เลือกตั้งและการเมือง
'ณัฐวุฒิ' รับกลืนเลือด นั่งที่ปรึกษาฯ 'อุ๊งอิ๊ง' ชี้การเมืองไทยเป็น 3 ก๊ก เดี๋ยวจับมือ เดี๋ยวตีกัน
โดย nattachat_c
9 ต.ค. 2567
33 views
เมื่อวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2567 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงนามในคำคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐนตรีเพิ่มเติม ตามที่ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินและการขับเคลื่อนงานของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11(6) แห่งพระระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2535
จึงแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพิ่มเติม เพื่อทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษาและพิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่าง ๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ดังนี้
1. นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส
2. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ต่อมา วานนี้ (8 ต.ค. 67) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อตรวจสอบนายกรัฐมนตรี เรื่อง การแต่งตั้งนายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี (ลงวันที่ 16 ก.ย. 2567) และ การแต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ (ลงวันที่ 4 ต.ค. 2567)
โดยเทียบกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะนายกรัฐมนตรี ถูกศาลวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ในฐานะนายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลง เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (การตั้งนายพิชิต ชื่นบาน ซึ่งเป็นบุคคลมีคดีความ คิดคุก ติดตาราง)
ในวันเดียวกัน นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์หลังประชุม ครม. ถึงเหตุผลการแต่งตั้ง นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ว่า เกี่ยวข้องกับการตอบโต้เรื่องการชุมนุม หรือการเมืองโดยเฉพาะเลยหรือไม่ ว่า อันนี้อาจจะเป็นเวลาที่พอดีแต่ไม่เกี่ยวกัน เนื่องจากได้ทำงานร่วมกันในสมัยเป็นครอบครัวเพื่อไทย และเห็นความสามารถหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง การบริหารจัดการที่ให้คำปรึกษาตนมาโดยตลอด จึงคิดว่าไทม์มิ่งตรงนี้เหมาะกับนายณัฐวุฒิที่จะเข้ามาทำงานพอดี และนอกรอบได้พูดคุยปรึกษากันเรื่อย ๆ และคิดว่าน่าจะทำประโยชน์ได้เยอะ
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเหตุผล ที่นายณัฐวุฒิ ยอมกลืนเลือดกลืนเนื้อ กลับมาทำงานกับรัฐบาล นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ตอบคำถาม
ในวันเดียวกัน ตอนเช้า นายณัฐวุฒิ ให้สัมภาษณ์เปิดใจในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ยอมรับว่า ยอมกลืนเลือดกลับมารับตำแหน่ง เพราะเข้าใจความเป็นจริงทางการเมือง พร้อมยอมรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่ยืนยันไม่ได้เป็นคนกลับกลอก และไม่คิดว่ากรณีนี้ จะเป็นการตอกย้ำคำครหาเรื่องเพื่อไทยตระบัดสัตย์
เมื่อเริ่มการสัมภาษณ์ นายสรยุทธยุทธถามถึงเหตุผลที่ตัดสินใจมารับตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีทันที ทั้งที่ ก่อนหน้านี้เคยบอกว่า จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือร่วมกิจกรรมกับพรรคเพื่อไทย และรัฐบาล ซึ่งนายยุทธถามตรง ๆ ว่า ถือเป็นการกลับคำ เป็นการกลืนน้ำลายหรือไม่ รวมถึงจะยิ่งทำให้ข้อหา 'ตระบัดสัตย์' ของพรรคเพื่อไทยที่ยังสะบัดไม่ออก กลับมาอีกหรือไม่
นายณัฐวุฒิ ก็พยายามบอกว่า ตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกฯ ไม่ได้มีอำนาจอะไร ไม่มีค่าตอบแทน แค่เสนอความคิดเห็นตามที่นายกฯ มอบหมาย ซึ่งบางคนก็เป็นห่วง บอกให้อยู่เบื้องหลังก็ได้จะได้ไม่พบกับแรงเสียดทาน แต่ตนยืนยันว่า ต้องเปิดเผย เพราะไม่อยากรู้สึกว่าปิดบังประชาชนอยู่
และเปิดเผยด้วยว่า ในช่วงท้ายของรัฐบาลเศรษฐา ได้รับปากกับนายกฯ เศรษฐา ว่าจะมาช่วยงานอย่างเปิดเผย แต่ยังไม่ทันได้เข้ามา นายเศรษฐาก็พ้นตำแหน่งนายกฯ ไปก่อน
ส่วนคำถามว่ากลืนน้ำลายหรือไม่ นายณัฐวุฒิ ตอบกลับว่า "กลืนเลือด กลืนทุกอย่าง ซึ่งที่ต้องกลืนสารพัดอย่างนี้ เกิดพร้อมกับการเรียนรู้ที่จะอยู่กับความเป็นจริงทางการเมือง" และไม่เชื่อว่า การมารับตำแหน่งนี้จะยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทยไม่หลุดจากคำครหาว่า "ตระบัดสัตย์"
นายณัฐวุฒิ มองว่า สภาพการเมืองตอนนี้ เป็นการเมือง 3 ก๊ก ซึ่งในก๊กที่เป็นกลุ่มอำนาจเก่า -เพื่อไทย - ก้าวไกล บางช่วงก๊กนี้ก็ดีกับก๊กนั้น บางช่วงก็ทะเลาะกับก๊กนั้น ซึ่งถ้าเงื่อนไขยังเป็นแบบนี้ ใน 3 ก๊กนี้ ต้องเลือกจับมือกับก๊กใดก๊กหนึ่งจาก 2 ก๊ก
นายณัฐวุฒิ มองว่า การแลนด์สไลด์เป็นเรื่องยาก และการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคก้าวไกลจะเป็นแบบเพื่อไทยตอนนี้ คือลำบากในการจับมือกับก๊กอื่น เป็นคำถามที่ตอบยาก
นายณัฐวุฒิ ยืนยันว่า นายกฯ แพทองธาร ไม่จำเป็นต้องมีพี่เลี้ยง เพราะเป็นนายกฯ ที่มีศักยภาพ ส่วนที่อาจถูกมองว่ามีความแรง โดยเฉพาะกรณีล่าสุด ที่เหมือนเอาคนวิพากษ์วิจารณ์มาแขวนให้ทัวร์ลง นายณัฐวุฒิ บอกว่า นายกฯ ไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น แต่เป็นคนที่มีความตรงและชัดเจน เป็นตัวตนของนายกฯ ที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน แต่ยอมรับว่าในสภาพสังคมที่เป็นอยู่ นายกฯ อาจจะต้องมีการปรับองศาให้กลมกล่อมมากขึ้น ซึ่งก็ต้องให้เวลานายกฯ เพราะเพิ่งเป็นนายกฯ มาเดือนเดียว
นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิ ยังชี้แจงถึงเรื่องคลิป "เผาเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง" ที่ถูกนำมาโจมตีอีกครั้งว่า คลิปนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมใหญ่ที่ราชประสงค์ในปี 2553 เลย แต่เป็นคลิปที่ถูกตัดต่อขึ้นมาเพื่อเอาผิดกับตน ความจริงเป็นการปราศรัยที่เขาสอยดาว จ.จันทบุรี ในช่วงเดือนมกราคม 2553 ก่อนจะมีการชุมนุมที่ผ่านฟ้าฯ และ ราชประสงค์
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/kTNTu6260xc