เลือกตั้งและการเมือง
รุมจวก! 'ตุลาการศาล รธน.' ปมเหน็บยุบ 'ก้าวไกล' เตือนใช้อคติ ระวังโดนร้องจริยธรรม
โดย petchpawee_k
22 ส.ค. 2567
30 views
จากกรณีที่นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดบนเวทีสัมมนาวิชาการ ว่า “ยุบปั๊บ เอ้า ไปเปิดพรรคใหม่ได้ เอ้า ไม่ข้องใจแล้วหรือ? เมื่อวานร้องไห้อยู่ พรรคเราจะไปแล้ว อย่างนู้นอย่างนี้ โอ้ สองวันเลิก จากน้ำตาเป็นเสียงหัวเราะ ยักไหล่แล้วไปต่อ เงิน 20 ล้าน” จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก
เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.67) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.พรรคประชาชน โพสต์ X แสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า “อีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่จะจารึกไว้ว่าผู้คนจะจดจำเหตุการณ์แบบนี้ และ คนที่ทำให้เกิดความบิดเบี้ยวนี้แบบไหน
สำหรับคนที่อาจจะเสียใจเพราะโดนทุบทำลายความหวังจากคนที่ไม่มีส่วนยึดโยงกับประชาชนเลย มาร่วมเดินทางไปด้วยกันนะครับ” พร้อมกับโพสต์เว็บไซต์ของพรรคประชาชน
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิสร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความใน X ระบุว่า “ผมสะท้อนหลักปรัชญาของชีวิตทั่วไปก็แล้วกันนะครับ คนเราถ้ามัวแต่มองก้อนอาจมที่เดินผ่านมาแล้ว ต้องเสียเวลาหยิบก้อนหินขว้างปาสุนัขที่เห่าหอนอยู่เบื้องหลัง สู้เอาเวลามองไปข้างหน้า ดูแลเอาใจใส่สหายร่วมทาง แล้วเร่งเดินสู่จุดหมายจะดีกว่าครับ”
นอกจากนี้ นายวิโรจน์ยังแสดงความเห็นกับผู้สื่อข่าว โดยบอกว่า นายอุดม อาจจะขาดความตระหนักว่า ไปร่วมงานเสวนาในฐานะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จึงพูดออกมาตามที่คิดอยู่ในใจ โดยไม่ระมัดระวัง จนทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัย ว่าการปฏิบัติหน้าที่ของนายอุดมนั้นมีอคติหรือไม่ จึงขออนุญาตแนะนำให้นายอุดมไปอ่านมาตรฐานจริยธรรมของตุลาการ เชื่อว่าหลังจากที่ได้อ่าน ด้วยอายุของนายอุดม น่าจะปรับปรุงตัวเองได้ไม่ยากนัก ตนเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า หากนายอุดม ตลอดจนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านอื่น ได้มาดูคลิปการพูดของนายอุดม เชื่อว่าหลายท่านก็น่าจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่นายอุดมพูดเช่นกัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่านายอุดมจะปรับปรุงการพู และการให้ความคิดเห็นให้มีวุฒิภาวะที่เพิ่มขึ้นในครั้งถัดๆ ไป
นางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์ X ระบุว่า “ในฐานะผู้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตด้วยข้อหาฝ่าฝืนจริยธรรม สส. อย่างร้ายแรง ขอตั้งคำถามว่า มาตรฐานทางจริยธรรมและมาตรฐานทางวิชาชีพของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญควรถูกตรวจสอบหรือไม่ จากการแสดงความเห็นเช่นนี้ต่อจำเลยในคดีที่ตนเองรับผิดชอบ และความเห็นต่อผลแห่งคดี หรือศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ สามารถตรวจสอบทุกองค์กรได้หมด โดยปราศจากความรับผิดชอบใดๆ ต่อประชาชน ? ”
ด้านนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน โพสต์ X ปลุกตรวจจริยธรรม โดยมีข้อความว่า “ผมอยากเชิญชวนทุกคนที่มีความรู้สึกไม่พอใจกับบทสัมภาษณ์นี้ ร่วมกันแปร “พลัง” ดังกล่าวมาเป็นการส่งเสียงให้พรรคการเมืองและสมาชิกรัฐสภาร่วมกันแก้ปัญหาที่ต้นตอ โดยการ
1. แก้รัฐธรรมนูญ เรื่องศาลรัฐธรรมนูญ-องค์กรอิสระ เช่น
- จำกัดขอบเขตอำนาจที่ถูกขยายเกินขอบเขตให้มีความเหมาะสมและได้สมดุล (รวมถึงอำนาจเรื่องมาตรฐานจริยธรรม)
