ตำรวจยัน ปฏิบัติตามยุทธวิธี-เร่งตรวจสอบเหตุ นักข่าว-มวลชนเจ็บ

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันสกัดผู้ชุมนุมเป็นไปตามยุทธวิธี จ่อตรวจสอบหลักฐานว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุจนทำให้มีผู้บาดเจ็บหรือไม่ และจะชี้แจงประชาชนโดยเร็ว

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สรุปสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มราษฎรที่เคลื่อนขบวนออกจากลานคนเมือง มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ ว่า เบื้องต้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้ฝ่าฝืนข้อกำหนดและเงื่อนไขในการชุมนุม เรื่องการห้ามเคลื่อนขบวน และตำรวจได้แจ้งเตือนเป็นระยะแล้ว แต่ผู้ชุมนุมก็ฝ่าฝืนขว้างปาสิ่งของ ทำลายรถกระบะของตำรวจเสียหาย ต่อสู้ขัดขวางทำร้ายเจ้าหน้าที่ ทำให้ตำรวจต้องใช้กำลังเข้าจับกุมผู้กระทำความผิด และยังวางเพลิงบนรถตำรวจ จึงจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ต่างๆ ตามยุทธวิธี ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์เฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น

สรุปรวมผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมทั้งสิ้น 25 คน จากที่มีผู้มาร่วมชุมนุมกว่า 300 คน ถูกนำตัวไปดำเนินคดีในข้อหา พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ วางเพลิง ทำให้ทรัพย์สินราชการเสียหาย ทำร้ายร่างกาย ความผิดตามพ.ร.บ.จราจรทางบก และ พ.ร.บ.ความสะอาด ส่วนข้อหาอื่นๆ อยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มเติม หากเข้าข่ายความผิดก็จะมีการดำเนินคดี ซึ่งยังคงให้สิทธิผู้ชุมนุมในการติดต่อญาติและทนายความได้

ส่วนกรณีที่มีสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บอกว่า ขอตรวจสอบก่อน เพราะตำรวจมีแผนการดูแลความปลอดภัยของสื่อมวลชน คือ ต้องมีการลงทะเบียนสื่อ สวมปลอกแขน และกำหนดพื้นที่ปลอดภัยของสื่อมวลชนไว้แล้ว แต่จากภาพที่ปรากฎออกมาว่าเจ้าหน้าที่อาจปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุนั้น ทั้งประเด็นการขว้างปาแก้ว จนสื่อมวลชนโดนลูกหลง การทำร้ายสื่อมวลชน การใช้กระสุนยางยิงใส่ผู้ชุมนุม ตลอดจนการใช้ระเบิดควัน ซึ่งไม่อยู่ในอุปกรณ์ยุทธวิธี ก็จะมีการตรวจเป็นข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยยังไม่สามารถด่วนสรุปได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิด แต่ชี้แจงให้กับประชาชนทราบโดยเร็วเพื่อคลายข้อสงสัย

ขณะที่ยอดผู้บาดเจ็บ พบว่า เป็นผู้ชุมนุม 1 คน คิ้วขวาแตก และสื่อมวลชนอีก 1 คน บาดเจ็บที่ดวงตา ส่วนผู้บาดเจ็บรายอื่นๆ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติม

รับชมได้ทางยูทูบ : https://youtu.be/AMlip_Fh4zk