“จิราพร” ลุยปราบบุหรี่ไฟฟ้าต่อเนื่อง เปิดรับแจ้งเบาะแสผ่านแอปฯ ทางรัฐ ยอดทะลุ 5,000 เคส

“จิราพร” เผยแอปฯ ทางรัฐ เปิดรับแจ้งเบาะแสบุหรี่ไฟฟ้า ยอดทะลุ 5,000 เคสแล้ว ย้ำนำกฎหมาย ปปง. มาขยายผลสอบเส้นทางเงิน สั่งศึกษาแนวทางขึ้น Blacklist บริษัทนำเข้าสิ่งผิดกฎหมาย มอบอำนาจศุลกากรเปิดตู้ หากเจ้าของไม่มาตามกำหนด 30 วัน

วันที่ 4 เม.ย.68 นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมหารือมาตรการเกี่ยวกับการควบคุมการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า ว่า วันนี้มีการประชุมประจำสัปดาห์ เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชน โดยประชุมร่วมกับ 20 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามการทำงาน 3 ส่วน คือ เร่งรัดปราบปราม เร่งรัดประชาสัมพันธ์ และ การแก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การทำงานของเจ้าหน้าที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โดยการปราบปราม ด่านพรมแดนมีกรมศุลากรเป็นหน่วยงานหลัก ทำงานอย่างเข้มข้นจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าด่านชายแดน ที่จับกุมและได้แถลงข่าวขณะนี้อยู่ในการดูแลของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ซึ่งรับเป็นคดีพิเศษ และจะมีการขยายผลการจับกุมเครือข่ายต่าง ๆ ต่อไป

ขณะที่การปราบปรามภายในประเทศ มีการปราบปราม 2 ส่วน คือ ร้านค้าที่มีที่ตั้ง และร้านค้าอออนไลน์ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. และกรมศุลกากร เพื่อปราบปรามอย่างต่อเนื่อง ช่วงที่มีสถานการณ์แผ่นดินไหว ยังคงเดินหน้าปราบปรามอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นจะมีการขยายผลและสืบเส้นทางการเงิน โดยส่ง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เพื่อสอบอายัดต่อไป

ส่วนการแจ้งเบาะแสผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ เปิดรับแจ้งเบาะแสผู้นำเข้าหรือผู้จำหน่ายแล้ว ตั้งแต่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา ทั้งที่มีที่ตั้งร้านค้าและออนไลน์ พบมีการรับแจ้งเข้ามาแล้ว 5,863 เรื่อง แบ่งเป็นออนไลน์กว่า 3,400 เรื่อง และที่ตั้งร้านค้ากว่า 2,300 ร้านค้า ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. อยู่ระหว่างกลั่นกรองข้อมูล เพราะช่วงแรกข้อมูลยังไม่ครบถ้วน โดยเฉพาะเรื่องที่ตั้งร้านค้า ดังนั้นจะมีการบริหารจัดการข้อมูล เพื่อส่งต่อให้กับเจ้าหน้าที่ดำเนินการในพื้นที่ต่อไป ขณะนี้ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) หรือ DGA กำลังประสานกับสถานบันข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ในการเอาข้อมูลการรับแจ้งและสถานะการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ขึ้น Dashboard ประชาชนสามารถติดตามการทำงานได้

นางสาวจิราพร ยังกล่าวถึงการประชาสัมพันธ์ด้านการตระหนักรู้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานต่อเนื่อง แต่หลังจากนี้จะมีความเข้มข้นมากขึ้น อาทิ จัดกิจกรรมในการลงพื้นที่ และกิจกรรมสร้างความรู้ให้กับประชาชนทั่วไป และสถานศึกษา โดยเฉพาะครู ผู้ปกครอง และนักเรียน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เป็นช่วงปิดเทอม จึงมีการวางแผนที่จะคิกออฟกิจกรรมในหลาย ๆ ที่ ส่วนเปิดเทอมจะมีกิจกรรมที่สถานศึกษา

ขณะที่การแก้ไขกฎหมายในระดับที่เป็นประกาศและระเบียบของทางหน่วยงาน ได้มีการตั้งประเด็นสำคัญเพื่อให้การทำงานของเจ้าหน้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเมื่อมีการเข้มงวดที่ด่านศุลกากร พบว่ามีการลักลอบนำบุหรี่ไฟฟ้าผ่านแดน ฉะนั้นกรมศุลกากร จึงได้มีการแก้ประกาศ เพื่อให้การตรวจค้นตู้สินค้าเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเวลาได้รับแจ้งมีสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าของตู้สินค้าจะต้องเดินทางมาเปิดตู้ด้วยตนเอง หากไม่มาต้องรอระยะเวลา 30 วัน ให้ตกเป็นของแผ่นดิน จึงจะสามารถเปิดตู้สินค้าได้ ซึ่งจะมีผลต่อการขยายผลจับกุม

ทั้งนี้ นางสาวจิราพร ยังระบุอีกว่า มีการตั้งประเด็นให้ไปศึกษาเพิ่มเติมเรื่องการนำเข้ามาที่กรมศุลกากร หากบริษัทใดนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายจะขึ้น Watchlist ไว้ หากนำเข้าครั้งหน้าจะติดตามเป็นพิเศษ ซึ่งตนเองจึงตั้งประเด็นไว้ว่าให้ไปศึกษาดูว่าจะทำอย่างไร ให้บริษัทนำเข้าสิ่งผิดกฎหมายถูก Blacklist ไม่ให้จดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ได้