- ปรับกระบวนการได้มาซึ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ที่หลากหลาย มีความยึดโยงกับประชาชน และได้บุคคลที่เป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่ายว่าสามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลางได้
- เพิ่มกลไกตรวจสอบ-ถอดถอน สำหรับกรณีที่มีการใช้อำนาจโดยมิชอบ
2. แก้ พ.ร.ป. พรรคการเมือง เพื่อทบทวนเงื่อนไขการยุบพรรคให้สอดคล้องกับหลักสากล
หนทางนี้ คือหนทางที่ตัวแทนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เดินหน้าทำได้ เพื่อออกแบบโครงสร้างทางการเมืองที่ป้องกันไม่ให้ปัญหาหรือการกระทำลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต”
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่า มันไม่ใช่เรื่องตลก ไม่ใช่เรื่องที่สามารถเอามาพูดเล่นกันได้ ว่าการยุบพรรคทำให้พรรคประชาชนมีรายได้ 20 ล้าน การยุบพรรคก้าวไกลทำให้นักการเมืองที่มีคุณภาพ ที่ควรจะเป็นอนาคตของประเทศ ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง การยุบพรรคทำให้เพื่อน สส.ในบัญชีรายชื่อ ไม่มีสิทธิ์อีกต่อไป ทำให้เราต้องแสวงหาสมาชิกกันใหม่ ทำให้ประชาชนที่เป็นสมาชิกของเราถูกทำลาย ความเสียหายที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ความเสียหายของพรรคก้าวไกลเท่านั้น แต่เป็นความเสียหายของประชาชน ที่เขาอยากจะเห็นการเมืองที่ต่อสู้กันด้วยนโยบาย ต่อสู้กันทางความคิด การใช้กฎหมายในการยุบพรรค ควรจะเป็นสิ่งที่หมดไปได้แล้ว น่าเสียดายที่ยังเป็นแบบนั้นอยู่ ผมเองก็ค่อนข้างตกใจกับความคิด ผมอ่านดูแล้ว ผมรู้สึกว่าคนที่สั่งการให้ยุบพรรคแบบนี้ ไม่ได้รู้สึกว่า มันเป็นสิ่งไม่ควรทำ
ขณะที่ ศ.ธงทอง จันทรางศุ อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า “แต่โบราณมาท่านเตือนไว้นักหนาว่า นักกฎหมายต้องระมัดระวัง ไม่ทำงานด้วยอคติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเป็นผู้พิพากษาตุลาการ
เมื่อตัดสินคดีความอย่างไรไปแล้ว ก็ต้องวางใจเป็นอุเบกขา เพื่อเป็นเครื่องยืนยันบอกกับตัวเองได้ว่า ได้ตัดสินคดีแล้วโดยปราศจากความลำเอียง หากไม่ได้ทำเช่นนั้น แต่ทำตรงกันข้าม ก็ชวนให้คนสงสัยว่า การพิพากษาอรรถคดีที่ผ่านมาได้กระทำโดยปราศจากอคติจริงหรือ”
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก็มีมาตรฐานจริยธรรมที่ต้องยึดถือปฏิบัติเช่นเดียวกับที่ใช้กับ ส.ส. ส.ว. และรัฐมนตรี ในหมวดจริยธรรมอันเป็นค่านิยมหลัก ข้อ 17 ระบุว่าต้อง ไม่กระทำการใด ที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง
ในหมวดจริยธรรมทั่วไป ข้อ 23 ต้อง ปฏิบัติต่อประชาชนด้วยความเต็มใจ โปร่งใส ปราศจากอคติและเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การอภิปรายในที่สาธารณะที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อตำแหน่งตุลาการ และมีอคติ ไม่เคารพศักดิ์ศรีของบุคคลอื่น เป็นประเด็นที่สามารถร้องเอาผิดทางจริยธรรม ต่อ ปปช. ตามมาตรา 234 ของรัฐธรรมนูญได้ ใครพบเห็นว่า มีการกระทำที่เข้าข่าย ดำเนินการได้เลย”
ด้าน ผศ.ดร.พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ผ่านแอปพลิเคชั่น X ถึงเรื่องดังกล่าว ว่า “ผมว่า ครั้งนี้งานเข้าศาลรัฐธรรมนูญแล้วล่ะครับ เพราะตุลาการท่านหนึ่งไปแสดงความเห็นแบบไม่คิดเลยว่าเหมาะสมหรือไม่อย่างไรในสถานะความเป็นตุลาการ
อย่าลืมว่ามาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนั้นก็มีนะครับ และที่สำคัญคือฉบับเดียวกันกับที่ท่านใช้วินิจฉัยคดีคุณเศรษฐานั่นแหละ”
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/EVf7u0wPK30
แท็กที่เกี่ยวข้อง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ,ก้าวไกล ,เหน็บก้าวไกล