เลือกตั้งและการเมือง

"วิโรจน์" แฉกรมสรรพากร ยังไม่ตั้ง คกก.วินิจฉัยภาษีอากร เหตุองค์คณะไม่ครบมานานแล้ว

โดย chutikan_o

1 พ.ค. 2568

77 views

“วิโรจน์” แฉกรมสรรพากร ยังไม่ตั้ง คกก.วินิจฉัยภาษีอากร เหตุองค์คณะไม่ครบมานานแล้ว ทำให้ยังวินิจฉัยกรณี “แพทองธาร” ไม่ได้ จ่อส่งหนังสือ 3 ฉบับ “รมว.คลัง-อธิบดีกรมสรรพากร-ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน” เร่งรัดดำเนินการ จี้ตั้งผู้ทรงคุณวุฒิให้ครบองค์ ย้ำต้องปฏิบัติตามกฎหมายทัดเทียมทั้งเคสนายกฯอิ๊งค์และประชาชน

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. พรรคประชาชน ในฐานะผู้ยื่นเรื่องให้กรรมการตรวจสอบเรื่องข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงการทำธุรกรรม และการชำระภาษีเกี่ยวกับการซื้อหุ้นมูลค่า 4,434.5 ล้านบาทของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ ที่มีการเชิญ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินและอธิบดีกรมสรรพากร เข้าให้ข้อมูล ว่า ประเด็นสำคัญคือการส่งเรื่องให้ คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร วินิจฉัยกรณีของนางสาวแพทองธาร ที่ใช้ตั๋ว PN ไม่มีดอกเบี้ย และกำหนดการชำระเงิน สร้างรูปแบบการซื้อหุ้นจากบุคคลในครอบครัว ว่าเข้าข่ายการหลีกเลี่ยงหรือทำนิติกรรมอำพราง ภาษีการรับให้หรือไม่ ซึ่งตนได้ย้ำไปกับทางผู้แทนกรมสรรพากร

ผู้อำนวยการกองตรวจสอบภาษีกลาง ถามในเรื่องภาษีการรับให้ ไม่ใช่เรื่องรายได้ของบุคคลธรรมดา แต่ก็ต้องตกใจ เพราะปรากฎว่าคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรยังมีองค์คณะไม่ครบ ยังขาดผู้ทรงคุณวุฒิอยู่ 3 คน ซึ่งต้องแต่งตั้ง โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หมายความว่าหากองค์คณะกรรมการชุดนี้ไม่ครบ ก็จะวินิจฉัยกรณีของนางสาวแพทองธารไม่ได้ ซึ่งนายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส. พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร จะเร่งทำหนังสือไปถึงนายพิชัย เพื่อเร่งการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ให้ครบองค์คณะอย่างเร่งด่วน และขอทราบถึงระยะเวลาการแต่งตั้ง และเข้าใจว่าคณะนี้มีวาระ 3 ปี แต่ไม่มีกำหนดว่าจะต้องตั้งเมื่อไหร่

“ผมกังวลว่าถ้ามีการเตะถ่วง ไม่แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน ทางคุณพิชัย เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้” นายวิโรจน์กล่าว

ส่วนการแต่งตั้งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนไหนนั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า ทางกรรมาธิการก็ได้สอบถามไป ผู้อำนวยการกองตรวจสอบภาษีกลางก็ตอบว่า อยู่ในช่วงรวบรวมข้อเท็จจริง แต่ไม่สามารถตอบได้ว่าจะใช้เวลานานที่สุดเท่าไหร่ และพยายามขอไม่ตอบ เรื่องกรอบระยะเวลา

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ตนเองได้ตั้งคำถามระหว่างนี้หากมีประชาชนทั่วไปต้องการจะโอนหุ้นให้กับลูกที่มีมูลค่าเกินกว่า 20 ล้านบาทต่อปี ส่วนที่เกิน 20 ล้านต้องเสียภาษีการรับให้ และดำเนินการตามรูปแบบ ของนางสาวแพทองธาร คือการใช้ตั๋ว PN มาแลก ทางสรรพากร จะเข้าไปจัดเก็บภาษีการรับให้หรือไม่ ก็ไม่ได้คำตอบ ตอบแค่ว่าอยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริง ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการวินิจฉัย ซึ่งเรื่องนี้ประชาชนจะเสียประโยชน์อย่างมาก คนที่ต้องการโอนหุ้นให้ลูกต้องเสียภาษี 5% ไปก่อนใช่หรือไม่ เมื่อถึงเวลาหากมีการวินิจฉัยว่ากรณีของนางสาวแพทองธาร ทำได้ สรรพากรจะไม่คืนส่วนนั้นให้กับประชาชนใช่หรือไม่ ตนเองจึงเสนอว่าสามารถออกระเบียบหรือออกประกาศ ว่าระหว่างดำเนินการ จะไม่เข้าไปเรียกตรวจ ส่วนกรณีที่เข้าไปเรียกตรวจประชาชนก็สามารถอ้างได้ว่า ขอให้รอคำวินิจฉัยกรณี กรณีของนางสาวแพทองธารก่อน ทางผู้แทนของกรมสรรพากรก็ตอบกรรมาธิการว่า ไม่ชอบเรื่องสมมุติ เอาข้อเท็จจริง กรรมาธิการจึงถามต่อว่า ไม่ต้องสมมติเพราะข้อเท็จจริงมีคนโอนหุ้นให้ลูกตลอด แต่ไม่ได้คำตอบ

นายวิโรจน์ กล่าวว่า หลังจากนี้กรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจจะทำหนังสือ 3 ฉบับคือ 1.จะทำหนังสือถึงนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับการใช้อำนาจแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรให้ครบองค์คณะ ซึ่งหากทำไม่ได้ก็จะนำไปสู่หลักฐานที่ชี้ว่าละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ร้องต่อ ป.ป.ช.ได้

2.นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร ถึงกรอบเวลาในการรวบรวมข้อเท็จจริง และจะส่งให้คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรเมื่อไหร่ เช่นกรอบเวลาอย่างช้าที่สุด ที่จะนำไปร้องต่อ ป.ป.ช.ได้ และถามว่า หากประชาชนใช้โมเดลของนายกรัฐมนตรี กรมสรรพากรจะไม่ไปกล่าวหาว่าประชาชนทำความผิดใช่หรือไม่ เพื่อการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค

และ 3.นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ขอให้ใช้อำนาจทางกฎหมาย ทำหนังสือ เพราะปัจจุบันกรมสรรพากรยังไม่มีระเบียบในการทำงานเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษี กรณีใช้ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือใช้เครื่องมือทางการเงินอื่นใด หากปล่อยไปเช่นนี้ก็จะเกิดความเสียหายต่อการจัดเก็บภาษีเสียหายต่อราชการ เสียหายต่อประชาชน ซึ่งหากพบว่ามีการละเว้นหรือเตะถ่วงในหน่วยงานใด พร้อมมีการยกกรณีคุณหญิงเบญจา หลุยเจริญ มาชี้เห็น ถึงโทษอาญาและจำคุกที่จะตามมา

“เพราะการลักลั่นในการบังคับใช้กฎหมาย หรืออย่างน้อยสุญญากาศของกฎหมาย ประชาชนไม่รู้ว่าถ้าทำตามนายกฯแพทองธาร จะได้รับการปฏิบัติในการดึงระยะเวลา เหมือนกับที่นายกฯ ได้รับจากกรมสรรพากรหรือไม่” นายวิโรจน์กล่าว





คุณอาจสนใจ

Related News