33 เขตแนะนำตัว /จากนั้น ผู้สมัครคนรุ่นใหม่ของพรรคได้ปราศรัย ก่อนที่หลัง 18 นาฬิกา นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หัวหน้าทีมกทม.ขึ้นปราศรัย จากนั้นปิดท้ายด้วยการปราศรัยของหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ก่อนถ่ายภาพปิดการปราศรัย ในเวลา 19.30 น.



ด้านผู้กำกับการสน.มักกะสัน เปิดเผยถึงการดูแลความเรียบร้อย รอบพื้นที่การปราศรัยของพรรคภูมิใจไทย ว่า ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 1 ได้สั่งการให้ตำรวจควบคุมฝูงชน 1 กองร้อย (170 นาย) สนับสนุนการปฏิบัติของ สน.มักกะสัน อีก 130 นาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มาร่วมฟังปราศรัย และดูแลความปลอดภัยให้กับผู้สมัคร ส.ส. ที่มาในวันนี้



เมื่อถามว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อาจจะเดินทางมา ได้เตรียมการเพื่อลดการปะทะอย่างไร ผู้กำกับสน.มักกะสัน กล่าวว่า การแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิ์ของแต่ละบุคคล แต่หน้าที่ตำรวจจะดูแลให้ทุกคนปลอดภัย



บรรยากาศเวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลานคนเมือง ได้เริ่มแล้วเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา บรรดาแฟนคลับพรรคประชาธิปัตย์ บางส่วนเดินทางมารอฟังการปราศรัย ตั้งแต่ช่วงบ่าย ท่ามกลางอากาศที่ค่อนข้างร้อน แต่โดยรวมบรรยากาศก็คึกคักไม่แพ้พรรคอื่นๆ



ไฮไลต์บุคคลสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะขึ้นปราศรัยในวันนี้ ประกอบด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ /นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์/ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์/ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. และดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม.



ในเพจของพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ในวันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ จะชี้ให้เห็นว่า สถานการณ์ปัจจุบันที่การเมืองเข้าสู่จุดเข้มข้นจนอาจถึงทางตัน แต่พรรคประชาธิปัตย์พร้อมจะช่วยสร้างทางรอด ให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการยึดมั่นในการทำงานบนความซื่อสัตย์สุจริต



ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เชื่อมั่นว่า การปราศรัยใหญ่ครั้งนี้จะมีส่วนทำให้ประชาชน พร้อมจะตัดสินใจเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ให้กลับมาทำงานรับใช้ประชาชนอย่างท่วมท้น

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/-j61lIqz6fk