เลือกตั้งและการเมือง

'พิธา' ลั่นขอให้ 'ก้าวไกล' เป็นพรรคสุดท้าย ถูกยุบคดีล้มล้างฯ แนะ 'อุ๊งอิ๊ง' ควรมีเป้าหมายงานให้ชัด อย่าเมาหมัด

โดย panwilai_c

10 ต.ค. 2567

78 views

พิธา ลั่น ขอให้พรรคก้าวไกล เป็นพรรคสุดท้าย ถูกยุบคดีล้มล้าง หลัง ธีรยุทธ ยื่นลงดาบ เพื่อไทย ซัดล้มล้างการปกครองในไทยมีกรณีเดียวคือ “รัฐประหาร” ปลุกทุกพรรคการเมืองช่วยกันแก้ รธน.



10 ต.ค. 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร จะยื่นคำร้องขอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 นายพิธา ย้ำว่า คงเป็นการยืนยันว่าทุกพรรคการเมืองควรช่วยกันร่วมแก้รัฐธรรมนูญ เรื่องจริยธรรม



นายพิธา กล่าวต่อว่า จริยธรรมเป็นเรื่องดี ในสังคมควรจะมี แต่ไม่ควรใช้เป็นอาวุธในการทำลายล้างกัน การจะร้องอะไร ก็ควรจะมีโทษที่ได้สัดส่วนกับการร้อง ซึ่งสิ่งที่สังคมร่วมกันจรรโลง คือ การเห็นว่าจริยธรรมอันไหนเหมาะหรือไม่เหมาะ ไม่ควรใช้เป็นลงโทษหรือตัดสิทธิ์ทางการเมือง นี่น่าจะเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้นักการเมืองทุกพรรคร่วมกันพูดคุยเรื่องนี้ได้ว่า ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญได้แล้ว



ส่วนจะให้กำลังใจอย่างไรกับพรรคเพื่อไทยบ้างนั้น ตนยังยืนยันคำเดิมว่า ขอให้พรรคก้าวไกลเป็นพรรคสุดท้ายที่เจออะไรแบบนี้ ขอให้การกระทำแบบนี้ ถ้าเลิกไปเลยได้ก็ดี แต่หากจะให้มีอะไรแบบนี้ โทษที่ได้ต้องได้สัดส่วน ไม่ใช่ปลดนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนเลือกมา หรือยุบพรรคที่ประชาชนตั้งกันมา มันไม่ควรมีอีกแล้วในการเมืองไทย การล้มล้างการปกครองในประเทศไทยมีเพียงอย่างเดียวคือการรัฐประหาร ซึ่งตนก็ไม่อยากเห็นพรรคเพื่อไทยถูกยุบ



เมื่อถามว่าการยื่นคำร้องนายธีรยุทธ จะเสมือนเป็นการเปิดหน้าว่า ใครอยู่เบื้องหลังในการยุบพรรคก้าวไกลด้วยหรือไม่ นายพิธา ระบุว่า ตนไม่ได้ใส่ใจถึงเรื่องนั้น แต่คิดว่าเป็นกระบวนการที่ไม่น่าเสียเวลา และเสียสมาธิ ซึ่งนางสาวแพทองธารก็ต้องมีสมาธิในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ไม่ควรมาเสียเวลากับเรื่องอะไรแบบนี้



ส่วนมีความเห็นอย่างไร ที่ข้อกล่าวหาล้มล้างการปกครองไม่ใช่พรรคก้าวไกลพรรคเดียวที่โดน นายพิธา กล่าวว่า ความอปกติในระบอบประชาธิปไตย จะกลายเป็นความปกติไป เหมือนที่มีการทำรัฐประหาร 12 ครั้งในประเทศไทย แล้วรู้สึกว่ามันปกติ พอมีกระบวนการเช่นนี้ ทุกคนก็จะคาดเดาว่า แย่แน่นอน แต่ไม่ควรจะมีใครต้องเสียสมาธิในเรื่องแบบนี้ ควรนำสมาธินั้นมาทำนโยบายแข่งขันกัน เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/w7EXPBaOxpk

คุณอาจสนใจ

Related News